พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีขัดขืนคำสั่งศาล: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้มีสิทธิและหน้าที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งศาลโดยตรง
บทบัญญัติ ป.อ. มาตรา 170 มีความมุ่งหมายจะเอาโทษแก่ผู้ที่ได้ขัดขืนหมายหรือคำสั่งของศาลให้มาให้ถ้อยคำ ให้มาเบิกความหรือให้ส่งทรัพย์หรือเอกสารใดในการพิจารณาคดีอันเป็นบทบัญญัติถึงการกระทำความผิดต่อศาลซึ่งเป็นเจ้าพนักงานในการยุติธรรมโดยเฉพาะแม้โจทก์จะอ้างว่าได้รับความเสียหายจากการที่จำเลยขัดขืนคำสั่งศาลไม่ส่งเงินที่อายัดไว้ไปยังศาลแพ่ง แต่ก็ไม่ใช่ความเสียหายโดยตรงอันเกิดจากการกระทำผิดของจำเลย เพราะโจทก์จำเลยมิได้มีสิทธิและหน้าที่ต่อกัน การกระทำของจำเลยไม่เป็นการล่วงสิทธิของโจทก์โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายตาม ป.วิ.อ. มาตรา 2(4) จึงไม่มีอำนาจฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1459/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดขืนคำสั่งศาลและการไต่สวนข้อเท็จจริงที่เปลี่ยนแปลง การจับกุมบริวารต้องพิสูจน์ความสัมพันธ์และสถานที่
เมื่อจำเลยถูกศาลออกหมายจับมาฐานขัดขืนไม่ยอมออกจากที่พิพาท จำเลยแถลงว่ารับรองจะออกไปจากที่พิพาทและไม่เกี่ยวข้องอีกแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ศาลชั้นต้นจึงสั่งปล่อยตัวไป คำแถลงของจำเลยเช่นนี้เป็นการยอมรับว่าจำเลยยังคงอยู่ในที่พิพาทขณะที่ศาลมีคำสั่งและจะยอมออกไปโดยไม่มี ข้อโต้แย้งจำเลยจะฎีกาเถียงว่าจำเลยไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับที่พิพาทและไม่ได้ฝ่าฝืนคำบังคับของศาล ย่อมฟังไม่ขึ้น
ศาลชั้นต้นออกหมายจับผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมาโดยถือว่าเป็นบริวารจำเลยซึ่งขัดขืนไม่ยอมออกจากที่พิพาท ผู้ร้องแถลงคัดค้านในวันที่ถูกจับตัวมาส่งศาลว่าที่ที่คนอยู่นั้นอยู่นอกที่พิพาท ย่อมเท่ากับผู้ร้องต่อสู้ว่าตนมิได้เป็นบริวารจำเลยและไม่ได้อยู่ในที่พิพาทศาลจะต้องทำการไต่สวนระหว่างโจทก์กับผู้ร้องให้ได้ความว่า ผู้ร้องเป็นบริวารจำเลยและอยู่ในที่พิพาทจริงหรือไม่เสียก่อน จะด่วนจับขังผู้ร้องไปทีเดียวยังไม่ชอบ แม้ศาลจะได้ไต่สวนระหว่างโจทก์จำเลยในเรื่องเดียวกันนี้มาแล้ว ก็ไม่ผูกพันผู้ร้องซึ่งยังไม่เข้ามาในคดี
ศาลชั้นต้นออกหมายจับผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมาโดยถือว่าเป็นบริวารจำเลยซึ่งขัดขืนไม่ยอมออกจากที่พิพาท ผู้ร้องแถลงคัดค้านในวันที่ถูกจับตัวมาส่งศาลว่าที่ที่คนอยู่นั้นอยู่นอกที่พิพาท ย่อมเท่ากับผู้ร้องต่อสู้ว่าตนมิได้เป็นบริวารจำเลยและไม่ได้อยู่ในที่พิพาทศาลจะต้องทำการไต่สวนระหว่างโจทก์กับผู้ร้องให้ได้ความว่า ผู้ร้องเป็นบริวารจำเลยและอยู่ในที่พิพาทจริงหรือไม่เสียก่อน จะด่วนจับขังผู้ร้องไปทีเดียวยังไม่ชอบ แม้ศาลจะได้ไต่สวนระหว่างโจทก์จำเลยในเรื่องเดียวกันนี้มาแล้ว ก็ไม่ผูกพันผู้ร้องซึ่งยังไม่เข้ามาในคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดขืนคำสั่งศาลเกิดจากการแถลงเจตนาเอง ไม่ใช่คำสั่งศาล การออกหมายจับจึงไม่ชอบ
จำเลยทำสัญญาประนีประนอมในศาลว่าจะไปดำเนินการขอออกโฉนด แต่ไม่ได้ไปโจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลให้เรียกจำเลยมาสอบถาม จำเลยมาแถลงต่อศาลว่าจะไปดำเนินการออกโฉนดแต่แล้วจำเลยไม่ได้ไปดำเนินการตามกำหนด เช่นนี้ จะถือว่าจำเลยขัดขืนไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่จำเลยแถลงเอง ศาลไม่ได้สั่งหรือบังคับให้จำเลยดำเนินการ เมื่อไม่ใช่คำสั่งคำบังคับของศาล และจำเลยไม่ปฏิบัติตามจะถือว่าจำเลยขัดขืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคำบังคับของศาลไม่ได้ ศาลชั้นต้นออกหมายจับจำเลยตามคำร้องของโจทก์จึงไม่ชอบ