พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2613/2549
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อมูลผู้ต้องหาช่วยคลี่คลายคดีค้ายาเสพติดรายใหญ่ ศาลลดโทษจากขั้นต่ำได้
การค้ายาเสพติดให้โทษรายใหญ่มีเครือข่ายหลายระดับและมีขั้นตอนซับซ้อนยากที่จะสืบทราบและหาพยานหลักฐานดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องได้ ข้อมูลที่จำเลยให้ต่อเจ้าพนักงานตำรวจและพนักงานสอบสวนเป็นข้อมูลโดยละเอียดของผู้นำเข้าเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่ายรายใหญ่ 4 คน เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานตำรวจและพนักงานสอบสวนมั่นใจในข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดที่มีอยู่ว่าถูกต้องจึงติดตามจับกุมบุคคลเหล่านั้นและจับกุมได้บางคนในเวลาต่อมา ดังนั้น แม้เมทแอมเฟตามีนของกลางจะมีเป็นจำนวนมาก กรณีก็มีเหตุผลสมควรที่จะลงโทษจำเลยน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดฐานนี้ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 100/2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3994/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษคดียาเสพติด: ข้อมูลจากผู้ต้องหาไม่เพียงพอต่อการลดโทษขั้นต่ำ
จำเลยให้การในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนว่าได้รับจ้างขนยาเสพติดให้โทษของกลางจาก ห. โดยไม่ปรากฏว่า ห. มีตัวตนจริงหรือไม่ และได้มีการขยายผลจับกุม ห. ได้หรือไม่อย่างใด ข้อเท็จจริงจึงรับฟังไม่ได้ว่าคำให้การของจำเลยดังกล่าวเป็นการให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อเจ้าพนักงานตำรวจหรือพนักงานสอบสวน ย่อมไม่อาจลงโทษจำเลยน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 100/2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8399/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อมูลผู้ต้องหาให้ข้อมูลก่อนถูกจับกุม ไม่ถือเป็นเหตุลดโทษตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
ตามหนังสือของกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้แนบท้ายอุทธรณ์ระบุว่า จำเลยได้ให้ข้อมูลผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษอันนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษได้หลายคน แต่ตามหนังสือดังกล่าวปรากฏว่า จำเลยได้ให้ข้อมูลผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษในวันเวลาก่อนที่จำเลยจะถูกจับกุมดำเนินคดีนี้ และไม่ปรากฏว่าเมื่อจำเลยถูกจับกุมเป็นคดีนี้แล้ว จำเลยได้ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจหรือพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด กรณีจึงไม่อาจลงโทษจำเลยน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100/2 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10773/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อมูลจากผู้ต้องหาไม่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการปราบปรามยาเสพติด ศาลไม่สามารถลดโทษตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ มาตรา 100/2
ตามทางไต่สวนพันตำรวจโท ธ. และร้อยตำรวจตรี ณ. เจ้าพนักงานตำรวจผู้ร่วมสอบปากคำจำเลยและเป็นผู้ร่วมจับกุม บ. ก. และ ส. ผู้ต้องหาทั้งสามที่อ้างว่าจับกุมได้จากการให้ข้อมูลของจำเลยก็ตาม แต่พันตำรวจโท ธ. และร้อยตำรวจตรี ณ. มิได้เป็นผู้จับกุมจำเลย บันทึกการสอบปากคำจำเลยกระทำขึ้นในวันที่ 4 กรกฎาคม 2555 แต่การจับกุมผู้ต้องหาทั้งสามกระทำในวันที่ 10, 12 และ 14 กรกฎาคม 2555 ตามลำดับ โดยในบันทึกการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสามระบุเหตุที่มีการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสามได้เนื่องจากสายลับซึ่งไม่ประสงค์ออกนามแต่ต้องการสินบนนำจับแจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจในวันเดียวกับที่ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสามแต่ละคนนั้นเอง