คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กระทำร่วมกัน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในความผิดอาญา: การกระทำร่วมกันเป็นกรรมเดียวกัน
จำเลยทั้งสองร่วมกันนำเฮโรอีนจำนวนเดียว กันออกนอกประเทศแต่ แบ่งแยกหน้าที่กันซุกซ่อน โดย จำเลยที่ 1 ซุกซ่อน ติดตัว ไป 3 ก้อนจำเลยที่ 2 ซุกซ่อน ติดตัว ไป 9 ก้อน จำเลยทั้งสองนั่งรถแท็กซี่คันเดียวกันไปยังท่าอากาศยานกรุงเทพเพื่อเดินทางออกนอกประเทศโดย เครื่องบินลำเดียวกัน และถูก จับในเวลาไล่เลี่ยกัน ขณะอยู่ห่างกัน 40 เมตร ดังนี้ การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการร่วมกันกระทำผิดในกรรมเดียวกัน เมื่อจำเลยที่ 2 เคยถูก โจทก์ฟ้องและมีคำพิพากษาถึงที่สุดในกรรมนี้ไปแล้ว โจทก์มาฟ้องจำเลยที่ 2อีกจึงเป็นฟ้องซ้ำ ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(4) ศาลชอบที่จะยกฟ้องโจทก์เฉพาะตัว จำเลยที่ 2.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์โดยการกระทำร่วมกัน, การแนะนำ พาตัวไปยังที่เปลี่ยว, และการทำร้ายร่างกาย
จำเลยทั้งสามไล่ตาม ผู้เสียหายทั้งสองไปจนทันแล้วจำเลยที่ 3ตบหน้าและชิง เอาเงินของผู้เสียหายไป โดย จำเลยที่ 2 ล็อก คอผู้เสียหาอีกคนหนึ่งไว้เพื่อมิให้เข้าช่วยเหลือกัน จำเลยที่ 1 แนะนำให้พาผู้เสียหายทั้งสองเข้าไปในซอย เพราะเกรงว่าจุดที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนอาจมีผู้ผ่านไปมาพบเห็น จำเลยที่ 2 ที่ 3 ก็ล็อก คอและลากตัวผู้เสียหายเข้าไปในซอย แล้วจำเลยที่ 3 ลงมือทำร้ายผู้เสียหายอีกแม้จำเลยที่ 1 จะห้ามปรามก็เป็นขณะที่การประทุษร้ายต่อ ทรัพย์ได้ผ่านพ้นไปแล้ว การกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นการกระทำร่วมกับจำเลยที่ 3 มาตั้งแต่ ต้น จนเหตุการณ์สิ้นสุดลง การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงเป็นความผิดฐาน ปล้นทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1891/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามทำร้ายร่างกาย: การกระทำร่วมกันและการหลบหนีของผู้ถูกทำร้าย
จำเลยที่ 1 ใช้ไม้คมแฝกตีผู้เสียหายซึ่งยืนโต้เถียงกับจำเลยที่ 1 อยู่ในระยะห่างกัน 1 วา แต่ผู้เสียหายหลบเสียทัน จึงไม่ถูก เมื่อผู้เสียหายหนี จำเลยที่ 2,3 หยิบมีดร่วมกับจำเลยที่ 1 ไล่ทำร้ายผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายหนีเข้าห้องเสียทัน จึงทำร้ายไม่ได้ ดังนี้จำเลยทั้งสามมีความผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 465/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์: การกระทำร่วมกันแบ่งหน้าที่ชัดเจนเป็นองค์ประกอบสำคัญ
เริ่มแรกคนร้ายได้ร่วมกันมาสามคน และกระตุกท้ายรถจักรยานสองล้อที่ผู้เสียหายกำลังขี่อยู่ล้มลง จากนั้นคนร้ายคนหนึ่งก็ขี่รถจักรยานสองล้อคันนั้นไป อีกสองคนใช้มีดเข้าจี้และได้ขู่ไม่ให้ผู้เสียหายร้อง และให้ถอดสร้อยคอทองคำให้ ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นการแบ่งหน้าที่กันกระทำความผิดกรณีจึงครบองค์ความผิดฐานปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1472/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันในละเมิด: แม้แยกแยะความเสียหายไม่ได้ ผู้กระทำร่วมกันต้องรับผิดทั้งหมด
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรับผิดร่วมในผลที่บุตรผู้เยาว์(ของจำเลย ทำละเมิด จำเลยไม่อุทธรณ์ในข้อนี้ ทั้งยังแก้อุทธรณ์ยอมรับว่าศาลชั้นต้นพิพากษาชอบแล้วจำเลยฎีกาในข้อนี้ไม่ได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 432 วรรคท้าย เป็นบทบัญญัติสำหรับแยกความรับผิดระหว่างผู้ละเมิดด้วยกัน มิใช่ว่ารับผิดต่อเจ้าหนี้ ซึ่งมีวรรคหนึ่ง บัญญัติไว้โดยเฉพาะแล้วว่าต้องร่วมกันรับผิดใช้ คำว่า "ร่วมกันใช้" มีความหมายว่า แต่ละคนจำต้องชำระหนี้สิ้นเชิง แต่เจ้าหนี้จะเรียกชำระหนี้จากคนใดทั้งหมดหรือบางส่วนก็ได้ถึงกระนั้นลูกหนี้ทั้งหมดก็ยังคงต้องผูกพันอยู่ทั่วทุกคนจนกว่าหนี้นั้นจะได้ชำระสิ้นเชิง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 291
