คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ขาดความสามารถ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3276/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาททางหนังสือพิมพ์: ข้อความใส่ความโจทก์ด้วยการกล่าวหาใช้อำนาจไม่เป็นธรรมและขาดความสามารถ
ข้อความที่จำเลยที่ 1 เขียนลงในบทความทางหนังสือพิมพ์ซึ่งจำเลยที่ 2 เป็นบรรณาธิการมีใจความว่า โจทก์เทศมนตรีการศึกษาเทศบาลบังอาจใช้อำนาจโยกย้ายหัวหน้าฝ่ายนิเทศกองศึกษาไปอยู่ฝ่ายอื่น และได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ว่าผู้ถูกย้ายไม่มีความสามารถและไม่เหมาะสมกับงานนิเทศและได้เข็นเอาเมียปลัดเทศบาลซึ่งเป็นครูยืมตัวช่วยราชการขึ้นไปเป็นแทนเป็นเวลาร่วมปีมาแล้วนั้น บัดนี้กาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นการกระทำที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ เป็นผลงานที่เกิดจากอคติส่วนตัว เหลิงอำนาจหลงคำเยินยอจากพวกลิ้นสากปากลื่นที่ใกล้ชิด และความมีอายุน้อยด้วยประสบการณ์ของโจทก์เองการศึกษาของเทศบาลต้องตกต่ำเพราะความขัดแย้ง กลั่นแกล้งก้าวก่าย และการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมของนักการเมืองต่อข้าราชการประจำ นั้น เป็นข้อความที่ใส่ความโจทก์โดยการโฆษณาด้วยเอกสารอันน่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง อันเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ไม่ใช่เป็นการแสดงความคิดเห็น หรือติชมด้วยความเป็นธรรมอันจะทำให้จำเลยทั้งสองไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคำร้องขอเป็นผู้ขาดความสามารถในการจ่ายค่าธรรมเนียมศาล ต้องฟังข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนก่อนวินิจฉัย
โจทก์ขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาโดยอ้างว่ากรมสรรพากรจำเลยยึดและอายัดทรัพย์สินทั้งหมดของโจทก์ทำให้โจทก์ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ ทั้งไม่มีทรัพย์สินอื่นใดอีกที่จะนำมาขายหรือเป็นหลักประกันเพื่อขอกู้ยืมเงินจากบุคคลอื่น ทำให้ไม่มีเงินที่จะนำมาชำระค่าธรรมเนียมศาลได้ ซึ่งหากข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่โจทก์อ้างแม้ทรัพย์สินจำนวนมากดังกล่าวยังเป็นของโจทก์ แต่โจทก์ก็ไม่สามารถขายหรือนำไปเป็นหลักประกันเพื่อหาเงินมาเป็นค่าธรรมเนียมศาลจำนวนสูงอันอาจจะถือได้ว่าโจทก์เป็นคนยากจน การที่ศาลภาษีอากรกลางงดการไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง จึงเป็นการวินิจฉัยโดยยังไม่ได้ฟังข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนเสียก่อน ถือว่าไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 243 (2) ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 มาตรา 29 ศาลฎีกาย้อนสำนวนไปให้ทำการไต่สวนคำร้องต่อไป