พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินที่ถูกจัดสรรนิคมต้องเป็นที่รกร้าง หากมีผู้ครอบครองทำประโยชน์ก่อน สิทธิครอบครองเดิมย่อมคุ้มครอง
คดีอาญาที่ฎีกาได้แต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย ส่วนข้อเท็จจริงศาลฎีกาต้องถือตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังมานั้น ถ้าข้อเท็จจริงเท่าที่ศาลอุทธรณ์ฟังมายังไม่พอ ศาลฎีกาหยิบยกข้อเท็จจริงอย่างอื่นขึ้นพิจารณาประกอบด้วยได้
ตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2485 มาตรา4 แสดงว่า ที่ดินซึ่งรัฐบาลจะจัดตั้งนิคมสร้างตนเองได้นั้น พึงเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่ายังไม่มีผู้ใดเข้ายึดถือครอบครองทำกินอยู่ก่อน ฉะนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่ดิน 25 ไร่นี้ จำเลย(ซึ่งเป็นสมาชิกของนิคม) ได้ครอบครองทำประโยชน์มาก่อน ทางราชการจัดตั้งนิคมสร้างตนเองในจังหวัดลพบุรี และที่ดินรายนี้ไม่ใช่ที่ดินรกร้างว่างเปล่าเสียแล้วในขณะพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองในจังหวัดลพบุรีและจังหวัดสระบุรี พ.ศ.2485 ออกตามอำนาจในพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพพ.ศ.2485 ใช้บังคับ (ดังนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 974/2505)เช่นนี้จะนำกฎหมายหรือข้อบังคับว่าด้วยการเข้าอยู่ในที่ดินจัดสรรของนิคมฯมาใช้บังคับไม่ได้ คำสั่งที่ผู้ปกครองนิคมฯออกประกาศถอนสิทธิให้จำเลยออกไปจากที่ดินไม่มีผลแก่จำเลยโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยจะฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศคำสั่งนั้น ก็จะเอาผิดแก่จำเลยตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้างหาได้ไม่
ตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2485 มาตรา4 แสดงว่า ที่ดินซึ่งรัฐบาลจะจัดตั้งนิคมสร้างตนเองได้นั้น พึงเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่ายังไม่มีผู้ใดเข้ายึดถือครอบครองทำกินอยู่ก่อน ฉะนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่ดิน 25 ไร่นี้ จำเลย(ซึ่งเป็นสมาชิกของนิคม) ได้ครอบครองทำประโยชน์มาก่อน ทางราชการจัดตั้งนิคมสร้างตนเองในจังหวัดลพบุรี และที่ดินรายนี้ไม่ใช่ที่ดินรกร้างว่างเปล่าเสียแล้วในขณะพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองในจังหวัดลพบุรีและจังหวัดสระบุรี พ.ศ.2485 ออกตามอำนาจในพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพพ.ศ.2485 ใช้บังคับ (ดังนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 974/2505)เช่นนี้จะนำกฎหมายหรือข้อบังคับว่าด้วยการเข้าอยู่ในที่ดินจัดสรรของนิคมฯมาใช้บังคับไม่ได้ คำสั่งที่ผู้ปกครองนิคมฯออกประกาศถอนสิทธิให้จำเลยออกไปจากที่ดินไม่มีผลแก่จำเลยโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยจะฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศคำสั่งนั้น ก็จะเอาผิดแก่จำเลยตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้างหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17411/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะในโครงการจัดสรร ต้องไม่ขัดต่อภาระจำยอมและเจตนารมณ์ของกฎหมาย
การที่คณะกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรจำเลยที่ 1 มีมติให้ก่อสร้างอาคารสำนักงานนิติบุคคลในที่ดินอันเป็นสวนสาธารณะโดยสมาชิกของโครงการหมู่บ้านจัดสรรเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบด้วยก็ตาม แต่ก็มีสมาชิกคัดค้านถึง 25 ราย การก่อสร้างอาคารดังกล่าวนอกจากเป็นการใช้สาธารณูปโภคคนละประเภทยังเป็นการขัดต่อวัตถุประสงค์ในการใช้สาธารณูปโภคตามที่ผู้จัดสรรได้จดทะเบียนไว้ ทั้งยังเป็นการขัดต่อ พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน พ.ศ.2543 มาตรา 44 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 43 วรรคหนึ่ง ที่ระบุให้หน้าที่ของจำเลยที่ 1 ที่ได้รับมอบที่ดินสวนสาธารณะจากผู้จัดสรรที่ดิน จะต้องบำรุงรักษาสาธารณูปโภคดังกล่าวที่มีอยู่แล้วให้คงสภาพดังเช่นที่ได้จัดทำขึ้นนั้นต่อไป และยังทำให้สภาพสวนสาธารณะเปลี่ยนแปลงไป พื้นที่สวนสาธารณะต้องลดลง ถือได้ว่าประโยชน์แห่งภาระจำยอมในการใช้สอยที่ดินดังกล่าวลดไปหรือเสื่อมความสะดวก แม้จำเลยที่ 1 จะอ้างว่าเป็นการกระทำเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิกโดยส่วนรวม แต่ทั้งนี้สวนสาธารณะดังกล่าวตกอยู่ในภาระจำยอมของที่ดินทุกแปลงในโครงการ การเปลี่ยนแปลงการใช้สาธารณูปโภคจะทำให้ประโยชน์แห่งภาระจำยอมของที่ดินบางแปลงลดไปหรือเสื่อมความสะดวกไป ย่อมมิอาจกระทำได้