คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กีดขวางทาง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 780/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของรวมใช้สิทธิในที่ดินต้องไม่ขัดต่อสิทธิของเจ้าของรวมคนอื่น การปลูกสร้างกีดขวางทางพิพาทถือเป็นการโต้แย้งสิทธิ
จำเลยชอบที่จะใช้สิทธิในที่ดินซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมแต่ต้องไม่ขัดต่อสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของรวมเช่นกันการที่จำเลยปลูกบ้านคร่อมทางพิพาทที่โจทก์ใช้เดินเป็นปกติจนได้รับความเดือดร้อนถือได้ว่าจำเลยใช้สิทธิของตนขัดต่อสิทธิของเจ้าของรวมคนอื่นแล้วทั้งเป็นการใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะเกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา421จึงเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องให้จำเลยรื้อถอนบ้านที่ปลูกคร่อมปิดทางพิพาทออกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2439/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิใช้ทางจำเป็นในที่ดินของผู้อื่นเมื่อไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ และการกีดขวางทางดังกล่าว
ที่ดินของโจทก์แยกออกมาจากที่ดินของจำเลยที่1เมื่อไม่มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะโจทก์มีสิทธิใช้ทางจำเป็นในที่ดินของจำเลยที่1โดยไม่ต้องใช้ค่าทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1350 ปัจจุบันรถยนต์ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นในความเป็นอยู่ของประชาชนโดยทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งโจทก์เป็นผู้ที่มีอาชีพหาซื้อสุกรมาชำแหละเนื้อสุกรขายการใช้รถยนต์ผ่านทางเข้าออกทางพิพาทมิได้เป็นเรื่องเกินความจำเป็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 536/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระจำยอมติดไปกับที่ดินแม้มีการโอนสิทธิ การก่อสร้างกีดขวางทางภาระจำยอมเป็นเหตุให้เจ้าของที่ดินมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
คำให้การเพิ่มเติมของจำเลยระบุว่า หากศาลสั่งอนุญาตให้รับฟ้องเพิ่มเติมของโจทก์ จำเลยขอถือเอาคำให้การส่วนนี้เป็นการโต้แย้งคำสั่งของศาลนั้น เป็นเพียงการแสดงความประสงค์ของจำเลยไว้ล่วงหน้าก่อนศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งถือไม่ได้ว่าเป็นการโต้แย้งคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมฟ้องจึงต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2) เมื่อศาลเห็นว่าพยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยสืบมาพอแก่การวินิจฉัยคดีแล้ว ศาลมีอำนาจที่จะใช้ดุลพินิจสั่งงดสืบพยานจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสอง โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานในระหว่างที่มีการไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา โดยโจทก์มิได้ระบุว่าเป็นการระบุพยานเฉพาะในชั้นไต่สวนเท่านั้นแสดงว่าโจทก์มุ่งประสงค์ให้เป็นบัญชีพยานของโจทก์ตลอดไปทั้งคดี จึงถือได้ว่าบัญชีระบุพยานของโจทก์ดังกล่าวเป็นบัญชีระบุพยานในชั้นพิจารณาคดีซึ่งยื่นต่อศาลโดยชอบแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 88 วรรคแรก ป. ได้จดทะเบียนให้ที่ดินแปลงพิพาทซึ่งเป็นถนนคอนกรีตกว้าง 6 เมตร ตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินโจทก์ทั้งสองทั้งแปลงต่อมา ป. ได้ยกที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยภาระจำยอมย่อมตกติดไปกับที่ดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 368/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลีกเลี่ยงคำพิพากษาศาลโดยการจงใจกีดขวางทางภารจำยอม ทำให้ต้องรับผิดค่าสินไหมทดแทนต่อเนื่อง
