คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
การลักทรัพย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2138/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์ในเคหสถาน ต้องเข้าทั้งตัว ไม่ใช่แค่ส่วนหนึ่งของร่างกาย
การลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(8)นั้น หมายถึงผู้กระทำจะต้องเข้าไปในเคหสถานทั้งตัว มิใช่เพียงแต่ร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งของผู้กระทำล่วงล้ำเข้าไปในเคหสถาน จำเลยเพียงแต่ยื่นมือผ่านบานเลื่อนไม้เข้าไปในห้องพักของผู้เสียหายแล้วทุบกระต่ายออมสินของผู้เสียหายลักเอาเงินไป โดยจำเลยมิได้เข้าไปในห้องพักของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(8)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2712/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์พระพุทธรูปและประเด็นการริบรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะ
การนำพระพุทธรูปซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนสืบมาแต่เดิมไปเก็บซ่อนไว้เพื่อให้พ้นจากการโจรกรรม หาทำให้พระพุทธรูปนั้นพ้นจากการเป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนสักการะบูชาไม่ จำเลยเพียงแต่ใช้รถยนต์ของกลางเป็นพาหนะไปลักและบรรทุกเอาพระพุทธรูปไปจากวัดที่เกิดเหตุ ไม่ได้ใช้ในการลักพระพุทธรูปดังกล่าวโดยตรง รถยนต์นั้นจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1495/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดราคาทรัพย์สินที่ถูกลัก จำเลยต้องชดใช้ตามราคาอันแท้จริง แต่โจทก์ต้องนำสืบราคาที่สมบูรณ์ได้
โจทก์ขอมาท้ายฟ้องว่า ราคาเนื้อกระบือที่จำเลยร่วมกันลักไป มีราคา 8,900 บาทแต่โจทก์นำสืบไม่ได้ว่าเนื้อกระบือที่ถูกลักไปนั้นมีจำนวน น้ำหนัก และราคาในท้องตลาดขณะนั้นเท่าใด คำนวณได้ยอดดังกล่าวมาอย่างไรคงนำสืบเพียงว่าจำเลยคนใดลักเนื้อกระบือส่วนไหนไปเท่านั้น โจทก์จึงนำสืบเรื่องราคาทรัพย์ไว้ไม่สมฟ้องและไม่มีข้อมูล ให้ศาลคำนวณเพื่อกำหนดตามราคาอันแท้จริงขึ้นได้ดังนี้ศาลจึงไม่ต้อง กำหนดราคาทรัพย์ซึ่งจำเลยจะต้องใช้ให้แก่เจ้าทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 47(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1163/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 240/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองรถลักทรัพย์และการเปลี่ยนมือของทรัพย์สิน: พิจารณาความผิดฐานรับของโจร
รถยนต์ถูกลักที่พระนครระหว่างเวลาเย็น คืนวันนั้นเวลา 2 นาฬิกาจำเลยขับรถคันนั้นที่อำเภอวังน้อย อยุธยาจำเลยทิ้งรถหนีตำรวจระยะเวลาและสถานที่ห่างกันหลายชั่วโมงและไกลมีทางเปลี่ยนมือได้ เป็นรับของโจรไม่ใช่ลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1923/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันทรัพย์สินโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้กระแสไฟฟ้าป้องกันการลักทรัพย์
โรงเก็บของของจำเลยอยู่ในบริเวณสวนของจำเลย มีรั้วต้นพู่ระหงปลูกเป็นแนวเขต จำเลยเก็บของอันมีค่าเช่นเครื่องยนต์สูบน้ำและอุปกรณ์อื่นๆไว้ ทรัพย์สินที่จำเลยเก็บไว้ในโรงเก็บของเคยถูกคนร้ายลักไปในตำบลที่เกิดเหตุมีคนร้ายชุกชุม จำเลยเอาเส้นลวดขึงที่โรงเก็บของและปล่อยกระแสไฟฟ้าจากบ้านไว้เพื่อป้องกันคนร้ายผู้ตายกับพวกอีก 3 คนบุกรุกเข้าไปที่โรงเก็บของในเวลาวิกาล โดยเจตนาจะลักทรัพย์ ในมือผู้ตายมีเหล็กไขควง 1 อัน แต่ผู้ตายไปถูกเส้นลวดที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้ถึงแก่ความตายเสียก่อน