พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3441/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ การใช้กำลังป้องกันต้องสมควรแก่เหตุ และไม่เกินความจำเป็น
เมื่อผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุขึ้นก่อนโดยตบตีทำร้าย และเตะจำเลยก่อนฝ่ายเดียวอันถือได้ว่าเป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะป้องกันตัวเองได้แต่ขณะเกิดเหตุผู้ตายเพียงแต่ตบเตะจำเลยโดยไม่มีอาวุธแต่อย่างใด การที่จำเลยใช้อาวุธมีดเลือกแทงที่ช่องท้องของผู้ตายอันเป็นอวัยวะที่สำคัญ แม้จะแทงไปเพียง 1 ครั้งแต่ถูกลำไส้และเส้นเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องฉีกขาดเป็นเหตุ ให้ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย จึงเป็นการกระทำที่เกินสมควรแก่เหตุ การกระทำของจำเลยย่อม เป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเพื่อป้องกันเกินสมควร แก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 69
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2934/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวจากการถูกทำร้าย: การใช้กำลังป้องกันต้องสมควรแก่เหตุ
ผู้เสียหายได้จับมือภรรยาจำเลยเพื่อให้ร่วมวงดื่มสุราในบริเวณบ้านผู้เสียหาย ภรรยาจำเลยปฏิเสธและเดินออกจากบ้านผู้เสียหายมาแล้วจึงเกิดการทะเลาะกับจำเลยด้วยเหตุจำเลยหึงหวงภรรยา และระหว่างที่จำเลยกับภรรยาทะเลาะกันเองอยู่นั้นผู้เสียหายเป็นฝ่ายลุกออกจากบ้านเข้ามาหาจำเลย โดยหลังจากจำเลยเห็นภรรยาถูกผู้เสียหายจับมือในบ้าน ต้องอดกลั้นความหึงหวง และไม่กล้าที่จะแสดงออกต่อผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้กระทำเป็นเครื่องชี้ให้เห็นถึงเจตนาของจำเลยไม่ประสงค์ที่จะมีเหตุการณ์วิวาทกับผู้เสียหาย จึงได้หลีกเลี่ยงชวนภรรยาออกมาจากบ้านผู้เสียหาย และเหตุที่จำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหายก็เพราะผู้เสียหายได้เข้ามาทำร้ายจำเลยก่อน กรณีจึงมิใช่จำเลยสมัครใจเข้าวิวาทกับผู้เสียหาย หากแต่เป็นการป้องกันตัวแต่ผู้เสียหายเข้ามาทำร้ายจำเลยโดยปราศจากอาวุธภยันตราย ที่เกิดจึงไม่น่าจะรุนแรงถึงขนาดเป็นอันตรายต่อชีวิต การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหายบริเวณช่องท้องใต้ราวนมข้างซ้าย ซึ่งอวัยวะสำคัญอันจะเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายได้เช่นนี้จึงเป็นการป้องกันที่เกินสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80 ประกอบด้วยมาตรา 69
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 850/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจ การใช้กำลังพอสมควรแก่เหตุ
จำเลยที่2เป็นเจ้าพนักงานตำรวจเห็นจำเลยที่1กับพวกขับรถจักรยานยนต์วนเวียนไปมาและไปจอดรถที่ปากซอยที่เกิดเหตุมีพฤติการณ์เป็นที่น่าสงสัยจำเลยที่2จึงเข้าสอบถามและขอตรวจค้นแต่จำเลยที่1กับพวกติดเครื่องจะขับรถออกไปและใช้ปืนยิงมายังจำเลยที่2การที่จำเลยที่2ใช้ปืนยิงโต้ตอบถูกจำเลยที่1กับพวกได้รับบาดเจ็บถือว่าเป็นการป้องกันตัวในการปฏิบัติหน้าที่และได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 63/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการใช้กำลังพอสมควรแก่เหตุ กรณีถูกทำร้ายด้วยอาวุธ
ผู้ตายใช้พร้าฟันจำเลยพร้อมกับพูดว่า จะเอาให้ตายจำเลยแย่งพร้าได้ ผู้ตายยังโถมเข้าแย่งพร้าจากจำเลยอีก จำเลยจึงฟันถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย และปรากฏว่าผู้ตายร่างใหญ่กว่าจำเลยและเมาสุราอยู่ด้วยดังนี้ เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและทรัพย์สิน: การใช้กำลังที่สมควรแก่เหตุ
พรึติการน์ที่นับว่าเปนการป้องกันตัวและทรัพย์พอสมควนแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและไล่จับผู้กระทำผิด: การใช้กำลังที่สมควร
การกระทำที่เป็นการป้องกันตัวและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ
ราษฎรมีอำนาจไล่ตามจับผู้ร้ายลักกระบือซึ่งหนีไปต่อหน้าและยิงต่อสู้ผู้ร้ายซึ่งยิงมายังตนในขณะไล่จับได้
ราษฎรมีอำนาจไล่ตามจับผู้ร้ายลักกระบือซึ่งหนีไปต่อหน้าและยิงต่อสู้ผู้ร้ายซึ่งยิงมายังตนในขณะไล่จับได้