พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2325/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมในที่ดินจัดสรร: สิทธิการใช้ทางสัญจร, การบำรุงรักษา, และการโต้แย้งสิทธิโดยการรุกล้ำ
การที่โจทก์แบ่งแยกที่ดินออกเป็นแปลงย่อยปลูกสร้างตึกแถวเพื่อขายและจัดทำถนนออกสู่ทางสาธารณะเพื่อประโยชน์ของผู้ซื้อตึกแถวถนนดังกล่าวจึงเป็นสาธารณูปโภคที่ผู้จัดสรรได้จัดให้มีขึ้นตกอยู่ใน ภารจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ ที่ดินที่ จัดสรรจำเลยมีสิทธิใช้ถนนพิพาทเป็นทางสัญจรผ่านเข้าออกได้เท่านั้นและโจทก์เป็น ผู้จัดสรรที่ดิน มีหน้าที่บำรุงรักษากิจการอันเป็นสาธารณูปโภคให้คงสภาพดังเช่นที่ได้จัดทำขึ้นโดยตลอดไปตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่286ข้อ30วรรคแรกและข้อ32จำเลยทำให้ถนนเสื่อมสภาพและเสื่อมประโยชน์การใช้เป็นทางสัญจรเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา55 การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนเมื่อศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าที่ดินเนื้อที่8ตารางวาที่จำเลยรุกล้ำตกเป็นภารจำยอมแก่ที่ดินจัดสรรเพื่อประโยชน์แก่ผู้ซื้อตึกแถวจำเลยไม่มีสิทธิยึดถือครอบครองทำให้ประโยชน์แห่งภารจำยอมลดลงด้วยการสร้างกันสาดและวางสิ่งของขายเท่ากับว่าจำเลยไม่อาจครอบครองอย่างเป็นเจ้าของแม้จำเลยจะได้สิทธิครอบครองใช้ที่ดินพิพาทเป็นเวลาเกินกว่า10ปีก็ไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1382ที่จำเลยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็นจึงเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา238ประกอบมาตรา249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2038/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรังวัดสอบเขตที่ดินเพื่อพิสูจน์การรุกล้ำ กรณีคู่ความตกลงให้รังวัดเพื่อตัดสินคดี
โจทก์และจำเลยท้ากันโดยขอให้หัวหน้าฝ่ายรังวัดสำนักงานที่ดินร่วมกับจ่าศาลไปรังวัดสอบเขตที่ดินโฉนดเลขที่ 30471 เพื่อให้ทราบว่าการวางท่อประปาตามฟ้องรุกล้ำในที่ดินดังกล่าวหรือไม่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าการวางท่อประปาตามฟ้องรุกล้ำที่ดินของโจทก์ตรงตามคำท้าแล้ว จำเลยจึงต้องแพ้คดีตามคำท้าข้อที่จำเลยยกขึ้นโต้แย้งว่า เส้นดำหมายเขียวเป็นแนวเขตรัศมีทางหลวงอันเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ของกรมทางหลวงนั้น เป็นข้อเท็จจริงที่นอกเหนือไปจากคำท้า ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3424/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการใช้ที่สาธารณสมบัติชายตลิ่ง - การรุกล้ำที่ดิน - ความเสียหายที่ควรคาดหมาย
การที่เรือนโรงของจำเลยปลูกอยู่ในที่ชายตลิ่งอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันซึ่งอยู่ระหว่างหน้าที่ดินโจทก์กับคลอง มิได้รุกล้ำเข้าไปในที่ดินโจทก์ ทั้งมีมาก่อนที่โจทก์จะซื้อที่ดินนั้นมา แม้โจทก์จะมีอาชีพทำประมง แต่ก็ปรากฏว่าโจทก์ก็ยังสามารถนำเรือประมงเข้าออกที่ดินของโจทก์ได้พฤติการณ์ดังกล่าวยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายและเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตุอันควรตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1659/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ซื้อที่ดินโดยสุจริต: คุ้มครองเหนือการครอบครองโดยไม่จดทะเบียน
