คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กรรมต่างหาก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารสิทธิ (ใบถอนเงิน/สมุดคู่ฝาก) เป็นกรรมต่างหาก แม้มีเจตนาปกปิดความผิดก่อนหน้า
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 22 กันยายน 2535 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 12มิถุนายน 2538 เวลากลางวัน จำเลยได้ปลอมใบถอนเงินเพื่อถอนเงินจากธนาคารผู้เสียหาย และใช้ใบถอนเงินดังกล่าวถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของ บ. และ ส. ลูกค้าของผู้เสียหายรวม 20 ครั้ง อันเป็นความผิดสำเร็จไปแล้วต่อมาระหว่างวันที่ 28มิถุนายน 2537 ถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2539 จำเลยจึงได้ทำการปลอมสมุดคู่ฝากที่ธนาคารผู้เสียหายออกให้แก่ บ. และ ส. โดยจำเลยพิมพ์ข้อความในช่องวัน เดือน ปีกับเติมและตัดทอนข้อความในช่องฝาก ช่องถอน ช่องคงเหลือและลงชื่อจำเลย แล้วมอบให้ บ. และ ส. เพื่อให้บุคคลทั้งสองหลงเชื่อว่าเป็นสมุดเงินฝากของธนาคารผู้เสียหายที่แท้จริงและเงินฝากของบุคคลทั้งสองมีอยู่ตามจำนวนที่จำเลยทำขึ้นอันเป็นการกระทำเพื่อปกปิดความผิดฐานปลอมและใช้ใบถอนเงินปลอมของจำเลย ความผิดฐานปลอมและใช้สมุดคู่ฝากจึงเป็นการกระทำต่อ บ. และ ส. ซึ่งเป็นผู้เสียหายคนละรายกับข้อหาความผิดฐานปลอมและใช้ใบถอนเงินปลอม จึงเป็นความผิดต่างกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7843/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดบทลงโทษที่ถูกต้องตามฟ้อง และการแยกความผิดตามกรรมต่างหากในคดีทรัพย์สินทางปัญญา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยปลอมปนน้ำมันเครื่องอันเป็นเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อจำหน่ายและเพื่อให้บุคคลอื่นใช้และขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 236 นั้น ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 236 จะต้องปรากฏข้อเท็จจริงว่าการปลอมปนนั้นน่าจะเป็นอันตรายแก่สุขภาพด้วยแต่โจทก์มิได้บรรยายถึงข้อเท็จจริงไว้ในฟ้องแต่อย่างใด ส่วนคำฟ้องที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมฯ มาตรา 31,52 นั้น โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้ใช้เครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาตอันจะเป็นความผิดตามกฎหมายดังกล่าวได้ ดังนั้น แม้จำเลยรับสารภาพศาลก็ไม่อาจลงโทษจำเลยในความผิดดังกล่าวได้
โจทก์บรรยายฟ้องแยกมาเป็นข้อ 2.กกับข้อ2.ข แสดงว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยต่างกรรมกัน แต่โจทก์บรรยายการกระทำความผิดของจำเลยหลายข้อหารวมกันในคำฟ้องข้อเดียวกันในข้อ 2.ก ส่วนหนึ่งและข้อ 2.ข อีกส่วนหนึ่ง โดยการกระทำที่บรรยายฟ้องรวมอยู่ในแต่ละข้อหานั้น โจทก์มิได้บรรยายแยกแยะ การกระทำของจำเลยให้ปรากฏชัดแจ้งพอที่จะให้เห็นได้ว่าประสงค์ให้ลงโทษจำเลยตามฟ้องข้อ 2.กและข้อ 2.ข ในแต่ละข้อหาเป็นแต่ละกรรมแยกต่างหากจากกัน ดังนี้ศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยในทุกข้อหาตามฟ้องข้อ 2.กและข้อ2.ขเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันนอกเหนือไปจากคำฟ้องหาได้ไม่เพราะขัดต่อพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศฯ มาตรา 26 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4339/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารปลอมจดทะเบียนรถยนต์ถือเป็นกรรมต่างหาก และเป็นความผิดทั้งเอกสารสิทธิและเอกสารราชการ
เอกสารที่จำเลยยื่นแต่ละครั้งเป็นเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนรถยนต์ต่างกันแต่ละคัน จึงเป็นกรรมกระทำความผิดต่างหากจากกันเอกสารใบเสร็จรับเงินเป็นเอกสารที่เป็นหลักฐานแห่งการก่อเปลี่ยนแปลงโอน สงวนหรือระงับซึ่งสิทธิ จึงถือเป็นเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(9) สำหรับเอกสารเรื่องราวจดทะเบียนรถยนต์ของกรมตำรวจเป็นเอกสารที่เจ้าพนักงานได้ทำขึ้นเพื่อใช้ในราชการจึงเป็นเอกสารราชการ การที่จำเลยนำเอกสารปลอมดังกล่าวไปใช้ จึงเป็นความผิดฐานใช้เอกสารสิทธิและเอกสารราชการปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคแรก ประกอบด้วยมาตรา 265

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3662/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปล้นทรัพย์หลายกรรมต่อเนื่องกัน: พิจารณาเป็นกรรมต่างหาก
จำเลยทั้งเจ็ดร่วมกันปิดถนนปล้นรถยนต์ที่ผ่านมา ตามพฤติการณ์ของจำเลยนั้นเมื่อทำการปล้นผู้โดยสารบนรถยนต์คันใด เสร็จแล้ว จึงได้ทำการปล้นผู้โดยสารบนรถคันต่อ ๆ ไปที่ผ่านมาใหม่ จนครบ 4 คัน จึงเป็นการกระทำต่างกรรมกันหาใช่เป็นกรรมเดียวกันไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2042/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายยาเสพติดเป็นกรรมต่างหากจากการมีไว้เพื่อจำหน่าย แม้จะเป็นยาเสพติดชุดเดียวกัน
มีเฮโรอีนเพื่อจำหน่าย 4 หลอด จำหน่ายไป 1 หลอด จับจำเลยได้พร้อมด้วยเฮโรอีนที่เหลือ 3 หลอดกับเงินที่ล่อซื้อ ความผิดฐานมีเฮโรอีนเพื่อจำหน่าย 4 หลอด กับจำหน่ายเฮโรอีน 1 หลอด เป็นต่างกระทงกัน