พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงให้เจ้าพนักงานรังวัดเป็นข้อวินิจฉัยเด็ดขาด: การยอมรับผลการรังวัดที่ดินเพื่อใช้เป็นข้อพิสูจน์ในคดี
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยให้รื้อร้านค้าออกจากที่ดินของโจทก์ ฝ่ายจำเลยให้การว่าที่ดินไม่ใช่ของโจทก์ เมื่อคู่ความตกลงท้ากันให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดและเจ้าพนักงานสรรพากรจังหวัดไปตรวจสอบว่าร้านค้าของจำเลยอยู่ในเขตที่ดินของโจทก์ตามโฉนดที่ 47 หรือไม่ ถ้าอยู่ในเขตโฉนด โฉนดส่วนนี้รุกล้ำที่ดินราชพัสดุหรือไม่ หากปรากฏว่าร้านค้าของจำเลยอยู่ในเขตโฉนดของโจทก์และไม่ได้รุกล้ำที่ดินราชพัสดุ จำเลยยอมแพ้คดีดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์และจำเลยรับข้อเท็จจริงกันในศาลโดยถือเอาการรังวัดตรวจสอบของเจ้าพนักงานที่ดินและเจ้าพนักงานสรรพากรเป็นข้อแพ้ชนะระหว่างกันฉะนั้น เมื่อเจ้าพนักงานดังกล่าวทำการรังวัดตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่าร้านค้าของจำเลยปลูกในที่ดินเขตโฉนดของโจทก์และไม่ได้รุกล้ำที่ดินราชพัสดุ จำเลยก็ต้องแพ้คดี จะอ้างว่าเจ้าพนักงานสรรพากรจังหวัดไม่มีอำนาจชี้ขาดเขตที่ดินหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 364/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงท้ากันใช้ผลคดีอื่นเป็นข้อวินิจฉัยคดีปัจจุบัน หากฝ่ายแพ้ต้องปฏิบัติตามข้อตกลง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากบ้าน และที่ดินพิพาทกับเรียกค่าเสียหายอ้างว่าบ้านและที่ดินเป็นของโจทก์ให้จำเลยอาศัย จำเลยให้การว่าบ้านและที่ดินพิพาทเป็นของบิดาจำเลยให้ภริยาโจทก์มีชื่อในโฉนดที่ดินแทน ก่อนตายบิดาจำเลยได้สั่งให้โจทก์ ภริยาโจทก์ จำเลยและน้อง ๆ รักษาบ้านและที่ดินพิพาทไว้เป็นที่อยู่อาศัยของญาติพี่น้อง แล้วจำเลยได้ฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นอีกคดีหนึ่งว่า โจทก์คดีนี้ยอมยกที่ดินและบ้านพิพาทตีใช้หนี้แก่จำเลยแล้ว ขอให้โจทก์คดีนี้ใช้เงิน 198,000 บาท ให้จำเลย หรือโอนบ้านและที่ดินพิพาทให้จำเลย ในชั้นพิจารณาคดีนี้โจทก์จำเลยตกลงกันว่า ถ้าผลอีกคดีหนึ่งนั้นโจทก์ในคดีนี้ชนะคดีจำเลยยอมแพ้คดีนี้ด้วย และยอมชดใช้ค่าเสียหายตามฟ้อง แต่ถ้าโจทก์เป็นฝ่ายแพ้คดีดังกล่าว โจทก์ก็ต้องแพ้คดีนี้ด้วย โดยโจทก์ต้องยอมชำระเงินให้จำเลย 198,000 บาท เพื่อให้จำเลยออกจากบ้านและที่ดินพิพาทหรือยอมโอนบ้านและที่ดินพิพาทให้จำเลย ปรากฏว่าคดีดังกล่าวศาลฎีกาฟังว่าจำเลยได้ออกเงินช่วยรักษาพยาบาลภรรยาโจทกย์จริง แต่จำเลยฟ้องรวมมากับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ไม่อาจทราบได้ว่าค่าใช้จ่าย และค่ารักษาพยาบาลอย่างละเท่าไร ไม่อาจพิพากษาให้ได้ จึงพิพากษายกฟ้องโดยไม่ตัดสิทธิจำเลยไปฟ้องเรียกเงินทดรองในการรักษาพยาบาลภรรยาโจทก์ ดังนี้ คดีดังกล่าวถึงที่สุดโดยศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง ถือว่าผลคดีตรงตามคำท้าแล้ว คือโจทก์คดีนี้เป็นฝ่ายชนะในคดีนั้น จำเลยจึงต้องแพ้คดีนี้ตามคำท้า จำเลยจะอ้างว่าคดียังไม่เสร็จเด็ดขาด และจำเลยยังไม่สละสิทธิข้อต่อสู้ในคำให้การคดีนี้หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลคำพิพากษาต้องพิจารณาข้อวินิจฉัยทั้งหมด แม้ไม่ได้ระบุขับไล่โดยชัดแจ้ง หากพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหายจนกว่าจะส่งมอบทรัพย์สิน ย่อมหมายถึงการสั่งให้ส่งมอบ
