พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5851/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้สิทธิเหนือพื้นดิน การใช้ประโยชน์ที่ดิน และการไม่ตกเป็นภารจำยอมจากบุคคลภายนอก
สัญญาให้ใช้สิทธิเหนือพื้นดินกำหนดไว้ว่า "ผู้ใช้ (จำเลย)มีสิทธิปรับปรุงที่ดินโดยถม ขุดดินมาถม ทำสะพาน ถนนเชื่อมต่อกับที่ดินของผู้ใช้ (จำเลย) หรือผู้ใกล้เคียง หรือออกสู่ถนนได้" ดังนั้น จำเลยซึ่งเป็นผู้ใช้สิทธิเหนือพื้นดินจึงมีสิทธิตามสัญญาที่จะทำถนนบนที่ดินได้ แม้ตามสัญญาให้ใช้สิทธิเหนือพื้นดินในตอนต้นจะกำหนดว่าผู้ใช้ (จำเลย) จะต้องใช้สิทธิเหนือพื้นดินตามสัญญาเพื่อเป็นสวัสดิการสำหรับพนักงานของผู้ใช้ (จำเลย) เท่านั้นก็ตามแต่ข้อความในตอนท้ายได้กำหนดไว้ด้วยว่า "รวมทั้งการใช้ถนนผ่านเข้าออกเพียงบางส่วนเพื่อสะดวกในกิจการของผู้ใช้ได้ด้วย"โดยที่การขนส่งคนทางอากาศ ครัวการบินและกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการดังกล่าวเป็นกิจการตามวัตถุประสงค์ของจำเลยที่ได้จดทะเบียนไว้ ดังนั้นที่จำเลยใช้ถนนคอนกรีตบนที่ดินตามสัญญาให้ใช้สิทธิเหนือพื้นดินเป็นทางเข้าออกบางส่วนสำหรับการลำเลียงอาหารฝ่ายโภชนาการของจำเลยไปยังเครื่องบินของจำเลยก็ดี ที่จำเลยอนุญาตให้พนักงานสายการบินอื่นใช้ถนนคอนกรีตดังกล่าวเป็นทางผ่านไปยังครัวการบินของจำเลยก็ดีถือได้ว่าเป็นการใช้ที่ดินตามสัญญาให้ใช้สิทธิเหนือพื้นดินเป็นถนนผ่านเข้าออกเพียงบางส่วนเพื่อความสะดวกในกิจการของจำเลยตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจำเลยมีสิทธิทำได้โดยชอบ หาได้เป็นการผิดสัญญาไม่ จำเลยได้จัดให้มีพนักงานรักษาความปลอดภัยเฝ้าทางเข้าออกของถนนบนที่ดินที่จำเลยเช่าจากโจทก์ตลอดเวลา บุคคลภายนอกที่จะใช้ถนนดังกล่าวได้มีเฉพาะพนักงานของบริษัทสายการบินอื่นที่เป็นลูกค้าของจำเลย ซึ่งมาติดต่อธุรกิจกับจำเลย ส่วนบุคคลอื่นจะใช้ถนนดังกล่าวได้เฉพาะเมื่อมาติดต่อภายในอาคารของจำเลยทั้งจะต้องลงเวลาเข้าออกและติดบัตรผู้มาติดต่อไว้ด้วย และจะใช้ถนนดังกล่าวเป็นทางผ่านไม่ได้ บุคคลภายนอกที่ไม่มีธุรกิจกับจำเลยจะใช้ถนนดังกล่าวไม่ได้ ดังนั้นการที่บุคคลภายนอกใช้ถนนบนที่ดินที่จำเลยเช่าจากโจทก์นั้น เป็นการใช้โดยอาศัยสิทธิของจำเลย ทั้งไม่ปรากฏว่าบุคคลภายนอกที่ใช้ถนนเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์อื่นแต่อย่างใด ดังนั้นแม้บุคคลภายนอกจะได้ใช้ถนนบนที่ดินที่จำเลยเช่าจากโจทก์เป็นเวลานานเท่าใด ถนนบนที่ดินที่จำเลยเช่าจากโจทก์ก็ไม่ตกอยู่ในภาระจำยอมการที่จำเลยให้บุคคลภายนอกใช้ถนนจึงหาได้เป็นการไม่สงวนทรัพย์สินที่เช่าเสมอกับที่วิญญูชนจะพึงสงวนทรัพย์สินของตนเองไม่ โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาเช่าแก่จำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3344/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ประโยชน์ที่ดินกรรมสิทธิ์รวมเกินขอบเขต และขอบเขตการบังคับชำระค่าเสียหายที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเกินคำฟ้อง
โจทก์ ภรรยาจำเลย และบุคคลอื่น ๆ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินพิพาท การที่จำเลยและภรรยาจำเลยปลูกสร้างอาคารลงในที่ดินพิพาทแล้วหาประโยชน์จากการรับฝากรถยนต์และให้เช่าทำเป็นร้านเสริมสวยมีรายได้ประจำเดือนเป็นส่วนตัวนั้นมิใช่เป็นการใช้ที่ดินพิพาทตามสภาพปกติจึงขัดต่อสิทธิแห่งเจ้าของรวมคนอื่น ๆ
โจทก์เรียกร้องขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายโดยอ้างว่าโจทก์อาจเซ้งหน้าดินที่ดินพิพาทให้ผู้อื่นสร้างตึกแถวให้เช่า จะได้ค่าเซ้งอย่างน้อย 80,000 บาทขอให้จำเลยใช้เงิน 80,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย แต่โจทก์มิได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายอันต่อเนื่องคำนวณถึงวันฟ้อง เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าค่าเสียหายดังกล่าวมิใช่ค่าเสียหายโดยตรงที่เกิดจากการปฏิบัติผิดข้อตกลงของจำเลยศาลอุทธรณ์จะให้จำเลยใช้ค่าเสียหายรายเดือนนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากที่ดินพิพาทอีกส่วนหนึ่งหาได้ไม่เพราะเป็นการเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง
ปัญหาที่ว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาเกินคำขอหรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยมิได้ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
โจทก์เรียกร้องขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายโดยอ้างว่าโจทก์อาจเซ้งหน้าดินที่ดินพิพาทให้ผู้อื่นสร้างตึกแถวให้เช่า จะได้ค่าเซ้งอย่างน้อย 80,000 บาทขอให้จำเลยใช้เงิน 80,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย แต่โจทก์มิได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายอันต่อเนื่องคำนวณถึงวันฟ้อง เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าค่าเสียหายดังกล่าวมิใช่ค่าเสียหายโดยตรงที่เกิดจากการปฏิบัติผิดข้อตกลงของจำเลยศาลอุทธรณ์จะให้จำเลยใช้ค่าเสียหายรายเดือนนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากที่ดินพิพาทอีกส่วนหนึ่งหาได้ไม่เพราะเป็นการเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง
ปัญหาที่ว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาเกินคำขอหรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยมิได้ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้