พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4053/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะ: การกระทำความผิดต่อเนื่องกระชั้นชิด แม้ไม่ทันทีทันใด ก็ถือว่ากระทำในขณะที่บันดาลโทสะ
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 ที่ว่า "กระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น" มิได้หมายความว่าจะต้องเป็นขณะเดียวกันพร้อมกับการข่มเหงและบันดาลโทสะ หากแต่หมายความว่ากระทำความผิดในขณะที่บันดาลโทสะอยู่ ผู้ตายโกรธและทะเลาะกับน้องภริยาจำเลยซึ่งไม่ยอมไปล่ามวัวที่ทำให้วัวของผู้ตายตื่น ผู้ตายร้องด่าไปตลอดทางที่เดินไปบ้านน้องภริยาจำเลยซึ่งเป็นบ้านที่จำเลยพักอาศัยอยู่ด้วย แล้วผู้ตายใช้ไม้ตีฝาบ้านน้องภริยาจำเลย 2 ถึง 3 ครั้ง จำเลยห้ามปรามผู้ตายไม่ยอมหยุด กลับใช้ไม้ตีฝาบ้านอีก พฤติการณ์ของผู้ตายถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมทำให้จำเลยโกรธผู้ตาย การที่จำเลยใช้ไม้ตีผู้ตายถึงแก่ความตายจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ และแม้จะฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยลุกขึ้นเดินตามผู้ตายไปและร้องห้ามปรามแล้วจำเลยใช้ไม้ตีผู้ตายที่หน้าบ้านจำเลยซึ่งอยู่ห่างออกมาประมาณ 15 เมตร การกระทำของจำเลยก็เป็นการกระทำความผิดต่อผู้ตายที่ข่มเหงในระยะเวลาต่อเนื่องกระชั้นชิดอันถือได้ว่ากระทำต่อผู้ตายที่ข่มเหงในขณะนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3869/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการกระทำความผิด ต้องเกิดขึ้นขณะกระทำผิด ไม่ใช่หลังกระทำผิด
ในเมื่อขณะคนร้ายลักทรัพย์ จำเลยมิได้ร่วมกระทำผิดหรือสนับสนุนการกระทำผิดด้วยแล้ว ดังนี้ การที่จำเลยอยู่ที่บ้าน ล.ในขณะที่คนร้ายนำของที่ลักมาเก็บที่บ้าน ล.นั้น เป็นเหตุการณ์หลังจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์แล้ว จึงไม่อาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการลักทรัพย์ได้