ไม่มีหลักฐานว่าจำเลยเป็นผู้ให้ข้อมูลหรือสายลับกับจำเลยเป็นบุคคลคนเดียวกัน ทั้งบันทึกการสอบปากคำของจำเลย ก็ไม่เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติกรณีผู้กระทำความผิดได้ให้หรือเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษตามคำสั่งศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ ที่ 31/2548 จึงง่ายต่อการจัดทำขึ้นภายหลังและตรวจสอบความถูกต้องแท้จริงไม่ได้ ฟังไม่ได้ว่าจำเลยผู้กระทำความผิดได้ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อเจ้าพนักงานตำรวจ อันจะเป็นเหตุให้ลงโทษจำเลยน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นได้ ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100/2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7087/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อมูลจากผู้ต้องหาต้องเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการจับกุมผู้อื่น หรือยึดยาเสพติดเพิ่มเติม จึงจะลดโทษได้
ข้อมูลที่ผู้กระทำความผิดให้ต่อเจ้าพนักงานตามที่กฎหมายบัญญัตินั้น ต้องเป็นข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษรายอื่นหรือนำไปสู่การยึดได้ยาเสพติดให้โทษจำนวนอื่นที่ไม่เกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษของกลางในคดีนี้และเจ้าพนักงานไม่สามารถค้นพบหรือยึดได้หากไม่ได้รับข้อมูลจากผู้กระทำความผิด คดีนี้แม้ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนจำเลยที่ 2 จะให้การรับสารภาพว่า รับจ้าง ส. กับ บ. ไปรับเมทแอมเฟตามีนของกลาง ต่อมาเจ้าพนักงานจับ ส. กับ บ. ได้ แต่คำให้การของจำเลยเป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดในการกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 กับพวกที่ร่วมกระทำความผิดด้วยกันและเป็นข้อเท็จจริงที่เจ้าพนักงานสืบทราบและวางแผนจับกุมอยู่แล้ว มิใช่ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษของรายอื่นแต่อย่างใด ไม่มีเหตุสมควรลงโทษจำเลยที่ 2 น้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100/2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6287/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อมูลจากผู้ต้องหาต้องเป็นประโยชน์นอกเหนือวิสัยตำรวจ จึงจะลดโทษได้ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ ม.100/2 บัญญัติว่า "ถ้าศาลเห็นว่า ผู้กระทำความผิดผู้ใดได้ให้ข้อมูลที่สำคัญเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจหรือพนักงานสอบสวน ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นได้" ซึ่งข้อมูลที่ผู้กระทำความผิดให้ต่อเจ้าพนักงานตามที่บัญญัติไว้นั้น จะต้องมีลักษณะเป็นการนอกเหนือจากวิสัยที่เจ้าพนักงานจะสามารถค้นพบได้จากการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และในการปราบปรามยาเสพติดให้โทษของเจ้าพนักงานต่อจากนั้นเป็นผลโดยตรงจากการให้ข้อมูลหรือเบาะแสที่สำคัญของผู้กระทำความผิด แต่ข้อเท็จจริงในคดีนี้ได้ความเพียงว่า เมื่อจำเลยที่ 1 ถูกจับกุม จำเลยที่ 1 ให้ถ้อยคำว่า จำเลยที่ 1 รับจ้างจำเลยที่ 3 และที่ 4 เป็นผู้ขับรถยนต์กระบะไปลำเลียงเมทแอมเฟตามีน จากสหภาพพม่าเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมีจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 เป็นผู้คุ้มกัน ส่วนบันทึกคำรับสารภาพที่เขียนด้วยลายมือของตนเองก็กล่าวแต่เพียงว่าจำเลยที่ 1 รับจ้างจำเลยที่ 3 และที่ 4 เดินเข้าไปในสหภาพพม่าเพื่อลำเลียงเมทแอมเฟตามีน ซึ่งข้อเท็จจริงเหล่านี้เจ้าพนักงานตำรวจที่มาเบิกความต่างก็ยืนยันว่ามีการสืบสวนหาข่าวและทราบมาก่อนทั้งสิ้น อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ จากนั้นได้มีการวางแผนจับกุมและแกะรอยจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 จนกระทั่งจับกุมจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ได้ คำให้การของจำเลยที่ 1 จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้กระทำความผิดผู้ได้ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจหรือพนักงานสอบสวนอันจะเป็นเหตุให้สมควรใช้ดุลพินิจกำหนดโทษจำเลยที่ 1 น้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตามบทบัญญัติดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4394/2563