การทำให้ทรัพย์เขาเสียหายโดยผิดกฎหมายเป็นละเมิด เมื่อร่วมกันกระทำก็เป็นการร่วมกันทำละเมิด และต้องร่วมกันรับผิด กฎหมายมุ่งหมายถึงการกระทำ มิใช่ดูผลของความเสียหายว่าแยกกันได้หรือไม่ แม้จะไม่รู้ตัวว่าคนไหนก่อให้เกิดเสียหาย แต่ถ้าเป็นพวกที่ทำละเมิดร่วมกันแล้ว ก็ต้องรับผิดร่วมกันทั้งหมดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 432

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1075/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดใช้เช็ค - การกระทำร่วมกัน แม้ไม่ได้ลงชื่อสั่งจ่ายเองก็อาจมีความผิดได้
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 17 ให้ใช้บทบัญญัติในภาค 1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ในกรณีแห่งความผิดตามกฎหมายอื่นนั้น ย่อมนำมาใช้ในกรณีแห่งความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คตามพระราชบัญญัตินั้นด้วย
ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คตามพระราชบัญญัติฉบับนั้นไม่จำต้องกระทำโดยบุคคลเพียงคนเดียว บุคคลหลายคนอาจร่วมกระทำผิดด้วยกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบกันพยายามฆ่า: การกระทำร่วมกันของพี่น้องที่ไม่ได้ห้ามการยิง และแสดงเจตนาทำร้าย
เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยทั้ง 2 มีเหตุกับผู้เสียหาย วันเกิดเหตุจำเลยทั้ง 2 ซึ่งเป็นพี่น้องกันอยู่ที่เกิดเหตุก่อนผู้เสียหายมาถึง เมื่อจำเลยที่ 2 ใช้กระสุนยิงผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 ไม่ห้าม ครั้นผู้เสียหายเข้าไปถามว่าเรื่องอะไร จำเลยกลับพูดว่า วันนี้กูเอามึงแน่อ้ายทัด (ชื่อผู้เสียหาย) ทั้งที่จำเลยที่ 2 รู้และเห็นว่าจำเลยที่ 1 มีปืนในขณะนั้น ดังนี้แสดงว่าจำเลยทั้งสองเจตนาร่วมกันในอันที่กระทำแก่ผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 ยิงด้วยลูกกระสุน แล้วจำเลยที่ 1 ก็ยิงด้วยปืนในระยะเวลากระชั้นชิดติดต่อกัน จำเลยต้องมีผิดฐานสมคบกันพยายามฆ่าโดยเจตนา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบกันพยายามฆ่า: การกระทำร่วมกันของพี่น้องที่อยู่ในเหตุการณ์และสนับสนุนการยิงผู้เสียหาย
เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยทั้ง 2 มีสาเหตุกับผู้เสียหายวันเกิดเหตุจำเลยทั้ง 2 ซึ่งเป็นพี่น้องกันอยู่ที่เกิดเหตุก่อนผู้เสียหายมาถึงเมื่อจำเลยที่ 2 ใช้กระสุนยิงผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 ก็ไม่ห้ามครั้นผู้เสียหายเข้าไปถามว่ายิงเรื่องอะไรจำเลยกลับพูดว่าวันนี้กูเอามึงแน่อ้ายทัด (ชื่อผู้เสียหาย) ทั้งจำเลยที่ 2 รู้และเห็นจำเลยที่ 1 มีปืนมาในขณะนั้นดังนี้แสดงว่าจำเลยทั้ง 2 มีเจตนาร่วมกันในอันที่จะกระทำแก่ผู้เสียหายจำเลยที่ 2 ยิงด้วยลูกกระสุนก่อนแล้วจำเลยที่ 1 ก็ยิงด้วยปืนภายในระยะเวลากระชั้นชิดติดต่อกันจำเลยต้องมีผิดฐานสมคบกันพยายามฆ่าคนโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบกันฆ่าโดยเจตนา: การกระทำร่วมกันทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
จำเลยกับผู้มีชื่ออีก 3 คนเดินทางไปบ้านผู้ตายด้วยกันคนหนึ่งร้องท้าทายผู้ตาย ผู้ตายลงเรือนมาแล้วเกิดทำร้ายกันขึ้นกับผู้ที่ไปด้วยกันนั้นจำเลยก็ใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ที แล้วจำเลยกับผู้มีชื่อก็หนีไปด้วยกันทั้งพวกปรากฏว่าผู้ตายตายในที่เกิดเหตุนั่นเอง ดังนี้ ถือว่าจำเลยกับพวกสมคบกันฆ่าผู้ตายตายโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2483

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมขู่เข็ญชิงทรัพย์: การกระทำร่วมกันเพื่อให้ได้ทรัพย์สิน
การที่จำเลยพูดห้ามพวกเจ้าทรัพย์มิให้ติดตามและชักมีดออกมาถือไว้นั้นถือว่าเป็นการขู่เข็ญจะทำร้ายอันเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์จำเลยคนหนึ่งขู่เข็ญพวกเจ้าทรัพย์และจำเลยอีกคน หนึ่งจูงกระบือไปโดยความรู้เห็นของจำเลย ผู้ขู่เข็ญดังนี้ถือว่าจำเลยผู้จูงกระบือไปเป็นตัวการฐานชิงทรัพย์ด้วย
of 2