คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
การครอบครองโดยชอบ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินผิดแปลง การครอบครองที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมาย และเจตนาในการซื้อขาย
การรับโอนโฉนดที่ดินสับสนกันมาช้านานด้วยความเข้าใจผิดจำเลยที่ 2 ครอบครองที่พิพาทตามโฉนดที่ 2924 ตลอดมา แต่จดทะเบียนการโอนในโฉนดที่ 2949 จำเลยที่ 1 ซื้อที่ดินโฉนดที่ 2946 แต่จดทะเบียนการโอนในโฉนดที่2924 หาได้เคยครอบครองที่พิพาทไม่จำเลยที่ 1 ประสงค์จะขายที่ดินโฉนดที่ 2946 ที่ตนซื้อมาให้โจทก์และพาโจทก์ไปดูที่ดินดังกล่าวก่อนตกลงซื้อขายฉะนั้น ถึงแม้โจทก์จะมีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ทางทะเบียนในโฉนดที่ 2924 โจทก์ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทเพราะโจทก์ไม่มีเจตนาจะซื้อที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายหลังคดีแพ่งถึงที่สุด ผลต่อความผิดฐานบุกรุก
บิดาจำเลยที่ 1 มอบให้จำเลยที่ 1 ฟ้องขับไล่โจทก์ในคดีนี้ออกจากที่ดินศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่โจทก์เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2514โจทก์ร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้องและสั่งว่า ถ้าโจทก์ประสงค์จะอุทธรณ์ ให้นำค่าธรรมเนียมมาวางศาลภายใน 20 วันนับแต่วันอ่านคำสั่งคือวันที่ 31 มีนาคม 2515 โจทก์ไม่นำค่าธรรมเนียมมาวาง คดีแพ่งจึงถึงที่สุดในวันที่ 20 เมษายน 2515 ตามมาตรา 147 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งหาใช่ถึงที่สุดในวันที่ 13 ตุลาคม 2514 ไม่
แม้ศาลชั้นต้นออกคำบังคับให้โจทก์ออกจากที่พิพาทภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่โจทก์ลงลายมือชื่อไว้ในคำบังคับคือภายในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2514 ก็ตามแต่โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับด้วยและศาลอุทธรณ์ยังสั่งคำร้องไม่ได้ เพราะโจทก์ยังไม่เสียค่าธรรมเนียมอุทธรณ์จนกระทั่งคดีถึงที่สุด จึงต้องถือว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองที่พิพาทโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่จนถึงวันที่ 20 เมษายน 2514 ซึ่งเป็นวันที่คดีถึงที่สุดเป็นการครอบครองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 หาใช่เป็นการครอบครองโดยละเมิดไม่
เมื่อจำเลยที่ 1 ได้กระทำการอันเป็นการรบกวนการครอบครองโดยปกติสุขของโจทก์ภายในวันที่ 20 เมษายน 2515 อันเป็นวันสุดท้ายที่ถือว่าโจทก์ครอบครองห้องพิพาทซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินของบิดาจำเลยโดยชอบ คดีโจทก์จึงมีมูลในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362
จำเลยที่ 3 กล่าวแก่บุตรของบริวารโจทก์ว่า ออกไปเสียเถอะหนู อยู่ไปจะลำบากดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 3 เข้าไปกระทำการอันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข