พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1494/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทที่ดินซ้ำซ้อน: การวินิจฉัยคดีแพ่งต้องผูกพันตามข้อเท็จจริงที่ศาลอาญาได้วินิจฉัยแล้ว
เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาในข้อหาบุกรุก ลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์ ศาลพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ จำเลยไม่มีเจตนาลักทรัพย์ที่พิพาทเป็นของจำเลย ถือไม่ได้ว่าจำเลยเจตนากระทำผิดฐานบุกรุกตามฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์กลับมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้อีกว่าจำเลยบุกรุกที่ดินโจทก์ ขอให้ใช้ค่าเสียหาย ดังนี้ มูลคดีทางแพ่งที่โจทก์นำมาฟ้องจำเลยในคดีนี้ก็คือมูลคดีเดียวกับคดีที่โจทก์ได้ฟ้องร้องจำเลยในคดีอาญาดังกล่าวข้างต้น การวินิจฉัยคดีส่วนแพ่งจึงจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ได้ความในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 เมื่อข้อเท็จจริงในคดีส่วนอาญาฟังเป็นยุติแล้วว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยฟ้องโจทก์ซึ่งอ้างสภาพแห่งข้อหาในมูลคดีเดียวกับคดีอาญาดังกล่าวจึงย่อมตกไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2488/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงให้ศาลชี้ขาดข้อพิพาทที่ดินและการไม่ปฏิบัติตามคำชี้ขาด
การที่คู่ความตกลงกันให้ศาลไปตรวจดูที่พิพาท แล้วให้ศาลชี้ขาดตามที่เห็นสมควรโดยคู่ความยินยอมตามที่ศาลชี้ขาดนั้นหาใช่เป็นการตกลงกันหรือประนีประนอมยอมความกันในประเด็นแห่งคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 ไม่ เพราะศาลยังต้องชี้ขาดในประเด็นแห่งคดีอีกว่าที่พิพาทควรจะเป็นของใครเพียงใด คดีจึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 138 แต่เมื่อศาลตรวจดูที่พิพาทแล้ว เห็นว่า ไม่อาจชี้ชัดลงไปได้ว่าเป็นของฝ่ายใด จึงพิพากษาให้แบ่งที่พิพาทออกเป็นสองส่วนให้โจทก์จำเลยได้ฝ่ายละส่วน โจทก์จะอุทธรณ์ว่าที่พิพาทมีลักษณะเหมือนของโจทก์ ควรให้โจทก์ชนะคดีตามฟ้อง ดังนี้หาได้ไม่ เพราะเท่ากับไม่ยอมปฏิบัติตามคำชี้ขาดของศาลตามที่ตกลงไว้นั่นเอง เมื่อไม่ปรากฏว่าคำชี้ขาดของศาลชั้นต้นเป็นไปโดยมิชอบ ศาลสูงก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทที่ดิน: การฟ้องร้องไม่ชัดเจนและราคาที่ดินต่ำกว่าเกณฑ์อุทธรณ์
ที่ดินที่โจทก์จำเลยพิพาทกันมิใช่ทั้งแปลงดังที่โจทก์ฟ้อง คงพิพาทกันเพียงส่วนหนึ่งของเนื้อที่ทั้งหมด และส่วนนี้แม้จะไม่ได้ความตามท้องสำนวนว่าเป็นเนื้อที่เท่าไร และศาลชั้นต้นไม่ได้ให้คู่ความตีราคาที่พิพาทใหม่ก็ตามก็คำนวณเอาจากมาตราส่วนในแผนที่วิวาทได้ว่าที่ดินที่พิพาทกันเนื้อที่ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของที่ที่โจทก์ฟ้องทั้งหมด ส่วนราคาของที่พิพาทนั้นเมื่อรวมค่าเสียหายอีก 300 บาท ก็ไม่เกินห้าพันบาท เพราะที่ของโจทก์ 10 ไร่1 งาน โจทก์ตีราคามาเพียง 5,125 บาท คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้นก็เพียงแก้ไขเล็กน้อย โจทก์จึงฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1950/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดคำสั่งเจ้าพนักงานกับการพิสูจน์สิทธิครอบครองที่ดิน: คดีอาญาไม่ควรใช้หากมีข้อพิพาทเรื่องสิทธิ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขัดคำสั่งผู้รักษาราชการแทนนายอำเภอที่สั่งให้จำเลยออกไปจากที่ดินที่ทางราชการสงวนไว้สำหรับสาธารณประโยชน์
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยมีความเชื่อมั่นโดยสุจริตใจว่าที่ดินนั้นเป็นของจำเลยโดยการครอบครองมาช้านานเกินกว่า 40 ปี ซึ่งอำเภอจะสั่งให้จำเลยออกจากที่ดินโดยพลการเช่นนี้ไม่ได้ จำเลยมีเหตุผลอันดีและมีข้อแก้ตัวอันสมควรที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นได้ ย่อมเอาผิดแก่จำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368
ตามรูปเรื่องเช่นว่านี้ สมควรที่จะดำเนินคดีว่ากล่าวถึงเรื่องสิทธิในที่ดินกันทางแพ่ง ยิ่งกว่าการฟ้องร้องทางอาญาฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยมีความเชื่อมั่นโดยสุจริตใจว่าที่ดินนั้นเป็นของจำเลยโดยการครอบครองมาช้านานเกินกว่า 40 ปี ซึ่งอำเภอจะสั่งให้จำเลยออกจากที่ดินโดยพลการเช่นนี้ไม่ได้ จำเลยมีเหตุผลอันดีและมีข้อแก้ตัวอันสมควรที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นได้ ย่อมเอาผิดแก่จำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368
ตามรูปเรื่องเช่นว่านี้ สมควรที่จะดำเนินคดีว่ากล่าวถึงเรื่องสิทธิในที่ดินกันทางแพ่ง ยิ่งกว่าการฟ้องร้องทางอาญาฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 445/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงคู่ความ: ศาลใช้แผนที่หลังโฉนดตัดสินข้อพิพาทที่ดินได้ หากคู่ความยินยอม
คู่ความตกลงกันให้ศาลปูแผนที่หลังโฉนดเปรียบเทียบดูว่าที่พิพาทและกอไผ่ควรจะอยู่ในเขตของฝ่ายใด โดยต่างฝ่ายต่างไม่ติดใจสืบพยานบุคคลต่อไป ถือเอาประเด็นข้อนี้เป็นข้อแพ้ชนะ ดังนี้ เป็นสิ่งที่ศาลสามารถจะพิจารณาความจริงหรือวินิจฉัยคดีไปตามหลักฐานที่คู่ความประสงค์เจาะจงอ้างอิงและตกลงกันไว้ ได้ เพราะไม่ใช่สิ่งพ้นวิสัยของบุคคลธรรมดาจะกระทำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 624/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทที่ดินราคาต่ำกว่าเกณฑ์ฎีกา และการตัดสินทับซ้อนของศาล
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 2000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาทับสัตย์ศาลเดิมฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้