มิฉะนั้นผู้ตายกับพวกย่อมลักทรัพย์ของจำเลยไปได้ นับได้ว่าภยันตรายที่จะเกิดแก่ทรัพย์สินของจำเลยใกล้จะถึงแล้ว ถ้าจำเลยไปพบเห็นเข้า จำเลยย่อมมีสิทธิทำร้ายผู้ตายกับพวกเพื่อป้องกันทรัพย์สินของจำเลยได้ ดังนั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันสิทธิของตนโดยชอบด้วยกฎหมาย และพอสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2398/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การช่วยเหลือจำหน่ายทรัพย์ที่ได้จากการลักทรัพย์ แม้เจ้าทรัพย์ไม่ได้ขอร้อง ถือเป็นความผิดฐานรับของโจร
จำเลยรู้แล้วว่ารถจักรยานยนต์ของเจ้าทรัพย์ถูกคนร้ายลักไป และจำเลยเป็นคนติดต่อเรียกค่าไถ่จากเจ้าทรัพย์จนได้มีการไถ่รถคันดังกล่าวคืนมา ทั้งนี้โดยไม่ปรากฏว่าเจ้าทรัพย์ขอร้องให้จำเลยช่วย และจำเลยเป็นคนรับเงินค่าไถ่ไป การกระทำของจำเลยจึงเป็นการช่วยเหลือคนร้ายจำหน่ายทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 919/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์โดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้ามีองค์ประกอบอย่างไรเข้าข่ายวิ่งราวทรัพย์หรือไม่
จำเลยเข้าไปในร้านขอซื้อสุราเจ้าของร้านบอกว่าหมดเวลาแล้วขายไม่ได้ จำเลยพูดว่าไม่ขายก็จะเอาไปกินเฉยๆ จะทำอะไรเขา แล้วจำเลยหยิบขวดสุราออกจากร้านไปด้วย ดังนี้เป็นการลักทรัพย์โดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้าเข้าองค์ประกอบความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลักทรัพย์ด้วยกลอุบาย vs. ฉ้อโกง: การกระทำโดยใช้บัตรปลอมเพื่อลักทรัพย์
จำเลยทำอุบายขอน้ำดื่มจากเจ้าของร้านรับฝากรถจักรยานเมื่อเขาเผลอก็ลอบหยิบบัตรคู่หนึ่งของเจ้าของร้านแล้วเอาบัตรนั้นใบหนึ่งไปแขวนไว้ที่รถจักรยานโดยเอาบัตรเลขอื่นที่แขวนอยู่เดิมออกเสีย แล้วต่อมาก็เอาบัตรคู่กันอีกใบหนึ่งมาขอรับรถจักรยาน เขาไม่ยอมให้เพราะเห็นว่าไม่ใช่ผู้ฝากรถ ก็กล่าวเท็จแสดงว่าเพื่อนให้เอาบัตรมารับรถเพราะเปลี่ยนรถกันขี่ เขาจึงยอมให้รถไป ดังนี้ เป็นความผิดฐานลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย มิใช่ฉ้อโกง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1508/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันทรัพย์และตนเอง: การใช้กำลังเพื่อป้องกันการลักทรัพย์และการต่อสู้
ผู้ตายลักทรัพย์ของจำเลยจำเลยติดตามมา ผู้ตายหันหน้ากลับมาต่อสู้ด้วยมีดปาดตาลจำเลยจึงตีผู้ตายด้วยเสียม ซึ่งเป็นวัตถุที่ธรรมดามิใช่สาตราวุธจำเลยตีเพียงหนึ่งหรือสองที ผู้ตายก็วิ่งหนีไปดังนี้เรียกได้ว่าจำเลยกระทำการป้องกันทรัพย์และตนพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 899/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์การครอบครองโคที่ถูกลัก - การงดสืบพยานไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าโคของผู้เสียหายถูกคนร้ายลักหายไป 2 ตัว.ผู้เสียหายได้คืนจากจำเลย 1 ตัวโดยเสียค่าไถ่ โดยจำเลยได้ลักมาหรือได้รับไว้โดยรู้ว่าเป็นของได้มาจากการกระทำผิด.โจทก์นำสืบได้ความว่าโคเพริดหายไปจากทำเลเลี้ยงรุ่งขึ้นได้ทราบข่าวและต่อจากนั้นอีก 1 วัน เจ้าทรัพย์ก็ได้ไปไถ่คืนมาจากจำเลยแต่ได้คืนมาเพียง 1 ตัว. จำเลยผัดว่าอีก 2-3 วันให้ไปรับคืนอีกตัวหนึ่ง. ดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าทางพิจารณาต่างกับฟ้อง. การที่ศาลชั้นต้นด่วนงดสืบพยานจำเลยแล้วพิพากษายกฟ้องไปนั้นเป็นการมิชอบควรพิจารณาต่อไปให้สิ้นกระแสความแล้วจึงวินิจฉัยไปตามรูปคดี.
of 2