คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข้อตกลงท้ากัน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7879/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้ากันรังวัดที่ดินเป็นข้อวินิจฉัย ศาลใช้ผลรังวัดได้ แม้ไม่เสนอความเห็น
คู่ความตกลงท้ากันให้ถือเอาผลการรังวัดของเจ้าพนักงานที่ดินเป็นข้อแพ้ชนะโดยไม่ติดใจสืบพยานต่อไปอีก เมื่อเจ้าพนักงานที่ดินรังวัดสอบเขตที่ดินทำแผนที่พิพาทเสร็จ ศาลได้ให้คู่ความตรวจดูแผนที่ คู่ความแถลงว่าเจ้าพนักงานจัดทำขึ้นตรงตามคำท้าแล้ว การที่จำเลยเพิ่งมาอ้างในชั้นฎีกาว่า เจ้าพนักงานที่ดินรังวัดไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ไม่แจ้งเจ้าของที่ดินข้างเคียงให้ไประวังแนวเขตโดยจำเลยไม่เคยคัดค้านต่อศาลชั้นต้นตามข้ออ้างดังกล่าว และอ้างว่าได้ยื่นคำร้องสำรวจแนวเขตใหม่ต่อเจ้าพนักงานที่ดินผลการรังวัดปรากฏว่าจำเลยไม่ได้รุกล้ำที่ดินของโจทก์ จึงเป็นฎีกาในข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 3 ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคหนึ่ง
เจ้าพนักงานที่ดินจัดทำแผนที่พิพาทขึ้นตรงตามคำท้าแล้ว แม้เจ้าพนักงานที่ดินไม่ขอแถลงว่า ที่พิพาทเป็นของฝ่ายใด แต่ในการท้ากันคู่ความก็มิได้ตกลงกันว่าให้เจ้าพนักงานที่ดินเสนอความเห็นด้วย ศาลจึงใช้แผนที่พิพาทในการวินิจฉัยปัญหาตามที่คู่ความท้ากันได้ ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกเหนือคำท้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4856/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้ากันทางคดีกับผู้เชี่ยวชาญ การพิพากษาตามข้อตกลง และขอบเขตการอุทธรณ์
อุทธรณ์ของโจทก์ที่ว่าความเห็นของผู้เชี่ยวชาญไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเป็นไปตามข้อตกลงและพิพากษาให้โจทก์แพ้คดีไม่ชอบเป็นการอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา138(3)โจทก์จึงมีสิทธิอุทธรณ์ได้ การที่ผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นโดยใช้ถ้อยคำว่าน่าจะไม่ใช่ลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกันถือได้ว่าเป็นการให้ความเห็นในลักษณะเป็นคำยืนยันหรือทำนองยืนยันว่าไม่ใช่ลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกันตรงตามคำท้าของโจทก์จำเลยแล้วโจทก์ต้องแพ้คดีตามคำท้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้ากันทางศาล: ผลคดีอาญา (ปลอมแปลงพินัยกรรม) ผูกพันคดีแพ่ง (มรดก) ต้องรอฟังผลคดีอาญาถึงที่สุด
คู่ความตกลงท้ากันให้ถือเอาผลของคำพิพากษาคดีอาญาเป็นข้อวินิจฉัยว่าพินัยกรรมฉบับพิพาทปลอมหรือไม่ มีความหมายว่าคู่ความประสงค์ให้ถือเอาผลของคำพิพากษาที่ถึงที่สุดเป็นข้อแพ้ชนะในประเด็น ดังกล่าวดังนี้ ศาลต้องรอฟังผลของคำพิพากษาคดีอาญาที่ถึงที่สุดเป็น หลักในการวินิจฉัยคดีตามที่คู่ความท้ากัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้ากันให้ผลคดีอาญาผูกพันคดีแพ่ง: ศาลต้องรอฟังผลคดีอาญาถึงที่สุดก่อนวินิจฉัยคดีแพ่ง
คู่ความตกลงท้ากันให้ถือเอาผลของคำพิพากษาในคดีอาญาที่ว่าจำเลยปลอมพินัยกรรมฉบับพิพาทหรือไม่มาเป็นข้อวินิจฉัยว่าพินัยกรรมฉบับพิพาทเป็นพินัยกรรมปลอมหรือไม่ ตามข้อตกลงดังกล่าวย่อมมีความหมายว่า คู่ความประสงค์ให้ถือเอาผลของคำพิพากษาที่ถึงที่สุดเป็นข้อแพ้ชนะกันในประเด็นนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าคดีอาญายังไม่ถึงที่สุดเพราะอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ข้อเท็จจริงจึงยังไม่เป็นไปตามคำท้าดังนั้นที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 3 ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่ได้ปลอมพินัยกรรมฉบับพิพาท โดยถือเอาผลของคำพิพากษาคดีอาญาซึ่งคดียังไม่ถึงที่สุดเป็นข้อวินิจฉัยคดีจึงไม่ชอบ เมื่อไม่ได้ความว่าคู่ความได้ยกเลิกคำท้า ศาลจึงต้องรอฟังผลของคำพิพากษาคดีอาญาที่ถึงที่สุดเป็นหลักในการวินิจฉัยคดีตามที่คู่ความท้ากันต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1065/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้ากันในคดีแพ่ง: ผลผูกพันตามคำเบิกความของพยาน และการวินิจฉัยข้อเท็จจริงเป็นข้อแพ้ชนะ
