คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ขยายเขต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2798-2799/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเหนือที่ดินชลประทาน: การขยายเขต, สาธารณสมบัติ, อำนาจฟ้อง, และการรังวัด
เมื่อมีประกาศกระแสพระบรมราชโองการเรื่องขยายการหวงห้ามและจัดซื้อที่ดินสำหรับการชลประทาน แต่เขตที่ดินตามที่ประกาศหวงห้ามไม่เพียงพอเนื่องจากสภาพเป็นดินเหลวต้องใช้ที่ดินจำนวนมาก กรมชลประทานจึงกันเขตเกินที่กำหนดไว้ในประกาศกระแสพระบรมราชโองการในการกันเขตนั้น ตอนใดที่มีเจ้าของครอบครองอยู่ก็จ่ายเงินซื้อ ถ้าไม่มีเจ้าของก็ไม่ต้องจ่ายเงินซื้อ การที่กรมชลประทานได้รังวัดปักเขตที่ดินดังกล่าวเช่นนี้แล้ว ที่ดินนั้นก็ต้องถือว่าเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน อันเป็นทรัพย์สินใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ ตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 (3) แล้ว ไม่ต้องมีกฎหมายพิเศษให้อำนาจกรมชลประทานหวงห้ามอย่างใดอีก
ที่ดินที่ใช้สำหรับการชลประทาน กรมชลประทานมีหน้าที่ดูแลรักษาที่ดินดังกล่าวจึงมีอำนาจฟ้องคดีเกี่ยวกับที่ดินนั้นได้
การที่อธิบดีกรมชลประทานไม่ขัดข้องในการที่มีผู้ขอออกโฉนดที่ดินทับที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้น ไม่ทำให้ข้อโต้แย้งเกี่ยวกับที่ดินสาธารณะนั้นหมดไป กรมชลประทานยังมีอำนาจฟ้อง
การที่จำเลยกล่าวอ้างว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมโดยกล่าวอ้างเหตุนอกเหนือจากที่ได้ให้การไว้นั้น เป็นการกล่าวอ้างข้อที่มิได้ว่ากันมาในศาลชั้นต้น
สืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จแล้วศาลมีอำนาจที่จะเรียกสำนวนคดีอื่นที่เกี่ยวกับคดีมาประกอบการพิจารณาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรค 3 ที่บัญญัติให้อำนาจศาลไว้ว่า เมื่อศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมเป็นการจำเป็นที่จะต้องนำพยานหลักฐานอื่นอันเกี่ยวกับประเด็นในคดีมาสืบเพิ่มเติมก็ย่อมทำได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2798-2799/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินชลประทานสาธารณสมบัติ: การขยายเขต, อำนาจฟ้อง, และผลกระทบต่อโฉนด
เมื่อมีประกาศกระแสพระบรมราชโองการ เรื่อง ขยายการหวงห้าม และจัดซื้อที่ดินสำหรับการชลประทาน แต่เขตที่ดิน ตามที่ประกาศหวงห้ามไม่เพียงพอเนื่องจากสภาพเป็นดินเหลว ต้องใช้ที่ดินจำนวนมาก กรมชลประทานจึงกันเขตเกินที่กำหนด ไว้ในประกาศกระแสพระบรมราชโองการในการกันเขตนั้นตอนใดที่มี เจ้าของครอบครองอยู่ก็จ่ายเงินซื้อ ถ้าไม่มีเจ้าของก็ ไม่ต้องจ่ายเงินซื้อ การที่กรมชลประทานได้รังวัดปัก เขตที่ดินดังกล่าวเช่นนี้แล้ว ที่ดินนั้นก็ต้องถือว่า เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน อันเป็นทรัพย์สินใช้เพื่อประโยชน์ ของแผ่นดินโดยเฉพาะ ตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(3) แล้ว ไม่ต้องมีกฎหมายพิเศษให้อำนาจ กรมชลประทานหวงห้ามอย่างใดอีก
ที่ดินที่ใช้สำหรับการชลประทาน กรมชลประทานมีหน้าที่ดูแล รักษาที่ดินดังกล่าวจึงมีอำนาจฟ้องคดีเกี่ยวกับที่ดินนั้นได้
การที่อธิบดีกรมชลประทานไม่ขัดข้องในการที่มีผู้ขอออกโฉนดที่ดินทับที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ไม่ทำให้ข้อโต้แย้งเกี่ยวกับที่ดินสาธารณะนั้นหมดไป กรมชลประทานยังมีอำนาจฟ้อง
การที่จำเลยกล่าวอ้างว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมโดยกล่าวอ้างเหตุนอกเหนือจากที่ได้ให้การไว้นั้น เป็นการ กล่าวอ้าง ข้อที่มิได้ว่ากันมาในศาลชั้นต้น
สืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จแล้วศาลมีอำนาจที่จะเรียกสำนวนคดีอื่นที่เกี่ยวกับคดีมาประกอบการพิจารณาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสาม ที่บัญญัติให้อำนาจศาลไว้ว่า เมื่อศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมเป็นการจำเป็นที่จะต้องนำพยานหลักฐานอื่นอันเกี่ยวกับประเด็นในคดีมาสืบเพิ่มเติมก็ย่อมทำได้