ตามคำบังคับของศาลมีใจความสำคัญว่าจำเลยจะต้องจดทะเบียนภารจำยอมที่ดินของจำเลยเพื่อให้โจทก์ใช้เป็นถนนเข้าสู่ที่ดินของโจทก์ได้ตลอดไป และให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนในอนาคตแก่โจทก์เดือนละ 300 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะขนย้ายอิฐและสัมภาระออกไปจากถนนดังกล่าวนี้ ดังนี้ กองอิฐที่โจทก์ฟ้องจำเลยได้ใช้ในการก่อสร้างหมดแล้วภายใน 3 เดือนนับแต่วันฟ้องแล้วจำเลยได้สั่งอิฐมากองไว้อีก อิฐที่จำเลยสั่งมากองไว้คราวหลังนี้ แม้โจทก์มิได้ฟ้อง แต่ก็เห็นว่าเป็นพฤติการณ์ที่ส่อให้เห็นว่าจำเลยได้กระทำไปโดยเจตนาหลีกเลี่ยงที่จะไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาล โดยทำให้โจทก์ไม่อาจใช้ถนนเข้าสู่ที่ดินของโจทก์ได้ตลอดไป ฉะนั้น ตราบใดที่จำเลยยังไม่ทำให้โจทก์ใช้ถนนได้ตลอดไปจำเลยก็ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์อยู่ตราบนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 368/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาล: ค่าสินไหมทดแทนยังคงมีผลตราบใดที่จำเลยยังกีดขวางการใช้ทาง
ตามคำบังคับของศาลมีใจความสำคัญว่าจำเลยจะต้องจดทะเบียนภารจำยอมที่ดินของจำเลยเพื่อให้โจทก์ใช้เป็นถนนเข้าสู่ที่ดินของโจทก์ได้ตลอดไป และให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนในอนาคตแก่โจทก์เดือนละ 300 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะขนย้ายอิฐและสัมภาระออกไปจากถนนดังกล่าวนี้ ดังนี้ กองอิฐที่โจทก์ฟ้องจำเลยได้ใช้ในการก่อสร้างหมดแล้วภายใน 3 เดือนนับแต่วันฟ้องแล้วจำเลยได้สั่งอิฐมากองไว้อีก อิฐที่จำเลยสั่งมากองไว้คราวหลังนี้ แม้โจทก์มิได้ฟ้อง แต่ก็เห็นว่าเป็นพฤติการณ์ที่ส่อให้เห็นว่าจำเลยได้กระทำไปโดยเจตนาหลีกเลี่ยงที่จะไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาล โดยทำให้โจทก์ไม่อาจใช้ถนนเข้าสู่ที่ดินของโจทก์ได้ตลอดไป ฉะนั้น ตราบใดที่จำเลยยังไม่ทำให้โจทก์ใช้ถนนได้ตลอดไปจำเลยก็ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์อยู่ตราบนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 240/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาฐานกีดขวางทางสาธารณะ จำเป็นต้องระบุรายละเอียดการกระทำผิดและขออนุญาตหรือไม่
การฟ้องขอให้ลงโทษตามก.ม.อาญา ม.336(2) นั้นโจทก์จะต้องบรรยายในฟ้องด้วยว่า จำเลยมิได้รับอนุญาตอันชอบด้วย ก.ม.มิฉนันย่อมจะเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ลงโทษจำเลยไม่ได้
ที่ชายทะเลซึ่งน้ำท่วมถึงนั้นหาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือทางสาธารณะเสมอไปไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 240/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาฐานกีดขวางทางสาธารณะและการพิสูจน์ความเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จำเป็นต้องบรรยายฟ้องและพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ชัดเจน
การฟ้องขอให้ลงโทษตามกฎหมายอาญา มาตรา336(2) นั้นโจทก์จะต้องบรรยายในฟ้องด้วยว่า จำเลยมิได้รับอนุญาตอันชอบด้วยกฎหมายมิฉะนั้นย่อมจะเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ลงโทษจำเลยไม่ได้
ที่ชายทะเลซึ่งน้ำท่วมถึงนั้นหาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือทางสาธารณะเสมอไปไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 374/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์วันกระทำผิดในคดีกีดขวางทางสาธารณะ แม้จำเลยรับว่ากระทำ แต่หากโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์วันได้ตามฟ้อง ศาลสามารถพิพากษายกฟ้องได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปักรั้วล้ำทางหลวง จำเลยไม่ปฏิเสธ แต่อ้างว่าที่ตอนพิพาทไม่ใช่ทางหลวง ดังนี้ไม่มีประเด็นเรื่องวันกระทำผิด. ฟ้องว่าจำเลยกั้นรั้ววันที่ 15 ธันวาคม พยานโจทก์ได้ความเพียงว่าจำเลยกั้นรั้วเดือนธันวาคม ไม่ระบุวันที่เท่าใด แต่จำเลยรับว่าได้กั้นรั้วจึงลงโทษได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 510/2475

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตกรรมสิทธิ์ที่ดินในตลาด: การอุทิศที่ดินเป็นทางสาธารณะ และความผิดฐานกีดขวางทาง
อย่างไรเรียกว่าทางหลวง
ทางหลวงทางเข้าออกในตลาดที่เป็นของเจ้าของตลาดทำให้สาธารณชนสัญจรเพื่อประโยชน์ค้าขายไม่ใช่ทางหลวงผู้ใดนำของมาวางกีดขวางยังไม่มีผิด
ที่ดิน
อย่างไรเรียกว่าอุทิศที่ให้เป็นทางสาธารณ
พ.ร.บ.ปกครองท้องที่อำเภอไม่มีอำนาจเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิที่ดินที่มีโฉนดได้
วิธีพิจารณาอาชญา
คดีผิดสัญญาหาเป็นความผิดทางอาชญาไม่ เงินพินัยที่จำเลยชำระแล้วเมื่อศาลลงตัดสินว่าไม่มีผิดต้องคืนให้จำเลย