พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4634/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การก่อสร้างปรับปรุงถนนยกระดับไม่เป็นละเมิด หากโจทก์ทราบล่วงหน้าและประโยชน์สาธารณะมีมากกว่าความเดือดร้อน
โจทก์ทราบมาก่อนซื้อที่ดินพร้อมบ้านแล้วว่าจำเลยจะก่อสร้างปรับปรุงยกระดับถนน โจทก์จึงคาดหมายได้ว่าการยกระดับถนนอาจทำให้ที่ดินและบ้านที่โจทก์กำลังจะซื้อนั้น ถูกถนนพิพาทบังทางลมและแสงสว่าง เท่ากับโจทก์ยอมรับสถานการณ์ดังกล่าวก่อนซื้อที่ดินและบ้านไว้แล้ว และเมื่อเปรียบเทียบประโยชน์ที่ประชาชนทั่วไปจำนวนมากที่จะได้รับความสะดวกปลอดภัยและความเจริญของท้องถิ่นจากการยกระดับถนนพิพาทในระดับที่สร้างกับการที่โจทก์ต้องขาดความสะดวกสบายไปบ้างแล้ว ความเดือดร้อนของโจทก์ไม่เกินกว่าที่ควรคิดหรือคาดหมาย โจทก์จำต้องยอมรับเอาดังเช่นบุคคลอื่นที่อยู่ร่วมกับโจทก์ในสังคมยอมรับ ควรก่อสร้างปรับปรุงยกระดับถนนพิพาทการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4634/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การก่อสร้างถนนเพื่อประโยชน์สาธารณะและการยอมรับความเสี่ยงก่อนซื้อที่ดิน: การกระทำไม่เป็นละเมิด
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 295 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับขณะเกิดกรณีพิพาทคดีนี้ ข้อ 7 กำหนดให้จำเลยเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ขยาย บูรณะ และบำรุงรักษาทางหลวงจังหวัด และข้อ 18ให้อธิบดีของจำเลยเป็นเจ้าหน้าที่กำกับตรวจตราและควบคุมงานที่เกี่ยวกับทางหลวงจังหวัด เมื่อจำเลยดำเนินการก่อสร้างปรับปรุงถนนพิพาทโดยอาศัยอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายดังกล่าว เพื่อความสะดวกปลอดภัยในการจราจรของประชาชนทั่วไปและเพื่อป้องกันน้ำท่วมซึ่งเป็นการสร้างความเจริญให้แก่ท้องถิ่น โดยมิได้มีเจตนากลั่นแกล้งผู้ใดประกอบกับไม่สามารถหลีกเลี่ยงการยกระดับถนนให้ต่ำลงกว่าที่สร้างได้เพราะจะทำให้การจราจรติดขัดและอาจเกิดอันตรายแก่ชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของผู้ที่ต้องใช้ทางหลวงจังหวัดสายนี้จำนวนมากได้ทั้งโจทก์ทราบมาก่อนซื้อที่ดินพร้อมบ้านแล้วว่าจำเลยจะก่อสร้างปรับปรุงยกระดับถนนพิพาท เมื่อเอาสภาพและตำแหน่งที่ดินพร้อมบ้านที่โจทก์ซื้อดังกล่าวซึ่งอยู่ติดถนนพิพาทมาคำนึงประกอบแล้ว โจทก์จึงคาดหมายได้ว่าการยกระดับถนนพิพาทอาจทำให้ที่ดินและบ้านที่โจทก์กำลังจะซื้อนั้นถูกถนนพิพาทบังทางลมและแสงสว่าง เท่ากับโจทก์ยอมรับสภาพดังกล่าวก่อนซื้อที่ดินและบ้านไว้แล้ว และเมื่อเปรียบเทียบประโยชน์ที่ประชาชนทั่วไปจำนวนมากจะได้รับความสะดวกปลอดภัยและความเจริญของท้องถิ่นจากการยกระดับถนนพิพาทในระดับที่สร้างกับการที่โจทก์ต้องขาดความสะดวกสบายไปบ้างแล้วความเดือดร้อนของโจทก์ดังกล่าวไม่เกินกว่าที่ควรคิดหรือคาดหมายได้และมีเหตุอันสมควร โจทก์จำต้องยอมรับเอาดังเช่นบุคคลอื่นที่อยู่ร่วมกับโจทก์ในสังคมยอมรับ การก่อสร้างปรับปรุงยกระดับถนนพิพาทไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2414/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การก่อสร้างถนนและการเดือดร้อนของเจ้าของบ้านใกล้เคียง ศาลฎีกาพิจารณาความเดือดร้อนเกินกว่าปกติและเหตุอันควร
