พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1892/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: ผลผูกพันคู่กรณี & การระงับข้อพิพาททางแพ่ง
โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยผู้รับช่วงสิทธิไม่ได้นำสืบแจ้งชัดว่าจำเลยเป็นฝ่ายขับรถยนต์โดยประมาทเลินเล่อมากกว่า ว.การที่พนักงานสอบสวนทำบันทึกรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีแม้เพียงเพื่อเปรียบเทียบปรับทั้งจำเลยและ ว. แต่เมื่อเอกสารนั้นมีข้อตกลงกันให้ต่างคนต่างซ่อมรถยนต์ที่เสียหายโดยที่ขณะนั้นเจ้าของรถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยไม่ได้คัดค้านแสดงว่าเหตุเกิดจากความประมาทของจำเลยและ ว. ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันจึงได้มีการตกลงกันเพื่อระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันโดยการสละสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่จะพึงมีต่อกันจึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นผลให้มูลละเมิดซึ่งมีอยู่ระงับสิ้นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา850-852และเท่ากับเจ้าของรถยนต์แสดงออกหรือยอมให้ ว. แสดงออกว่า ว.เป็นตัวแทนในการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริตตามมาตรา821ส่วนที่มีการทำรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีขึ้นอีกหนึ่งฉบับในภายหลังเมื่อจำเลยและเจ้าของรถยนต์ไม่ได้มีเจตนาที่จะผูกพันกันตามที่ทำบันทึกไว้จึงไม่มีผลบังคับและไม่กระทบกระเทือนถึงความสมบูรณ์ของสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำไว้ก่อนแล้วโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยให้รับผิดในมูลละเมิดที่ระงับสิ้นไปแล้วในฐานะผู้รับช่วงสิทธิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6261/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความผูกพันจำเลย แม้จำเลยอ้างไม่ทราบการยอมความ เพราะทนายมีอำนาจทำสัญญาได้
แม้หากจะฟังว่า จำเลยที่ 2 ห้ามหรือกำชับโจทก์และทนายจำเลยที่ 2 ว่าไม่เซ็นและหย่าได้ไปเซ็นสัญญาใด ๆ กันอีก จำเลยที่ 2 ไม่รับรู้ด้วย แล้วจำเลยที่ 2 ออกจากศาลไปก็ตาม ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ถอนทนายของตนแล้วเพราะการถอนทนายจะต้องได้รับอนุญาตจากศาลเสียก่อน เมื่อจำเลยทั้งสองแต่งตั้งให้ทนายของตนมีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ได้และศาลได้พิพากษาตามยอมแล้วคำพิพากษาย่อมผูกพันจำเลยทั้งสอง ในชั้นอุทธรณ์จำเลยทั้งสองเพียงแต่ขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีใหม่ไม่ได้ขอให้พิพากษาให้จำเลยทั้งสองชนะคดี ค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์ จึงต้องเสียเพียง 200 บาท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1633/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประนีประนอมยอมความต้องมีข้อตกลงชัดเจน การชำระเงินหลังร้องทุกข์ไม่ถือเป็นการยอมความ
การประนีประนอมยอมความเป็นสัญญาซึ่งคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน
ยักยอกทรัพย์อันเป็นความผิดอาญาที่ยอมความกันได้ เมื่อผู้เสียหายร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับจำเลยแล้ว ต่อมาจำเลยส่งเงินมาให้ผู้เสียหายรับไว้ โดยไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายกับจำเลยได้ทำความตกลงระงับข้อพิพาทต่อกัน เช่นนี้ย่อมไม่ใช่การประนีประนอมยอมความตามกฎหมาย
ยักยอกทรัพย์อันเป็นความผิดอาญาที่ยอมความกันได้ เมื่อผู้เสียหายร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับจำเลยแล้ว ต่อมาจำเลยส่งเงินมาให้ผู้เสียหายรับไว้ โดยไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายกับจำเลยได้ทำความตกลงระงับข้อพิพาทต่อกัน เช่นนี้ย่อมไม่ใช่การประนีประนอมยอมความตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 506/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อความในสัญญายอมความ และผลของการยอมความตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
โจทก์ฟ้องขับไล่ จำเลยได้ทำยอมต่ออำเภอมีความว่า "เมื่อครบกำหนด 3 เดือนจะออกไป" จำเลยจะนำสืบว่า จำเลยได้ตกลงว่า "ถ้าหาที่อยู่ใหม่ได้ก็จะออกไปภายใน 3 เดือน" นั้นไม่ได้เพราะเป็นการสืบเปลี่ยนแปลงข้อความในสัญญา ต้องห้ามตาม วิ.แพ่ง ม.94 (ข)
ทำยอมต่ออำเภอขอผัดออกจากที่เช่า ถือว่าเป็นการยอมตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ได้
ทำยอมต่ออำเภอขอผัดออกจากที่เช่า ถือว่าเป็นการยอมตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ได้