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อมูลจากผู้ต้องหาช่วยจับกุมผู้ร่วมกระทำผิดยาเสพติด ศาลลดโทษได้ตามกฎหมาย
จำเลยที่ 1 ให้ข้อมูลหลังถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมว่า ได้รับจ้างจากจำเลยที่ 2 ให้มาส่งเมทแอมเฟตามีน เจ้าพนักงานตำรวจจึงสืบสวนขยายผลจนจับกุมจำเลยที่ 2 ได้พร้อมเมทแอมเฟตามีนของกลาง จำเลยที่ 2 ให้ข้อมูลต่อเจ้าพนักงานตำรวจว่า จะมีคนที่เรียกว่าเฮียส่งลูกน้อง 2 ถึง 3 คน มารับเมทแอมเฟตามีนจากจำเลยที่ 2 เจ้าพนักงานตำรวจจึงวางแผนจับกุมจำเลยที่ 3 และที่ 4 ซึ่งมารับเมทแอมเฟตามีนของกลางตามที่นัดหมายได้ ข้อเท็จจริงที่เจ้าพนักงานตำรวจสืบทราบได้ความเพียงว่าจำเลยที่ 1 จะนำเมทแอมเฟตามีนของกลางไปส่งให้เฮีย ม. เท่านั้น โดยไม่ได้สืบสวนว่าเฮีย ม. เป็นผู้ใด สถานที่ที่จำเลยที่ 1 จะส่งเมทแอมเฟตามีนของกลางเป็นสถานที่ใด และเมื่อจำเลยที่ 2 รับเมทแอมเฟตามีนของกลางจากจำเลยที่ 1 แล้วจะนำไปส่งมอบให้ผู้ใด ณ สถานที่ใด ดังนี้ ข้อมูลที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้ต่อเจ้าพนักงานตำรวจจึงเป็นการนอกเหนือจากวิสัยที่เจ้าพนักงานตำรวจจะสามารถพบหรือตรวจสอบถึงผู้ร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้จากการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติหรือจากของกลางที่ยึดได้ เมื่อการจับกุมจำเลยที่ 2 กับจำเลยที่ 3 และที่ 4 เป็นผลโดยตรงจากการให้ข้อมูลหรือเบาะแสที่สำคัญของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ถือว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อตำรวจ ซึ่งศาลจะลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 2 น้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นก็ได้ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100/2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8479/2560
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาข้อมูลจากผู้ต้องหาเพื่อขยายผลจับกุม และการพิสูจน์ประโยชน์จากการให้ข้อมูลในคดียาเสพติด
การที่เจ้าพนักงานตำรวจจับกุม ช. ได้เนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจสืบสวนขยายผลจากการจับกุมจำเลยทั้งสอง โดยจัดกำลังเฝ้าสะกดรอยติดตาม น. ที่ใช้รถยนต์ หมายเลขทะเบียน บย 5560 เชียงราย จนมีการจับกุม ช. ได้พร้อมเมทแอมเฟตามีน 50 เม็ด ในรถยนต์ดังกล่าว ซึ่งข้อความที่จำเลยทั้งสองให้ข้อมูลต่อเจ้าพนักงานตำรวจไม่สามารถเชื่อมโยงไปถึง ช. หรือ น. และไม่เป็นเหตุให้ทำการจับกุมตัว ช. ได้ โดยข้อมูลเกี่ยวกับ น. ได้ความจากพลตำรวจตรี ภ. เบิกความตอบโจทก์ว่า เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2555 พยานรับแจ้งจากผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดว่า จะมีกลุ่มคนชนเผ่าม้ง เป็นกลุ่มของ น. ลักลอบลำเลียงยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แสดงว่าเจ้าพนักงานตำรวจมีข้อมูลอยู่ก่อนแล้วว่า น. มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติด จึงจัดกำลังเฝ้าสะกดรอยติดตามจนสามารถจับกุม ช. ได้ ทั้งยังได้ความจากพลตำรวจตรี ภ. เบิกความตอบโจทก์อีกว่า เกี่ยวกับคดีนี้ไม่สามารถขยายผลจับกุมผู้กระทำความผิดคนอื่นในคดีนี้ได้อีก ฉะนั้นการที่พยานโจทก์ทั้งสองเบิกความว่า จำเลยทั้งสองให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ จึงเป็นเพียงความเข้าใจของพยานโจทก์ทั้งสองเอง แต่ข้อเท็จจริงตามที่วินิจฉัยมายังรับฟังไม่ได้ว่า จำเลยทั้งสองให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100/2