พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1794/2545
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้าง: เหตุผลความไม่ไว้วางใจ แม้ไม่พบการทุจริตชัดเจน ถือเป็นเหตุอันสมควรได้
ตั้งแต่โจทก์อยู่ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายตรวจรับสินค้า โจทก์ส่งเงินค่าขายสินค้าเพียง 3 ครั้ง ทั้งที่มีการขายสินค้าทุกเดือน และมีการตรวจนับเงินพร้อมใบเสร็จรับเงินชั่วคราวให้โจทก์แล้ว นอกจากนี้โจทก์ยังส่งเงินให้ฝ่ายการเงินและบัญชีน้อย และไม่ถี่เท่ากับผู้จัดการฝ่ายตรวจรับสินค้าคนก่อนโจทก์ แม้ไม่อาจฟังได้แน่ชัดว่าโจทก์ทุจริตต่อหน้าที่ แต่ย่อมทำให้จำเลยมีเหตุที่ไม่ไว้วางใจให้โจทก์ทำงานต่อไป จำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์ด้วยเหตุนี้ได้ตามคู่มือพนักงาน ข้อ 32.2 ถือได้ว่าเป็นการเลิกจ้างที่มีเหตุอันสมควรแล้ว ไม่ใช่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 49
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อป้องกันผลประโยชน์สาธารณะ ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท แม้เป็นการกล่าวหาการทุจริต
การฟ้องให้ลงโทษฐานหมิ่นประมาทจะต้องได้ความว่าจำเลยจงใจเจตนาใส่ความเพื่อให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
การที่โจทก์ไปเก็บเงินมาจากพ่อค้าแม่ค้าโดยวิธีที่ไม่งามนอกเหนือระเบียบแบบแผนการบริหารราชการ ส่อให้เห็นไปได้ว่าโจทก์ทำการทุจริตในหน้าที่ จำเลยจึงร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งไม่มีข้อเท็จจริงชี้ว่าจำเลยเจตนาร้าย กลั่นแกล้งตรงข้ามกลับฟังได้ว่าจำเลยแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนผู้เป็นสมาชิกสภาเทศบาลและราษฎรในเขตเทศบาลกรณีต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329ย่อมไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
การที่โจทก์ไปเก็บเงินมาจากพ่อค้าแม่ค้าโดยวิธีที่ไม่งามนอกเหนือระเบียบแบบแผนการบริหารราชการ ส่อให้เห็นไปได้ว่าโจทก์ทำการทุจริตในหน้าที่ จำเลยจึงร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งไม่มีข้อเท็จจริงชี้ว่าจำเลยเจตนาร้าย กลั่นแกล้งตรงข้ามกลับฟังได้ว่าจำเลยแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนผู้เป็นสมาชิกสภาเทศบาลและราษฎรในเขตเทศบาลกรณีต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329ย่อมไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10985/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งเอกสารหลักฐานโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้จะอยู่ในความครอบครองของบุคคลอื่นที่พบเห็นการทุจริต
ใบสำคัญจ่ายเป็นของมูลนิธิ แต่อยู่ในความครอบครองดูแลของ ย. ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชีของมูลนิธิ ย. ย่อมมีหน้าที่ปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของนายจ้างตน เมื่อเห็นว่าผู้บริหารของมูลนิธิ ทุจริตต่อหน้าที่ยักยอกเงินของมูลนิธิ ก่อความเสียหายแก่มูลนิธิที่ตนทำงานอยู่ เมื่อตนพบเห็นย่อมแจ้งความให้ดำเนินคดีแก่ผู้กระทำความผิดได้ การที่ ย. นำเอกสารดังกล่าวไปมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีแก่จำเลย ย.ย่อมไม่มีความผิดใด ๆ ในทางอาญา เพราะเป็นการมอบหลักฐานที่สำคัญในทางคดีให้แก่เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ตามกฎหมาย การที่จะให้เจ้าพนักงานเรียกเอกสารหลักฐานแห่งการกระทำความผิดตามปกตินั้น ย่อมยากที่จะได้รับความร่วมมือจากผู้กระทำความผิด ซึ่งเป็นผู้บริหารในหน่วยงานดังกล่าว เอกสารนั้นอาจถูกทำลายหรือสูญหายหรือหาไม่พบได้ จึงเป็นอุปสรรคในการดำเนินคดีอาญาแก่ผู้กระทำความผิด การที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เอกสารดังกล่าวมาเป็นพยานหลักฐานสำคัญของคดี จึงเป็นการได้มาโดยชอบ ไม่ต้องด้วย ป.วิ.อ. มาตา 226/1