คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข้อความเพิ่มเติม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6433/2546

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของพินัยกรรมและการยกทรัพย์สินให้ทายาท แม้มีข้อความเพิ่มเติมโดยไม่ลงชื่อ
ผู้ตายซึ่งเป็นพระภิกษุเขียนพินัยกรรมขึ้นเองทั้งฉบับ มีการลงวัน เดือน ปี และลายมือชื่อของผู้ตายไว้ครบถ้วนถูกต้องตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1675 วรรคหนึ่ง บัญญัติไว้ โดยเฉพาะข้อกำหนดในพินัยกรรมข้อ 1 ที่ระบุว่า"ทรัพย์สินเงินทองและเข้าของต่างของข้าพเจ้า ที่อยู่ในห้องของข้าพเจ้านี้มอบให้กับทายาทของข้าพเจ้า ในเมื่อข้าพเจ้าตายไปแล้ว" นั้น ก็มีความหมายชัดแจ้งอยู่ในตัวแล้วว่า ผู้ตายประสงค์จะยกทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดซึ่งรวมทั้งเงินในสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารที่พบในห้องนอนของผู้ตายให้แก่ทายาทเมื่อผู้ตายมรณภาพ การที่ผู้ตายเขียนข้อความเพิ่มเติมต่อไปว่า "และสมุดฝากในธนาคารต่าง ๆ ด้วย" แม้จะไม่ชอบตามมาตรา 1657 วรรคสอง เพราะผู้ตายมิได้ลงลายมือชื่อกำกับไว้ก็มีผลเพียงว่าไม่มีการเติมข้อความดังกล่าว เท่านั้นส่วนข้อความอื่นยังคงสมบูรณ์ หามีผลทำให้พินัยกรรมที่สมบูรณ์อยู่แล้วต้องตกเป็นโมฆะไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 148/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการลงโทษจำเลยในคดีหมิ่นประมาท: ศาลจำกัดเฉพาะข้อความที่ระบุในคำฟ้องเดิม
โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่า จำเลยที่ 1 กับพวกนำข้อความที่ว่าโจทก์สมคบกับประธานสภาจังหวัดชัยภูมิประวิงหรือหลีกเลี่ยง ละเว้น ไม่พิจารณาคำขอเปิดประชุมสภาจังหวัดชัยภูมิสมัยวิสามัญครั้งที่ 1 ประจำปี 2538 ของจำเลยกับพวกซึ่งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดชัยภูมิโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและประเพณีปฏิบัติราชการไปยื่นฟ้อง และจำเลยกับพวกจัดการโฆษณาเผยแพร่ข้อความตามคำฟ้องในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐและหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328,83 แต่เมื่อทางพิจารณาปรากฏว่า ข้อความที่พิมพ์เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐนอกจากจะเป็นข้อความตามคำฟ้องของจำเลยที่ 1 กับพวกแล้ว ยังมีข้อความเพิ่มเติมเป็นเบื้องหลังการที่โจทก์ไม่สั่งเปิดประชุมสภาจังหวัดเพราะเกี่ยวข้องกับการทุจริตและการย้ายข้าราชการโดยไม่เป็นธรรม อันเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ขึ้นใหม่อีกส่วนหนึ่งข้อความหมิ่นประมาทถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของความผิดฐานหมิ่นประมาทเมื่อโจทก์มิได้บรรยายไว้ให้ปรากฏในคำฟ้องถือได้ว่าไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษ ศาลไม่อาจนำข้อเท็จจริงดังกล่าวมาพิจารณาลงโทษจำเลยที่ 1 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเงินกู้ที่มีข้อความเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาขาย ไม่ถือเป็นสัญญาจะซื้อขาย
สัญญานี้กรอกข้อความลงในแบบพิมพ์สัญญากู้เงินว่า จำเลยที่ 1กู้เงินไป 6,500 บาท และจำเลยที่ 1 นำโฉนดให้โจทก์ยึดไว้เป็นประกัน และมีข้อความเพิ่มเติมว่า " ที่ดินแปลงนี้จะขายให้กับเจ้าของเงินจะไม่ยอมขายให้ใคร คือภายใน 3 ปี ตามราคา 20,000 บาทถ้วน ถึงราคา 20,000 บาท จึงจะขายให้ ถึงราคา 20,000 บาท ก็จะโอนให้" และด้านหลังมีผู้อื่นทำสัญญาค้ำประกันเงินกู้รายนี้ ดังนี้ เป็นเรื่องกู้เงิน โจทก์แล้วมอบโฉนดเป็นประกัน ไม่มีลักษณะจะซื้อขาย ข้อความเพิ่มเติม นั้นเป็นเพียงคำปรารภของจำเลยที่ 1 ฝ่ายเดียวมิใช่มุ่งโดยตรงต่อการ ผูกนิติสัมพันธ์ จึงมิใช่คำมั่นหรือสัญญาจะขายที่ดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2016/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับข้อความในสัญญา: ศาลถือว่าจำเลยยอมรับข้อความเพิ่มเติมในสัญญาเช่าซื้อเมื่อไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล
โจทก์ฟ้องว่าได้ทำสัญญาเช่าซื้อที่ดินจากจำเลยหนังสือสัญญามีข้อความว่า จำเลยจะสร้างบ้านให้โจทก์ภายในกำหนดเวลาในสัญญาด้วย แต่จำเลยไม่สร้างให้เสร็จตามสัญญา จำเลยให้การต่อสู้ว่าข้อความในหนังสือสัญญาที่ว่าจำเลยจะสร้างบ้านให้เสร็จตามที่โจทก์ฟ้องนั้นเป็นข้อความปลอม โจทก์จึงขอให้ศาลเรียกสัญญาเช่าซื้อคู่ฉบับจากจำเลย ศาลมีคำสั่งเรียกเอกสารดังกล่าวจำเลยทราบคำสั่งแล้วไม่ส่งเอกสารภายในกำหนดที่ศาลสั่ง ดังนี้ต้องถือว่าจำเลยได้ยอมรับว่าข้อความในเอกสารมีอยู่ตามที่โจทก์กล่าวอ้าง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา123

