พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 977/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทสัญญาเช่า: การเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การเช่าและการคุ้มครองตามกฎหมายควบคุมการเช่า
หนังสือสัญญาเช่าระบุไว้ว่าจำเลยเช่าเพื่อทำการค้า จำเลย ย่อมต่อสู้และนำสืบได้ว่าจำเลยเช่าเพื่ออยู่อาศัย
โจทก์มิได้กล่าวหาเลยว่า จำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าสองคราวติดๆกันอันจะเป็นเหตุให้จำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 มาตรา 17(1) การที่ศาลชั้นต้นหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาจึงเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 วรรคแรก
การที่ผู้เช่าจะชำระค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่าหรือไม่นั้น ไม่เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
โจทก์มิได้กล่าวหาเลยว่า จำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าสองคราวติดๆกันอันจะเป็นเหตุให้จำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 มาตรา 17(1) การที่ศาลชั้นต้นหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาจึงเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 วรรคแรก
การที่ผู้เช่าจะชำระค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่าหรือไม่นั้น ไม่เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 633/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงสัญญากู้โดยไม่สมบูรณ์และการปลอมแปลงเอกสาร ทำให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าของร่วม
สัญญากู้เดิมมีชื่อโจทก์จำเลยเป็นผู้ให้กู้ทั้ง 2 คน แล้วภายหลังจำเลยทำสัญญากู้ขึ้นใหม่มีข้อความเหมือนฉะบับเดิมทุกประการ แต่เอาชื่อโจทก์ออกเสีย คงลงชื่อจำเลยเป็นผู้ให้กู้แต่ผู้เดียว ดังนี้ผิดฐานปลอมหนังสือตามมาตรา 222-224 การยกสัญญากู้ให้แก่กัน ถ้าได้ส่งมอบให้แก่ผู้รับให้แลได้บอกลูกหนี้ให้ทราบ นับ+การให้ไม่สมบูรณ์ ควรยกสัญญากู้ให้แก่กัน แม้ตามกฎหมายเก่าก็ต้องมีการมอบมิฉะนั้นไม่สมบูรณ์