พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2628/2545 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คค้ำประกัน - การรับผิดตามเช็ค แม้มีข้ออ้างเรื่องการหลอกลวง/การส่งมอบสินค้าไม่ครบถ้วน
การออกเช็คเพื่อค้ำประกันลูกหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ เป็นการออกเช็คโดยเจตนาจะให้ผูกพันและชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย เมื่อลูกหนี้มีมูลหนี้ต่อเจ้าหนี้จริง ผู้ออกเช็คจึงต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คต่อเจ้าหนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7242/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินจากการขายทอดตลาด: สิทธิในการโอนขาย และการไม่มีผลของการหลอกลวงตามคำรับรอง
เมื่อจำเลยที่1ซื้อที่พิพาทจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลแล้วต่อมาจำเลยที่1ไม่ได้ขายที่พิพาทให้โจทก์ตามที่โจทก์อ้างว่าผู้แทนของจำเลยที่1รับรองว่าจะขายให้โจทก์ในภายหลังแต่ได้ขายให้จำเลยที่2และที่3กรณีหาใช่ตัวแทนของจำเลยที่1ใช้อุบายหลอกลวงให้โจทก์หลงเชื่อเข้าแสดงเจตนาทำนิติกรรมกับจำเลยที่1ไม่เพราะไม่มีนิติกรรมใดที่ตัวแทนของจำเลยที่1ร่วมกับจำเลยที่2และที่3ได้หลอกลวงโจทก์ให้แสดงเจตนาอันได้มาเพราะกลฉ้อฉลที่จะทำให้นิติกรรมตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา121เดิมและมาตรา124(เดิม) ที่โจทก์อ้างว่าโจทก์ไม่ได้เข้าสู้ราคาในการขายทอดตลาดที่พิพาททำให้จำเลยที่1ซื้อที่พิพาทในราคาต่ำกว่าราคาเป็นจริงหลายเท่าตัวนั้นหากโจทก์เห็นว่าการขายทอดตลาดที่พิพาทของเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ชอบโจทก์ต้องไปว่ากล่าวในคดีก่อนเมื่อจำเลยที่1ได้ซื้อที่พิพาทจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลโดยชอบจำเลยที่1ย่อมมีสิทธิโอนขายที่พิพาทให้แก่จำเลยที่2และที่3ต่อไปได้โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมในคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5444/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เครื่องหมายการค้าปลอม แม้มีเครื่องหมายการค้าของจำเลย ก็ไม่ทำให้เครื่องหมายการค้าปลอมกลายเป็นของแท้
ถุงเท้าที่มีการนำตราเครื่องหมายการค้าปลอมของผู้เสียหายติดอยู่บริเวณข้อเท้า ถือได้ว่าเป็นสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 273 แล้ว ถึงแม้จะมีตราฉลากเครื่องหมายการค้าของจำเลยติดอยู่ด้วย ก็หาทำให้เครื่องหมายการค้าปลอมของผู้เสียหายที่ติดอยู่กลับเป็นเครื่องหมายการค้าที่แท้จริงไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3504/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายยาเสพติด แม้เป็นการมอบตัวอย่างเพื่อหลอกลวง ก็ถือเป็นการจำหน่ายได้ และการริบของกลางต้องเป็นของจำเลย
ตำรวจปลอมตัวเป็นพ่อค้าไปล่อซื้อเฮโรอีนจากจำเลย แต่จำเลยนำผงซักฟอกมาหลอกขายให้แทน ในการหลอกขายนี้จำเลยได้นำเฮโรอีนบรรจุหลอดพลาสติกครึ่งหลอดมามอบให้ตำรวจ มิใช่เพียงมอบให้ดูเท่านั้น แต่มอบให้ตำรวจไปเลย แม้จำเลยจะมอบให้เพื่อเป็นตัวอย่างในการหลอกขายผงซักฟอกก็ตาม ก็เป็นการมอบเฮโรอีนให้แก่ผู้อื่น ถือเป็นการจำหน่ายแจกจ่ายเฮโรอีนครึ่งหลอดนั้นให้แก่ตำรวจ คำว่า "จำหน่าย" มิได้หมายความเฉพาะการขายเท่านั้น การจำหน่ายแจกจ่ายด้วยประการใดก็ถือเป็นการจำหน่าย
ธนบัตรของกลางฉบับละห้าร้อยบาท 10 ฉบับ ที่เจ้าพนักงานนำมาใช้ล่อซื้อเฮโรอีนจากจำเลยนั้น ปรากฏว่าเป็นเงินที่ตำรวจยืมมาจากสำนักงานปราบปรามยาเสพติดให้โทษอเมริกา ฯ หาใช่เป็นของจำเลยไม่ ฉะนั้นจึงต้องคืนธนบัตรนั้นให้แก่เจ้าของจะริบไม่ได้
ธนบัตรของกลางฉบับละห้าร้อยบาท 10 ฉบับ ที่เจ้าพนักงานนำมาใช้ล่อซื้อเฮโรอีนจากจำเลยนั้น ปรากฏว่าเป็นเงินที่ตำรวจยืมมาจากสำนักงานปราบปรามยาเสพติดให้โทษอเมริกา ฯ หาใช่เป็นของจำเลยไม่ ฉะนั้นจึงต้องคืนธนบัตรนั้นให้แก่เจ้าของจะริบไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 331/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำสัญญาจะซื้อขายและการฉ้อโกง: การกระทำที่มิใช่การหลอกลวงแต่เป็นข้อตกลงทางการค้า
การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2506 เวลากลางวันจำเลยโดยทุจริต ขายโรงเรือนไม่มีเลขหมาย ตำบล ฯลฯ ให้โจทก์ราคา4,000 บาท โดยหลอกลวงแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่าจะไปจดทะเบียนการซื้อขายบ้านในภายหลัง โจทก์หลงเชื่อจึงยอมทำสัญญาจะซื้อขายและมอบเงิน 4,000 บาท ให้จำเลยไปเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2511ต่อมาจำเลยได้มอบโรงเรือนตามสัญญาจะซื้อขายให้โจทก์ครอบครองแล้วแต่กลับนำโรงเรือนนั้นไปทำสัญญาซื้อขายให้ ส. ซ้ำอีก เหตุเกิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 300/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสู้คดีเรื่องสัญญาเช่าและการหลอกลวงในการทำสัญญา ศาลฎีกาวินิจฉัยเรื่องการงดสืบพยานและขอบเขตการฎีกา
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่เช่า จำเลยให้การว่า เดิมที่ ๆ เช่ากันเป็นของจำเลย ๆ กู้เงินโจทก์แล้ว จำเลยไม่มีเงินใช้ให้ จำเลยจึงเอาเรือนกับที่ดินจำนองโจทก์ไว้ ต่อมาโจทก์ว่าจำเลยขาดส่งดอกเบี้ย จึงให้จำเลยทำหนังสือสัญญาเช่า จำเลยก็ทำหนังสือสัญญาเช่าให้ ตอนที่โจทก์ขับไล่นี้ จำเลยรู้ว่าที่โจทก์ให้จำเลยจำนองเรือนกับที่ดินนั้น เป็นการหลอกลวงจำเลย ความจริงโจทก์ได้บอกพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าจำเลยโอนขายเรือนและที่ดินให้โจทก์ทำให้จำเลยเข้าใจผิดในสาระสำคัญ เป็นการไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ในชั้นพิจารณา จำเลยแถลงรับว่า จำเลยทำหนังสือสัญญาเช่าบ้านโจทก์จริง จะขอสืบพยานเพียงว่า เมื่อครบกำหนดตามสัญญาเช่า 1 ปี แล้ว โจทก์ยอมให้จำเลยอยู่ในบ้านเช่าต่อไป และว่านอกจากนี้จำเลยไม่มีพยานสืบดังนี้จึงเท่ากับว่าจำเลยไม่ขอต่อสู้เรื่องเข้าใจผิดในสาระสำคัญของสัญญาจำนองว่าเป็นสัญญาขาย เมื่อศาลสั่งงดสืบพยานจำเลยในข้อนี้เสียจึงเป็นการชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ vs. ฉ้อโกง: การหลอกลวงแล้วหลบหนีพร้อมทรัพย์สิน
จำเลยแต่งคนไปหลอกเจ้าทรัพย์ว่า จะซื้อแหวนเพ็ชร เจ้าทรัพย์ได้นำแหวนมาให้ดู 2 วง ระหว่างดูและต่อราคากัน เผอิญเจ้าทรัพย์ปวดปัสสาวะ จึงเข้าห้องน้ำไม่เกิน 5 นาที กลับออกมาไม่พบจำเลย ๆ ได้หลบหนีและนำแหวนไปด้วย ดังนี้เจ้าทรัพย์หาได้มอบการครอบครองให้แก่จำเลยไม่ จำเลยจึงมีผิดฐานลักทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกเงินเกินจำนวนที่ขอ และการฉ้อโกง vs. ยักยอก
เจ้าพนักงานได้รับมอบฉันทะเบิกเงินต่อคลังจังหวัดได้แก้จำนวนเงินในใบเบิกให้มากขึ้น แล้วเอาเงินที่เบิกได้มากขึ้น แล้วเอาเงินที่เบิกได้มากขึ้นนั้นเป็นของตัวดังนี้ถือเป็นผิดฐานฉ้อโกง ไม่ใช่ยักยอกโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานยักยอก ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยมีผิดฐานฉ้อโกงลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องฐานฉ้อโกงต้องแสดงการหลอกลวงให้ชัดเจน การขาดรายละเอียดสำคัญทำให้ฟ้องไม่เป็นไปตามกฎหมาย
ฟ้องที่ขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงนั้น โจทก์จะต้องกล่าวในฟ้องแสดงให้ชัดเจนว่าจำเลยได้ใช้อุบายหลอกลวงให้เขาส่งทรัพย์ ทำ ถอน หรือทำลายหนังสือสำคัญอย่างใด ๆ มิฉะนั้นไม่เป็นฟ้องอันควรรับวินิจฉัยในความผิดฐานฉ้อโกงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 403/2566
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทสัญญาจ้างเหมา การชำระเงินค่าจ้างล่วงหน้า การหลอกลวงเอาไปซึ่งหนังสือค้ำประกัน และการคิดดอกเบี้ย
จำเลยที่ 1 เบิกเงินค่าจ้างล่วงหน้าไปจากโจทก์โดยนำหนังสือค้ำประกันของธนาคารมาวางเพื่อเป็นหลักประกัน การที่จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 หลอกหลวงโจทก์เอาไปซึ่งหนังสือค้ำประกันดังกล่าว ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับประโยชน์ตามหนังสือค้ำประกันไม่มีหลักประกันที่จะเรียกร้องเอาจากธนาคารซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 การกระทำของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 จึงเป็นละเมิดต่อโจทก์ และทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายซึ่งเท่ากับจำนวนเงินที่จำเลยที่ 1 ค้างชำระต่อโจทก์