พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6727/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม ห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโทษจำคุก และการอุทธรณ์ข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันในศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายและไม่รับฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งจำเลยอาจอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นต่อศาลฎีกาได้ แต่ศาลชั้นต้นมิได้แจ้งคำสั่งดังกล่าวให้จำเลยทราบอันเป็นกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบแต่ เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี คดีจึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง เมื่อจำเลยฎีกาในข้อที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับสรุปได้ว่า ขอให้งดโทษจำคุกและลงโทษสถานเบาโดยให้รอการลงโทษจำเลยไว้ จึงเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการลงโทษของศาลอุทธรณ์ภาค 3 อันเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามบทกฎหมายดังกล่าว ศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย และไม่จำเป็นที่ศาลฎีกาจะสั่งให้ส่งสำนวนคืนศาลชั้นต้นเพื่อแจ้งคำสั่งไม่รับฎีกาในข้อดังกล่าวให้จำเลยทราบแต่อย่างใด
เดิมจำเลยให้การปฏิเสธ ต่อมาจำเลยขอถอนคำให้การเดิมเป็นให้การรับสารภาพตามฟ้อง แม้จำเลยยื่นคำร้องมีข้อความบางส่วนเป็นทำนองว่ามิได้กระทำความผิดตามฟ้อง แต่ในคำร้องดังกล่าวก็ยอมรับว่า การกระทำของจำเลยถือเป็นความผิดต่อกฎหมาย ขอให้ลงโทษจำเลยสถานเบาโดยงดโทษจำคุกและรอการลงโทษจำเลย คำร้องของจำเลยจึงเป็นเพียงคำร้องที่ยื่นประกอบคำให้การรับเพื่อขอให้ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจลงโทษจำเลยสถานเบา และรอการลงโทษจำเลยเท่านั้น ดังนั้น ปัญหาว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ จึงไม่เป็นประเด็นที่โต้เถียงกันมาในศาลชั้นต้น อุทธรณ์ของจำเลยในทำนองว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้อง จึงถือว่าเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ต้องห้ามอุทธรณ์ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในข้อดังกล่าวนั้นชอบแล้ว
เดิมจำเลยให้การปฏิเสธ ต่อมาจำเลยขอถอนคำให้การเดิมเป็นให้การรับสารภาพตามฟ้อง แม้จำเลยยื่นคำร้องมีข้อความบางส่วนเป็นทำนองว่ามิได้กระทำความผิดตามฟ้อง แต่ในคำร้องดังกล่าวก็ยอมรับว่า การกระทำของจำเลยถือเป็นความผิดต่อกฎหมาย ขอให้ลงโทษจำเลยสถานเบาโดยงดโทษจำคุกและรอการลงโทษจำเลย คำร้องของจำเลยจึงเป็นเพียงคำร้องที่ยื่นประกอบคำให้การรับเพื่อขอให้ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจลงโทษจำเลยสถานเบา และรอการลงโทษจำเลยเท่านั้น ดังนั้น ปัญหาว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ จึงไม่เป็นประเด็นที่โต้เถียงกันมาในศาลชั้นต้น อุทธรณ์ของจำเลยในทำนองว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้อง จึงถือว่าเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ต้องห้ามอุทธรณ์ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในข้อดังกล่าวนั้นชอบแล้ว