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเงินกู้ที่มีข้อความเพิ่มเติมเรื่องการขายที่ดิน ไม่ถือเป็นสัญญาจะขาย
ทำสัญญากู้เงินและมอบโฉนดไว้เป็นประกันโดยมีข้อความเพิ่มเติมไว้ด้วยว่าที่ดินแปลงนี้จะขายให้แก่ผู้ให้กู้ จะไม่ช่วยให้ใครภายใน 3 ปี ตามราคาสองหมื่นบาทเมื่อถึงราคาสองหมื่นบาทจึงจะขาย จึงจะโอนให้ ดังนี้ เป็นเรื่องกู้เงินเท่านั้น ไม่มีลักษณะเป็นสัญญาจะขาย เป็นเพียงคำปรารภของผู้กู้ฝ่ายเดียว มิใช่มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ จึงไม่ใช่คำมั่นหรือสัญญาจะขายที่ดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 214/2474

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลสัญญาค้ำประกันต้องเป็นผลดีต่อลูกหนี้ ข้อความเพิ่มเติมในสัญญาต้องไม่ขยายความเกินจากลายลักษณ์อักษร
สัญญาค้ำประกัน
การแปลสัญญา ต้องแปลให้เป็นผลดีกับลูกหนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9450/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: การปฏิบัติตามเจตนารมณ์สำคัญ แม้มีข้อความอื่นเพิ่มเติม
ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ข้อ 2 มีข้อความว่า จำเลยทั้งสองจะทำหนังสือแจ้งประกันสังคมโดยระบุว่าจำเลยทั้งสองเลิกจ้างโดยโจทก์ไม่ได้กระทำความผิด...ปรากฏว่าภายหลังศาลแรงงานกลางพิพากษาตามยอม จำเลยทั้งสองได้ทำหนังสือแจ้งเปลี่ยนแปลงการให้ออกของพนักงาน ลงวันที่ 19 เมษายน 2553 ถึงผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 8 แจ้งเปลี่ยนแปลงการให้ออกของโจทก์จาก "ไล่ออกโดยมีความผิด" เป็น "ไล่ออกโดยไม่มีความผิด" ตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญาประนีประนอมยอมความนำมายื่นต่อศาลและให้โจทก์รับไปแล้ว แม้หนังสือดังกล่าวจะมีข้อความอื่นนอกเหนือจากที่ระบุตาม ข้อ 2 ของสัญญาประนีประนอมยอมความรวมอยู่ด้วย แต่เมื่อโจทก์นำไปยื่นต่อสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 8 เจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการแก้ไขฐานข้อมูลการเลิกจ้างให้ว่าเลิกจ้างโดยโจทก์ไม่มีความผิด ตรงตามเจตนารมณ์ของคู่ความที่ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน เช่นนี้จะถือว่าจำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมหาได้ไม่