การที่โจทก์ได้รับความเดือดร้อนถึงกับจะต้องใช้สิทธิเพื่อยังความเดือดร้อนให้สิ้นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1337 นั้น จะต้องได้ความว่าเป็นความเดือดร้อนเกินกว่าที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตุอันควรบ้านและที่ดินของโจทก์ตั้งอยู่ช่วงติดต่อระหว่างถนนกับซอยซึ่งมีระดับต่างกันมาก หากไม่ทำถนนเชื่อมต่อกัน ชาวบ้านโจทก์และจำเลยก็ไม่อาจใช้ซอยต่อไปยังถนนได้เมื่อพิจารณาถึงตำแหน่งบ้านและที่ดินของโจทก์ประกอบกับสภาพของถนนและซอยแล้ว กำแพงถนนไม่ได้ปิดบังหน้าบ้านโจทก์และอยู่ห่างบ้านโจทก์ประมาณ 3 เมตร ถือได้ว่าโจทก์ไม่เดือดร้อนเกินควรจนไม่อาจคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติอันควรสำหรับสภาพและ ท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องนั้น ดังนี้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยเพื่อจะยังความเสียหายหรือเดือดร้อนนั้นให้สิ้นไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2549-2550/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทเลินเล่อในการก่อสร้างถนนสาธารณะ การละเลยติดตั้งสัญญาณเตือนและโคมไฟ ทำให้เกิดอุบัติเหตุและเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
ตามระเบียบของอธิบดีกรมทางหลวงจำเลยที่ 2 มีว่าการขุดถนนจะต้องปักป้ายบอกว่าบริเวณนั้นมีการขุดถนน ตลอดจนมีสัญญาณต่าง ๆ แสดงให้ผู้สัญจรไปมาทราบ ทั้งในเวลากลางคืนต้องมีโคมไฟติดไว้เพื่อให้รถที่ขับขี่ไปมารู้การที่จำเลยที่ 2 ขุดถนนเพื่อวางท่อโดยจำเลยที่ 1 เป็นนายช่างควบคุมแล้วละเลยไม่ติดตั้งโคมไฟจึงเป็นความประมาท แม้ว่าทางนั้นจะยังไม่เปิดเป็นทางสาธารณะและมีป้ายเตือนผู้ใช้ทางแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีป้ายห้ามเข้าและมีรถแล่นอยู่ตลอดเวลาดังนี้เมื่อ ส. ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตกคูที่จำเลยขุดไว้ จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1975/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของกรมทางหลวงต่อความเสียหายจากงานก่อสร้างถนน หากควบคุมผู้รับเหมาติดตั้งเครื่องหมายจราจรไม่ถูกต้อง
กรมทางหลวงจำเลยที่ 2 มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในการซ่อมแซมก่อสร้าง บำรุงรักษา ถนนที่เกิดเหตุ ย่อมมีหน้าที่ควบคุมจัดให้ มีเครื่องหมายและสัญญาณจราจรในบริเวณก่อสร้างซ่อมแซมถนน แม้จะจัดให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างดำเนินการก่อสร้างซ่อมแซม ก็ต้อง ควบคุมให้บริษัทรับเหมาติดตั้งเครื่องหมายและสัญญาณจราจรขึ้น ให้ถูกต้องถ้ามิได้ติดตั้งให้ถูกต้องแล้วเกิดความเสียหาย จำเลยที่ 2 ย่อม จะต้องรับผิดต่อผู้เสียหายด้วย