ข้อตกลงของโจทก์จำเลยต่อหน้าศาลที่มีความว่า หากเจ้าพนักงานที่ดินเบิกความว่าจำเลยชำระตัวเงิน 100,000 บาท ให้แก่ บ. ต่อหน้าเจ้าพนักงานที่สำนักงานที่ดินเพื่อไถ่ถอนจำนอง โจทก์จะยอมแพ้คดี แต่หากเจ้าพนักงานที่ดินเบิกความว่า ไม่มีการชำระเงิน 100,000 บาทนั้น จำเลยยอมแพ้คดีให้ศาลวินิจฉัยข้อเท็จจริงจากคำเบิกความของเจ้าพนักงานที่ดิน นั้น เป็นข้อตกลงให้ศาลชั้นต้นสืบพยานที่เป็นเจ้าพนักงานที่ดินในประเด็นข้อเดียวว่า จำเลยได้ชำระตัวเงิน 100,000 บาทให้แก่ บ. เพื่อไถ่ถอนจำนองต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดินที่สำนักงานที่ดินจังหวัดหรือไม่ แล้วให้วินิจฉัยข้อเท็จจริงนี้นำมาเป็นข้อแพ้ชนะ ข้อตกลงดังนี้จึงเป็นคำท้าของคู่ความ
คำเบิกความของเจ้าพนักงานที่ดินปรากฏว่า ไม่มีผู้ใดเห็นการชำระเงินตามคำท้า จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ชำระเงินให้แก่ บ. ต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดิน และสมประสงค์ข้างฝ่ายโจทก์ จำเลยจึงต้องแพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12456/2556

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้ากันทางกฎหมาย: ผลผูกพันตามข้อตกลงและการพิจารณาตามจริง
ข้อที่โจทก์อุทธรณ์และฎีกาว่า วิธีการตรวจสอบที่ตั้งของที่ดินพิพาทของนายอำเภอเขาค้อยังมีเหตุชวนให้น่าเคลือบแคลงสงสัยถึงความโปร่งใส และน่าจะมีการฉ้อฉลเกิดขึ้นในขั้นตอนดังกล่าวนั้น มิใช่เป็นการกล่าวอ้างว่าการตกลงท้ากันเกิดจากการฉ้อฉลของจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นคู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 138 วรรคสอง (1) เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 6 ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ข้อนี้ จึงไม่ก่อสิทธิแก่โจทก์ที่จะฎีกาปัญหาดังกล่าวต่อมาอีก เพราะเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ภาค 6 ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
เมื่อคู่ความตกลงท้ากันว่า ให้นายอำเภอเข้าค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ตรวจสอบที่ดินพิพาทในส่วนของจำเลยที่ 1 ตามแผนที่วิวาทว่า ตั้งอยู่ในเขตตำบลแคมป์สนหรือตำบลทุ่งเสมอ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ หากนายอำเภอเขาค้อตรวจสอบแล้วที่ดินตั้งอยู่ในเขตแคมป์สน โจทก์ยอมรับข้อเท็จจริงตามคำให้การของจำเลยทั้งสองและยอมแพ้คดี แต่หากที่ดินตั้งอยู่ในเขตตำบลทุ่งสมอ จำเลยทั้งสองยอมรับข้อเท็จจริงตามคำฟ้องโจทก์และยอมแพ้คดี เมื่อนายอำเภอเขาค้อตรวจสอบที่ดินของจำเลยที่ 1 (แปลงหมายเลข 2) แล้วน่าเชื่อว่าที่ดินพิพาทอยู่ในเขตตำบลแคมป์สน ย่อมมีลักษณะที่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงสมตามคำท้าของจำเลยทั้งสองว่า ที่ดินพิพาทอยู่ในเขตแคมป์สน โจทก์จึงต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า แม้นายอำเภอเขาค้อจะใช้คำว่า "น่าเชื่อว่า" ก็หาใช่เป็นเพียงความเห็นที่ยังมิได้เป็นตามเงื่อนไขตามคำท้า ในอันที่ศาลชั้นต้นจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาฟังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่ตั้งของที่ดินและมีคำพิพากษาใหม่ไม่