พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าไปดำเนินการในบริษัทคู่แข่งโดยชอบธรรม แม้มีข้อพิพาทเรื่องการถือหุ้นและบริหารงาน ไม่ถึงขั้นบุกรุก
เดิมบริษัท ต.มี บ. เป็นกรรมการผู้จัดการได้ดำเนินกิจการขาดทุน และมีเจ้าหนี้จำนวนมากป.เข้าช่วยเหลือโดยตั้งบริษัทย.ผู้เสียหายขึ้นมาเพื่อดำเนินการแทน โดยฝ่ายบ.ถือหุ้นในบริษัทผู้เสียหายร้อยละ 45 ของหุ้นทั้งหมด และบริษัทต.ทำสัญญาให้บริษัทผู้เสียหายเช่าโรงงานและเครื่องจักรด้วย เมื่อปรากฏว่าป.ถือสิทธิเข้าดำเนินการบริหารบริษัทผู้เสียหายแต่เพียงผู้เดียวทำให้บริษัทผู้เสียหายเป็นหนี้ธนาคารถึงหนึ่งล้านห้าแสนบาทท่วมทุนจดทะเบียนของบริษัทผู้เสียหายซึ่งมีอยู่เพียงหนึ่งล้านบาทและกีดกันจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นกรรมการบริษัทผู้เสียหาย ตลอดจนผู้ถือหุ้นฝ่ายบ.ถึงขนาดที่บริษัทต.มีหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าโรงงานไปแล้ว เช่นนี้ จำเลยที่ 1 ในฐานะกรรมการบริษัทต.และจำเลยที่ 2 ในฐานะกรรมการบริษัทผู้เสียหายกับพวกย่อมเข้าใจว่ามีความชอบธรรมที่จะเข้าไปดำเนินการบริหารบริษัทผู้เสียหายได้ ทั้งการเข้าไปดำเนินการก็เป็นการกระทำโดยเปิดเผยการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1721/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถือหุ้นของรัฐในบริษัทจำกัด และความผิดของพนักงานรัฐวิสาหกิจ
ผู้ถือหุ้นชนิดใดในบรษัทจำกัดย่อมถือว่าเป็นผู้ลงทุนในบริษัทเท่าจำนวนหุ้นที่ถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1096 ฉะนั้นเมื่อรัฐถือหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิรวมกันเกินกว่าร้อยละห้าสิบของจำนวนหุ้นทั้งหมดของธนาคารเกษตร จำกัด แล้ว ก็ถือว่าธนาคารเกษตร จำกัด มีทุนเกินกว่าร้อยละห้าสิบเป็นของรัฐ โดยไม่ต้องคำนึงว่าหุ้นเหล่านั้นเป็นหุ้นที่ใช้ค่าหุ้นเป็นตัวเงินหรือเป็นหุ้นที่ออกให้เสมือนหนึ่งได้ใช้เต็มค่าแล้ว ฉะนั้นเมื่อจำเลยซึ่งเป็นพนักงานธนาคารเกษตร จำกัด ยักยอกเงินของธนาคาร จึงต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์หรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 23/2502)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 23/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1495/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถือหุ้นในห้างหุ้นส่วน: การพิสูจน์ความเป็นหุ้นส่วนต้องด้วยการลงทุนโดยตรง แม้เงินลงทุนมาจากการร่วมกันหาได้ระหว่างสามีภรรยา ก็มิอาจถือเป็นหลักฐานความเป็นหุ้นส่วนได้
โจทก์ฟ้องจำเลยให้รับผิดในการละเมิดซึ่งลูกจ้างในห้างหุ้นส่วนที่จำเลยเป็นผู้ถือหุ้นได้ก่อขึ้น ข้อเท็จจริงได้ความว่าภรรยาจำเลยต่างหากเป็นผู้ถือหุ้น แม้จะได้ความว่าเงินที่เอามาลงหุ้นจะเป็นเงินที่ทำมาหาได้ระหว่างสามีภรรยาก็ดี เพียงเท่านี้จะถือว่าจำเลยเป็นหุ้นส่วนนั้นด้วยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1495/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเป็นหุ้นส่วนทางกฎหมาย: การถือหุ้นโดยภริยาไม่ทำให้สามีเป็นหุ้นส่วนโดยอัตโนมัติ
โจทก์ฟ้องจำเลยให้รับผิดในการละเมิดซึ่งลูกจ้างในห้างหุ้นส่วนที่จำเลยเป็นผู้ถือหุ้นได้ก่อขึ้น ข้อเท็จจริงได้ความว่าภรรยาจำเลยต่างหากเป็นผู้ถือหุ้น แม้จะได้ความว่าเงินที่เอามาลงหุ้นจะเป็นเงินที่ทำมาหาได้ระหว่างสามีภรรยาก็ดี เพียงเท่านี้จะถือว่าจำเลยเป็นหุ้นส่วนนั้นด้วยหาได้ไม่