ซื้อที่ดินมีโฉนดมาโดยสุจริต ได้โอนแก้ทะเบียนกันโดยสุจริตเรียบร้อยแล้ว เมื่อไปตรวจสอบเนื้อที่ดินจึงรู้ว่ามีผู้อื่นรุกล้ำเข้ามาทำนาในที่นั้นบางส่วน ดังนี้แม้จะได้ความว่าผู้ที่รุกล้ำเข้ามานั้นได้ปกครองทำนาส่วนนั้นอย่างเป็นเจ้าของมาเกิน 10 ปีแล้วก็ตาม เมื่อผู้นั้นไม่ได้จดทะเบียนสิทธิไว้ ก็ไม่อาจยกขึ้นมาตัดสิทธิของผู้ซื้อโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วได้ ผู้ซื้อจึงมีอำนาจฟ้องห้ามมิให้ผู้ครอบครองนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องกับที่นั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าพนักงานและการป้องกันสิทธิส่วนบุคคล: การจับกุมนอกหน้าที่และการใช้สิทธิป้องกันตัว
กรมการอำเภอตั้งกำนันตรวจโรงฆ่าสัตว์ และทำการจับกุมผู้ฆ่าสุกรโดยไม่ได้รับอนุญาต กำนันไปพบผู้หาบของมาสงสัยว่า จะทำการขายเนื้อสุกรโดยไม่ได้รับอนุญาต จะเข้าจับกุมผู้นั้นหนีเข้าบ้านกำนันตามเข้าไปเพื่อจะจับ จำเลยหยิบมีดมาเงื้อจะทำร้าย พอดีตำรวจจับจำเลยดังนี้ ไม่มีเหตุถือว่า เป็นการกระทำผิดซึ่งหน้า และคดีนี้กำนันไม่มีอำนาจเข้าไปจับในห้อง จึงเป็นการนอกหน้าที่ จำเลยทำการป้องกันได้ ไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2474
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตที่ดินติดแม่น้ำ: การวัดความกว้างที่ดินเพื่อกำหนดการรุกล้ำ
หลักวินิจฉัย ที่ติดแม่น้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8429/2553 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีที่ดิน: การออกโฉนดที่ดินใหม่ไม่กระทบสิทธิเดิมหากไม่มีการรุกล้ำหรือโต้แย้งสิทธิ
โจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของ อ. ฟ้องว่า ที่ดินยของ อ. อยู่ติดกันโดยที่ดินของ ป. ทางด้านทิศตะวันตกติดที่ดินของ อ. ต่อมาเจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดที่ดินให้แก่ ป. และระบุรูปแผนที่ดินของ ป. ว่าทางด้านทิศติวันตกติดบ่อน้ำสาธารณประโยชน์ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของ อ. และมีส่วนได้เสียในที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 94 ได้รับความเสียหาย ไม่สามารถขอรังวัดเพื่อออกโฉนดที่ดินได้ แต่ปรากฏตามทางนำสืบของโจทก์ว่า โจทก์ยังไม่เคยไปยื่นคำขอรังวัดเพื่อออกโฉนดที่ดินในที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 94 ต่อเจ้าพนักงานที่ดินทั้งการขอแบ่งแยกโฉนดที่ดินของ ป. ก็เป็นเรื่องการแบ่งแยกโฉนดที่ดินในที่ดินของ ป. เองโดยเฉพาะ แม้การระบุอาณาเขตที่ดินในโฉนดที่ดินที่แบ่งแยกออกมาจะคลาดเคลื่อนไป ก็ไม่มีผลโดยตรงต่อที่ดินของ อ. กล่าวคือ มิได้ออกโฉนดที่ดินรุกล้ำทับที่ดินของ อ. หรือกระทำการอันมีลักษณะเป็นการรบกวนครอบครองหรือแย่งสิทธิครอบครองที่ดินของ อ. สิทธิครอบครองที่ดินของ อ. จะมีอยู่อย่างไรก็คงมีอยู่เช่นเดิม และเป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องไปพิสูจน์สิทธิครอบครองต่อเจ้าพนักงานที่ดินในการขอออกโฉนดที่ดินของ อ. หากโจทก์ไม่สามารถออกโฉนดที่ดินได้ก็ต้องไปว่ากล่าวกับเจ้าพนักงานที่ดิน การออกโฉนดที่ดินไป ป. ตามที่โจทก์บรรยายมาในคำฟ้อง ยังไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์ตามป.วิ.พ. มาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องกรมที่ดินจำเลยขอให้บังคับจำเลยแก้ตำแหน่งที่ดินทางทิศตะวันตกเป็นว่าจดที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 94