คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
การเลือกตั้งใหม่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งแห่งหนึ่งไม่เปิดทำการ แต่ไม่มีเหตุอันสมควรให้มีการเลือกตั้งใหม่
การเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งจังหวัดมหาสารคามเป็นไปโดยมิชอบเพราะหน่วยเลือกตั้งที่ 4 ไม่เปิดการเลือกตั้งให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนน แต่ปรากฎว่าหน่วยเลือกตั้งทั้งหมดในจังหวัดนั้นมี 186 หน่วยใน 186หน่วยนี้ 185 หน่วยการเลือกตั้งเป็นไปโดยถูกต้อง แต่มีหน่วยเลือกตั้งอยู่ 1 หน่วยคือหน่วยเลือกตั้งที่ 4 ดังกล่าวข้างต้นไม่เปิดการเลือกตั้งให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนน เนื่องจากเจ้าพนักงานผู้ได้รับการแต่งตั้งให้มีหน้าที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งรับเครื่องหมายประจำตัวผู้สมัครไปแล้ว ครั้นจวนเวลาเปิดการลงคะแนนตรวจดูปรากฎว่า เครื่องหมายประจำตัวผู้สมัครเลข 6 ถึง 10มีอยู่เพียงแผ่นเดียว เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งได้พยายามพอสมควรแล้วที่จะให้ได้เครื่องหมายดังกล่าวมาเพื่อเปิดการลงคะแนนเลือกตั้ง แต่ก็ได้มาเมื่อจวนหมดเวลาลงคะแนนเลือกตั้งแล้ว จึงไม่ยอมเปิดการลงคะแนนเลือกตั้ง ทั้งไม่ปรากฎว่าได้มีการทุจริตจงใจจะไม่เปิดการลงคะแนนเลือกตั้งอย่างใด และฝ่ายผู้ร้องก็มิได้นำสืบแสดงให้เห็นได้ว่า หากมีการลงคะแนนเลือกตั้งในหน่วยที่เจ้าพนักงานไม่เปิดการลงคะแนนเลือกตั้งดังกล่าวนั้นแล้ว ผู้ร้องจะได้รับคะแนนนิยมเท่าหรือเหนือกว่าผู้ที่ได้รับเลือกตั้งได้โดยพฤติการณ์ทั่ว ๆ ไป ประกอบด้วยเหตุผลที่ปรากฎในคดี ยังไม่มีเหตุอันสมควรที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 60/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลือกตั้งที่บัตรเลือกตั้งไม่พอ แต่ไม่ถึงขั้นต้องเลือกตั้งใหม่ พิจารณาจากคะแนนที่ได้รับ
หน่วยเลือกตั้งหน่วยหนึ่งบัตร์เลือกตั้งไม่พอจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงๆ ในหน่วยนั้นมี 185 คน ผู้ได้รับเลือกตั้งได้คะแนนรวมทั้งสิ้น 5000 เศษ ผู้ร้องคัดค้านได้ 2000 เศษ เมื่อการบกพร่องเกิดขึ้นเพียงหน่วยเดียวเท่านั้นยังไม่เป็นเหตุอันสมควรให้มีการเลือกตั้งใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12761/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและค่าเสียหายจากการเลือกตั้งใหม่ จำเลยมีสิทธิปฏิเสธความรับผิดหากมิได้กระทำผิด
การฟ้องผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งให้รับผิดชำระค่าเสียหายที่เป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 99 วรรคหนึ่ง เป็นการฟ้องให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งรับผิดในทางแพ่งที่มีเหตุมาจากการที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งฝ่าฝืนมาตรา 57 จนเป็นเหตุให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและให้เลือกตั้งใหม่ตามมาตรา 97 วรรคหนึ่ง เมื่อจำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธความรับผิดและต่อสู้ว่า จำเลยทั้งสี่มิได้บริจาคเงินและไม่มีเจตนาจะจูงใจให้จำเลยทั้งสี่ได้รับเลือกตั้ง ถือว่าจำเลยทั้งสี่ปฏิเสธว่ามิได้กระทำการฝ่าฝืนมาตรา 57 จนเป็นเหตุให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งตามบทบัญญัติมาตรา 99 วรรคหนึ่ง ที่ให้ผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่เป็นค่าใช้จ่ายในการให้มีการเลือกตั้งใหม่นั้น มิใช่บทบัญญัติให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งต้องรับผิดโดยเด็ดขาด จำเลยทั้งสี่ย่อมมีสิทธินำสืบปฏิเสธว่ามิได้กระทำการฝ่าฝืนมาตรา 57 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5988/2556

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง, การชดใช้ค่าเสียหายจากการเลือกตั้งใหม่, และอำนาจฟ้องของ กกต.
การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา จัดให้มีขึ้นเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2549 ต่อมามีผู้ร้องคัดค้านและคณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีคำวินิจฉัยสั่งการ ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2549 ซึ่งช่วงระยะเวลาดังกล่าว พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2541 มีผลใช้บังคับ แม้ต่อมาจะมี พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2550 ออกมาใช้บังคับ ซึ่งได้กำหนดสัดส่วนองค์ประชุมของคณะกรรมการการเลือกตั้งในมาตรา 8 แตกต่างไปจากกฎหมายฉบับเดิมก็ตาม ศาลจะหยิบยกกฎหมายฉบับที่แก้ไขใหม่ดังกล่าวมาปรับแก่คดีนี้ไม่ได้
ข้อความตามมาตรา 8 วรรคแรก แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2541 บัญญัติว่า การประชุมของคณะกรรมการการเลือกตั้งต้องมีกรรมการการเลือกตั้งมาประชุมไม่น้อยกว่าสี่ในห้าของจำนวนกรรมการการเลือกตั้งทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ จึงจะเป็นองค์ประชุม หมายถึงจำนวนคนไม่ใช่สัดส่วนที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ดังนั้น เมื่อขณะลงมติมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง 3 คน และกรรมการการเลือกตั้งทั้งสามคนได้ลงมติให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยและให้มีการเลือกตั้งใหม่ จึงเป็นการลงคะแนนไม่น้อยกว่าสี่ในห้าของจำนวนกรรมการตามนัยแห่งกฎหมายข้างต้นแล้ว
การฟ้องผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งให้รับผิดค่าเสียหายที่เป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่ตามมาตรา 99 วรรคหนึ่ง นั้น เป็นการฟ้องให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งรับผิดในทางแพ่งที่มีเหตุมาจากการที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งฝ่าฝืนมาตรา 57 จนเป็นเหตุให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและให้เลือกตั้งใหม่ตามมาตรา 97 วรรคหนึ่ง แม้จำเลยจะถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีอาญาดังกล่าวด้วยก็ตาม กรณีมิใช่เป็นเรื่องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 46 ที่ศาลจะต้องถือข้อเท็จจริงตามปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา เพียงแต่ว่าเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธความรับผิดว่าไม่เคยกระทำการฝ่าฝืนมาตรา 57 จนเป็นเหตุให้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและมีการเลือกตั้งใหม่ จำเลยย่อมมีสิทธินำสืบปฏิเสธความรับผิดตามคำให้การได้ และมีสิทธิอ้างคำพิพากษาในคดีอาญาเป็นพยานหลักฐานในคดีนี้ได้ และศาลย่อมใช้ดุลพินิจรับฟังพยานหลักฐานดังกล่าวประกอบได้ แต่พยานหลักฐานดังกล่าวจะมีน้ำหนักให้รับฟังได้ประการใดหรือไม่เป็นกรณีที่ต้องพิจารณาตามหลักเรื่องภาระการพิสูจน์และการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน
มาตรา 99 วรรคแรก แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 บัญญัติว่า ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งมีคำสั่งให้มีการการเลือกตั้งใหม่ตามมาตรา 56 หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง...ผู้กระทำการฝ่าฝืน มาตรา 56 หรือผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนั้นต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามจำนวนที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด ซึ่งต้องไม่เกินค่าใช้จ่ายในการให้มีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งมีความหมายอยู่ในตัวว่าเมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจกำหนดจำนวนค่าเสียหายให้ผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งต้องชำระ คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงมีอำนาจในการยื่นฟ้องเพื่อบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำสั่ง
ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2550 มาตรา 21 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจฟ้องคดีต่อศาลในทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางปกครองโดยได้รับยกเว้นค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวง จึงต้องคืนค่าฤชาธรรมเนียมทั้งหมดแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10163/2554

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจโจทก์ในการบังคับชดใช้ค่าเสียหายจากการเลือกตั้งใหม่ และข้อยกเว้น พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
การที่โจทก์มีคำสั่งให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายในการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 99 เป็นการดำเนินการในฐานะที่โจทก์เป็นองค์กรใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะ ซึ่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 มาตรา 4 ยกเว้นมิให้นำบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวมาใช้บังคับแก่โจทก์ จึงถือไม่ได้ว่าคำสั่งของโจทก์ดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้จำเลยชำระเงินตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 มาตรา 57 วรรคหนึ่ง