พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4655/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยไม่มีหน้าที่ช่วยเหลือทางการเงินแก่โจทก์ตาม พรบ.ธนาคารแห่งประเทศไทย แม้สถาบันการเงินประสบวิกฤต
ตามพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2485 พ.ศ. 2528 มาตรา 29 ตรีประกอบมาตรา 29 อัฏฐ (4) บัญญัติให้จัดตั้งกองทุนขึ้นกองทุนหนึ่งในธนาคารแห่งประเทศไทย เรียกว่ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน มีฐานะเป็นนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟู และพัฒนาระบบการเงินให้มีความมั่นคงและเสถียรภาพ และให้มีอำนาจรวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินตามควรแก่กรณีสำหรับผู้ฝากเงิน หรือผู้ให้กู้ยืมเงินแก่สถาบันการเงินที่ต้องเสียหายเนื่องจากสถาบันการเงินดังกล่าวประสบวิกฤติการณ์ทางการเงินอย่างร้ายแรง จึงเป็นสิทธิของกองทุนในการที่จะให้ความช่วยเหลือ มิใช่หน้าที่ของกองทุนที่จะต้องช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ฝากเงิน หรือผู้ให้กู้ยืมเงินแก่สถาบันการเงินดังกล่าวทุกกรณี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20098/2556
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าหนี้ตามข้อบังคับกองทุนฟื้นฟูฯ การชำระหนี้และดอกเบี้ยหลังถูกระงับการดำเนินงาน
ประกาศของจำเลยข้อ 1 วรรคหนึ่ง มีความว่า "กองทุนจะดำเนินการจ่ายชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้ ซึ่งเป็นผู้ฝากเงินหรือผู้ให้กู้ยืมเงินหรือผู้ทรงตราสารหนี้ที่ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) ออกเพื่อการรับฝากเงินหรือกู้ยืมเงินเท่านั้น" ข้อความดังกล่าวขัดแย้งแตกต่างกับความในข้อบังคับของจำเลยว่าด้วยการประกันผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้ของสถาบันการเงิน พ.ศ.2540 ซึ่งกล่าวโดยเฉพาะได้ให้คำจำกัดความคำว่า "เจ้าหนี้" ไว้เป็นอย่างเดียวกับบทบัญญัติมาตรา 29 อัฏฐ วรรคสอง ทั้งไม่ปรากฏว่าการออกประกาศได้ อ้างอิงหรือจำกัด ตัดลงด้วยกฎหมายหรือข้อบังคับกฎระเบียบใดและเหตุผลใด เป็นเพียงประกาศที่ผู้จัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (จำเลย) ออกขึ้นเอง จำเลยจึงไม่อาจกล่าวอ้างหยิบยกประกาศ เป็นดุลพินิจมาปฏิเสธความรับผิดชอบตามข้อบังคับของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2554
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องกองทุนฟื้นฟูฯ กรณีไม่ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากกองทุนฯ
จำเลยที่ 3 เป็นกองทุนและมีฐานะเป็นนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินให้มีความมั่นคงและเสถียรภาพ และมีอำนาจให้ความช่วยเหลือทางการเงินตามควรแก่กรณี การที่จำเลยที่ 3 ประกาศให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ฝากเงินหรือเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 1 ย่อมเป็นสิทธิของจำเลยที่ 3 ในการที่จะให้ความช่วยเหลือ มิใช่จำเลยที่ 3 มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในหนี้สิ้นของจำเลยที่ 1 ทั้งหมดทุกกรณี การที่จำเลยที่ 3 ปฏิเสธไม่ยอมให้ความช่วยเหลือแก่โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3 และที่ 5 ผู้ทรงตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีจำเลยที่ 1 เป็นผู้ออกตั๋วเพราะไม่อยู่ในข่ายได้รับความคุ้มครองตามประกาศของจำเลยที่ 3 โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3 และที่ 5 ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องบังคับแก่จำเลยที่ 3 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1848/2554
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้ต้องพิสูจน์ความสุจริตตามประกาศกองทุนฟื้นฟูเพื่อรับความช่วยเหลือทางการเงินก่อนฟ้องคดี
ตามประกาศกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 1 กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ขอรับความช่วยเหลือทางการเงินในข้อ 2 (4) ว่า ในกรณีที่โจทก์เป็นกรรมการของจำเลยที่ 1 โจทก์มีหน้าที่จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าตนเป็นเจ้าหนี้ที่สุจริตในการเป็นผู้ทรงตั๋วสัญญาใช้เงินทั้งสองฉบับที่ขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน แม้โจทก์จะอ้างว่าเหตุที่ฟ้องเพราะตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับหนึ่งจะขาดอายุความก็ดี หรือขณะที่โจทก์รับโอนตั๋วสัญญาใช้เงินมา จำเลยที่ 1 ยังไม่ได้ประสบภาวะที่จะต้องถูกสั่งปิดกิจการ จึงแสดงว่ารับโอนโดยสุจริตก็ดีหรือเอกสารที่พิสูจน์ความสุจริตของโจทก์นั้นอยู่ในความครอบครองของจำเลยที่ 3 ก็ดี แต่เมื่อข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติตามที่โจทก์และจำเลยที่ 3 นำสืบว่า ก่อนที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ โจทก์ยังไม่ได้พิสูจน์ให้ได้ว่าโจทก์เป็นเจ้าหนี้ที่สุจริตในการเป็นผู้ทรงตั๋วสัญญาใช้เงินทั้งสองฉบับที่ขอรับความช่วยเหลือทางการเงินตามเงื่อนไขที่ประกาศดังกล่าวกำหนดไว้ แต่อย่างใด ทั้ง ๆ ที่โจทก์มีหน้าที่จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าตนเป็นเจ้าหนี้ที่สุจริตในการเป็นผู้ทรงตั๋วสัญญาใช้เงินทั้งสองฉบับเช่นนี้ การฟ้องคดีของโจทก์ไม่เป็นไปตามขั้นตอนตามประกาศดังกล่าว โจทก์จึงยังไม่ถูกโต้แย้งสิทธิตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55 และยังไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 3 ได้