พบผลลัพธ์ทั้งหมด 15 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3539/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนและกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน แม้มีเจตนาเดียวกัน ศาลฎีกาไม่อาจแก้ไขโทษต่ำกว่าขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดหากโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์
การมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72 วรรคหนึ่ง ส่วนการมีกระสุนปืนที่นายทะเบียนจะอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองไม่ได้ไว้ในครอบครองเป็นความผิดตามมาตรา 55, 78วรรคหนึ่ง การที่กฎหมายบัญญัติบทความผิดและบทลงโทษไว้คนละมาตรา ย่อมเห็นเจตนารมณ์ของกฎหมายได้ว่ามีความประสงค์จะแยกความผิด 2 ฐานนี้ออกจากกันดังนั้นแม้ว่าจำเลยจะมีอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางดังกล่าวไว้ในครอบครองในเวลาเดียวกัน อาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางใช้ร่วมกันได้ และเจตนาของจำเลยในการมีอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางเป็นการมีไว้เพื่อความประสงค์อันเดียวกันก็ตาม การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป
ความผิดฐานมีกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ซึ่งตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 78 วรรคหนึ่ง ให้ระวางโทษจำคุกตั้งแต่2 ปี ถึงจำคุกตลอดชีวิต แต่ศาลชั้นต้นระวางโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ให้จำคุก1 ปี จึงต่ำกว่าขั้นต่ำที่กฎหมายได้บัญญัติไว้ เมื่อโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาขอให้ลงโทษให้ถูกต้อง ศาลฎีกาจึงไม่อาจแก้ไขให้ถูกต้องได้ เพราะจะเป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลย ซึ่งต้องห้ามตาม ป.วิ.อ.มาตรา 212 ประกอบมาตรา 225
ความผิดฐานมีกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ซึ่งตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 78 วรรคหนึ่ง ให้ระวางโทษจำคุกตั้งแต่2 ปี ถึงจำคุกตลอดชีวิต แต่ศาลชั้นต้นระวางโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ให้จำคุก1 ปี จึงต่ำกว่าขั้นต่ำที่กฎหมายได้บัญญัติไว้ เมื่อโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาขอให้ลงโทษให้ถูกต้อง ศาลฎีกาจึงไม่อาจแก้ไขให้ถูกต้องได้ เพราะจะเป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลย ซึ่งต้องห้ามตาม ป.วิ.อ.มาตรา 212 ประกอบมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5305/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนและกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน แม้มีไว้ในวันเดียวกัน
การมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 7, 72 วรรคหนึ่ง และการมีกระสุนปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้เป็นความผิดตามมาตรา 55, 78 วรรคหนึ่ง การที่กฎหมายบัญญัติความผิดและบทลงโทษไว้คนละมาตรา ย่อมเห็นเจตนารมณ์ของกฎหมายได้ว่า มีความประสงค์ที่จะแยกความผิด 2 ฐาน นี้ออกจากกันทั้งวัตถุของกลางก็เป็นคนละประเภท แสดงว่าเจตนามีไว้แตกต่างกัน และความผิดแต่ละประเภทสำเร็จแล้วนับแต่มีไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ฉะนั้น แม้จำเลยจะมีไว้ในวันเวลาเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้สนับสนุนการฆ่า: การส่งกระสุนให้ผู้ก่อเหตุถือเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการกระทำผิด
ฟ้องว่าจำเลยกับพวกร่วมกันฆ่าผู้อื่น ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายท้าทายให้จำเลยกับพวกขึ้นไปต่อสู้กันบนฝั่งแม่น้ำ พวกของจำเลยถือปืนยาวขึ้นไปบนฝั่งแต่ปรากฏว่าไม่มีกระสุนปืน พวกของจำเลยร้องตะโกนให้จำเลยหยิบกระสุนปืนไปให้ซึ่งจำเลยก็ทำตาม ต่อมาพวกของจำเลยทะเลาะกับผู้ตายและใช้อาวุธปืนนั้นยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเข้าลักษณะเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่พวกของจำเลยในการกระทำผิด ใช้อาวุธปืนยิงฆ่าผู้ตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดครั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 86
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2868/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดอาวุธปืน: การมีอาวุธและกระสุนที่ผิดกฎหมาย การพกพาอาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาต
จำเลยมีอาวุธปืนพกชนิดประกอบขึ้นใช้กับกระสุนปืนขนาด .223โดยเฉพาะและกระสุนปืน 1 นัด ขนาด .223 ซึ่งบรรจุอยู่ในอาวุธปืนนั้น แม้จะฟังได้ว่ากระสุนปืนนั้นเป็นเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ตามกฎกระทรวง ส่วนอาวุธปืนตามฟ้องและทางพิจารณาของโจทก์ไม่ปรากฏว่าเป็นอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้หรือไม่ ก็เป็นที่เห็นได้ว่าเจตนาของจำเลยในการมีอาวุธปืนและกระสุนปืนนั้น เป็นการมีไว้เพื่อประสงค์อันเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดอาวุธปืน: การมีอาวุธที่อนุญาตได้ กับกระสุนที่ไม่อนุญาต ถือเป็นความผิด 2 กรรม
จำเลยรับตามฟ้องว่ามีกระสุนปืนชนิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ศาลรู้ได้เองว่าเป็นกระสุนปืนอย่างอื่นศาลต้องลงโทษตามฟ้องและคำรับสารภาพ แม้ปืนชนิดที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตได้ กับกระสุนปืนที่ออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ จำเลยมีไว้ ในวาระเดียวกันกฎหมายบัญญัติโทษไว้ต่างหากจากกัน จึงเป็นความผิด 2 กรรมต่างกันตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา7, 72 วรรคแรก กับมาตรา78
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2138/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจำกัดเฉพาะผู้ถูกยิงแรก แม้กระสุนถูกผู้อื่น การกระทำผิดเป็นกรรมเดียว
จำเลยมีเรื่องไม่พอใจ. ถ.จึงใช้ปืนยิงถ.และกระสุนปืนไปถูกส. และ บ. ด้วย แม้จะมีการยิงหลายนัด ก็เป็นการยิงเพื่อเจตนาฆ่า ถ. การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำผิดกรรมเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2259/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพิเศษในการพยายามฆ่า แม้กระสุนไม่ถูกตัวผู้ตาย แต่เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
จำเลยใช้ปืนลูกซองสั้นยิงผู้ตาย 1 นัด แต่ไม่ถูก หลังจากจำเลยยิงแล้วมีคนอื่นซึ่งมิได้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยยิงปืนมาทางผู้ตายอีกหลายนัดกระสุนถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้ตาย ปืนที่ยิงเป็นปืนลูกซองสั้น กระสุนปืนแผ่กระจาย จำเลยย่อมรู้ดีว่ากระสุนปืนที่ยิงไปนั้นอาจถูกผู้ตายหรือผู้อื่นที่อยู่ในรัศมีของกระสุนปืนที่จำเลยยิงได้ฉะนั้นเมื่อกระสุนปืนที่จำเลยยิงผู้ตายพลาดไปถูก ส. ย่อมถือว่าจำเลยกระทำโดยเจตนาแก่ ส. ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 60 จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า ส. ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่า: การชักปืนแต่กระสุนยังไม่เข้าลำกล้อง ไม่ถือเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า
ตำรวจเข้าจับกุมจำเลย จำเลยชักปืนออกจากเอวแล้วกระชากลูกเลื่อน เพื่อให้กระสุนเข้าลำกล้อง ก็ถูกตำรวจเข้าขัดขวางและแย่งปืนไปได้ ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ลงมือกระทำความผิดแล้ว แต่กระทำไปไม่ตลอด เพราะกระสุนเป็นยังไม่เข้าลำกล้อง จำเลยมิได้จ้องปืนเล็งไปทางตำรวจ นิ้วจำเลยยังมิได้แตะอยู่ที่ไกปืน แสดงว่าจำเลยไม่ได้อยู่ในสภาพพร้อมที่จะยิง จึงยังไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และเจตนาฆ่า: การพิจารณาจากระยะห่างและทิศทางของกระสุน
เจ้าพนักงานตำรวจจะจับกุมจำเลยในข้อหาลักทรัพย์ จำเลยไม่ยอมให้จับกุมหลบหนีเข้าป่า แล้วได้ใช้อาวุธปืนยิงจากในป่านั้น แต่อยู่ห่างไกลกับเจ้าพนักงานตำรวจ และไม่รู้ว่าวิถีกระสุนไปทางไหน ดังนี้ ยังไม่ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเจ้าพนักงานตำรวจ จำเลยคงมีความผิดฐานต่อสู้เจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 140 เท่านั้นไม่มีความผิดฐานเจตนาฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1500/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่การพิสูจน์ความรู้เกี่ยวกับลักษณะกระสุนปืน: โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าจำเลยรู้ว่าเป็นกระสุนเฉพาะทาง
เมื่อโจทก์ไม่สืบพยานแสดงให้เห็นว่าความจริงจำเลยย่อมทราบตั้งแต่ได้ครอบครองกระสุนปืนของกลางว่าเป็นกระสุนสำหรับใช้แต่เฉพาะในการสงคราม ก็จะลงโทษจำเลยในความผิดฐานนั้นหาได้ไม่