คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
การค้าระหว่างประเทศ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1252/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับใบอนุญาตส่งออกข้าว: คุณสมบัติกรรมการบริษัท, ผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ, อำนาจปกครอง
กรรมการของโจทก์เคยเป็นกรรมการของบริษัท ร. ซึ่งได้กระทำการเป็นผลเสียหายแก่การค้าระหว่างประเทศ โจทก์จึงอยู่ในข่ายที่จำเลยที่ 1 ไม่อาจออกใบอนุญาตส่งข้าวออกไปจำหน่ายต่างประเทศได้ ที่จำเลยที่ 1 ไม่ออกใบอนุญาตให้โจทก์ส่งข้าวออกไปนอกราชอาณาจักร จึงไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์
คำสั่งทางปกครองของจำเลยที่ 1 ที่มีคำสั่งระงับการออกใบอนุญาตให้ส่งสินค้า (ข้าว) ออกไปนอกราชอาณาจักรแก่โจทก์ เนื่องจากโจทก์มีกรรมการของตนเป็นกรรมการของบริษัท ร. ซึ่งถูกกล่าวหาว่าได้กระทำการใด ๆ ที่เป็นผลเสียหายแก่การค้าระหว่างประเทศ โจทก์จึงขาดคุณสมบัติเป็นผู้ส่งออกข้าวไปนอกราชอาณาจักร ต้องด้วยข้อยกเว้นตามมาตรา 37 วรรคสาม (2) แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ที่ว่าเหตุผลนั้นเป็นที่รู้กันอยู่แล้วโดยไม่จำต้องระบุอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15702/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ: การโต้แย้งต้องชัดเจนว่าการขนส่งไม่เกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ
แม้ปัญหาที่ว่าคดีใดอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศหรือไม่ เป็นอำนาจของประธานศาลฎีกาผู้เดียวเป็นผู้วินิจฉัย และศาลที่รับคดีไว้จะต้องเสนอปัญหาให้ประธานศาลฎีกาวินิจฉัย ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 9 ก็ตาม แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องบรรยายสภาพแห่งข้อหาว่า จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ดำเนินการขนส่งสินค้าจากประเทศไทยไปยังลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศโดยการขนส่งทางทะเลและทางอากาศรวม 91 รายการ แยกเป็นรายการค่าขนส่ง ค่าใช้จ่ายระหว่างประเทศและค่าแรงงาน โดยอ้างส่งใบแจ้งหนี้แต่ละรายการมาท้ายฟ้อง อันเข้าใจได้ว่าค่าขนส่งและค่าแรงงานเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการรับขนส่งสินค้าไปต่างประเทศ การที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางตรวจคำฟ้องแล้วมีคำสั่งให้รับคำฟ้องไว้พิจารณา ย่อมแสดงว่าศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิจารณาแล้วเห็นว่ามูลคดีตามฟ้องโจทก์ทั้ง 91 รายการ อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ เมื่อจำเลยต้องการโต้แย้งว่าศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ จำเลยก็ต้องกล่าวโดยชัดแจ้งว่าการขนส่งรายการใดไม่เกี่ยวข้องกับการขนส่งระหว่างประเทศเพราะเหตุใด การที่จำเลยยกขึ้นโต้แย้งในคำให้การเพียงว่า จำเลยตกลงว่าจ้างโจทก์ให้ขนส่งสินค้าจากโรงงานของจำเลยไปส่งยังท่าเรือเท่านั้น ไม่ได้ว่าจ้างให้ขนส่งไปต่างประเทศ จึงเป็นข้อโต้แย้งที่ไม่ชัดแจ้ง ถือไม่ได้ว่าเป็นกรณีมีปัญหาว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20230/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับใบอนุญาตส่งออกข้าว: ผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศและการปฏิบัติตามกฎหมาย
ตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 มาตรา 2 บัญญัติให้พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ซึ่งพระราชบัญญัติฉบับนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2539 จึงมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2540 ดังนั้น ในขณะที่คณะกรรมการนโยบายข้าวมีมตินี้ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2540 จึงยังไม่อาจนำ พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 มาใช้พิจารณาว่ามติของคณะกรรมการนโยบายข้าวดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครองที่จะต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ดังกล่าวหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ต้องพิจารณาว่ามติดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครองหรือไม่ แต่หากกรณีเป็นคำสั่งทั่วไปของเจ้าหน้าที่ที่มีผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของโจทก์ ศาลก็ชอบที่จะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.พ มาตรา 55
มติของคณะกรรมการนโยบายข้าวที่เป็นเหตุขอให้เพิกถอนนี้ มีเนื้อหาว่า "ให้กรมการค้าต่างประเทศขึ้นบัญชีดำ โดยไม่ออกใบอนุญาตส่งออกข้าวให้ และไม่ให้ได้รับสิทธิประโยชน์อื่นใดที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ส่งออกหรือโรงสีด้วย..." เป็นเพียงความเห็นหรือข้อเสนอแนะภายในของคณะกรรมการที่จะต้องนำมติดังกล่าวเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือกรมการค้าต่างประเทศเพื่อพิจารณา เนื่องจากคณะกรรมการนโยบายข้าวไม่มีอำนาจในการที่จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้โจทก์ส่งออกข้าวไปต่างประเทศได้หากแต่เป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จำเลยที่ 2 หรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์มอบหมายตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้าในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ.2522 ดังนั้น มติของคณะกรรมการนโยบายข้าวที่ให้กรมการค้าต่างประเทศขึ้นบัญชีดำ โดยไม่ออกใบอนุญาตส่งออกข้าวให้ และไม่ให้ได้รับสิทธิประโยชน์อื่นใดที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ส่งออกหรือโรงสีด้วย ทั้งนี้ รวมถึงบริษัทส่งออกข้าวหรือโรงสีที่มีกรรมการคนหนึ่งคนใดเป็นกรรมการหรือผู้จัดการของโจทก์ด้วย ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าว ครั้งที่ 1/2540 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2540 จึงไม่มีผลกระทบต่อสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์ โจทก์จึงยังไม่ถูกโต้แย้งสิทธิ จึงไม่มีอำนาจฟ้อง