โจทก์ฟ้องเรื่องละเมิด ขับไล่ ขอให้จำเลยออกจากห้องพิพาท และส่งมอบห้องพิพาทให้โจทก์ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายที่ขาดประโยชน์ตั้งแต่วันละเมิดถึงวันฟ้อง กับค่าเสียหายนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบห้องพิพาท ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ตั้งแต่วันละเมิดถึงวันฟ้องและนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบห้องพิพาทให้แก่โจทก์ ดังนี้ แม้คำพิพากษาจะไม่ได้กล่าวโดยชัดแจ้งให้ขับไล่จำเลย หรือให้จำเลยส่งมอบห้องพิพาทให้แก่โจทก์ก็ตาม แต่การแปลคำพิพากษาต้องพิเคราะห์เกี่ยวกับข้อวินิจฉัยในคำพิพากษา เมื่อคำพิพากษาได้วินิจฉัยว่าจำเลยอยู่ในห้องพิพาทโดยไม่มีสิทธิ์จะอ้างได้ และพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายจนกว่าจำเลยจะส่งมอบห้องพิพาท จึงมีความหมายอยู่ในตัวว่า คำพิพากษามุ่งประสงค์ให้จำเลยออกจากห้องพิพาทและส่งมอบห้องพิพากษาตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลคำพิพากษาต้องพิจารณาข้อวินิจฉัยทั้งหมด แม้ไม่ได้ระบุขับไล่ชัดเจน หากวินิจฉัยว่าอยู่โดยไม่มีสิทธิ ก็ย่อมมีหน้าที่ส่งมอบคืน
โจทก์ฟ้องเรื่องละเมิด ขับไล่ ขอให้จำเลยออกจากห้องพิพาท และส่งมอบห้องพิพาทให้โจทก์ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายที่ขาดประโยชน์ตั้งแต่วันละเมิดถึงวันฟ้อง กับค่าเสียหายนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบห้องพิพาท ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ตั้งแต่วันละเมิดถึงวันฟ้องและนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบห้องพิพาทให้แก่โจทก์ ดังนี้ แม้คำพิพากษาจะไม่ได้กล่าวโดยชัดแจ้งให้ขับไล่จำเลย หรือให้จำเลยส่งมอบห้องพิพาทให้แก่โจทก์ก็ตามแต่การแปลคำพิพากษาต้องพิเคราะห์เกี่ยวกับข้อวินิจฉัยในคำพิพากษา เมื่อคำพิพากษาได้วินิจฉัยว่าจำเลยอยู่ในห้องพิพาท โดยไม่มีสิทธิจะอ้างได้ และพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายจนกว่าจำเลยจะส่งมอบห้องพิพาท จึงมีความหมายอยู่ในตัวว่า คำพิพากษามุ่งประสงค์ให้จำเลยออกจากห้องพิพาทและส่งมอบห้องพิพาทตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 578/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในคดีแพ่ง: ห้ามฟ้องใหม่หากข้อวินิจฉัยเดิมยังคงใช้ได้ แม้จะมีการปรับปรุงพยานหลักฐาน
โจทก์ได้ฟ้องจำเลยขอให้ศาลบังคับปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายสองฉะบับ ศาลพิพากษายกฟ้องคดีเสร็จเด็ดขาดโดยเหตุว่า สัญญา 2 ฉะบับที่โจทก์อ้างไม่ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์ตามประมวลรัษฎากรรับฟังเป็นพะยานหลักฐานไม่ได้ โจทก์ได้นำสัญญา 2 ฉะบับดังกล่าวให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปิดอากรแสตมป์เป็นการถูกต้องสมบูรณ์ตาม ก.ม. แล้ว จึงนำมาฟ้องใหม่ ขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายเช่นเดียวกับคดีก่อน ดังนี้ คดีของโจทก์ต้องห้ามมิให้รื้อร้องฟ้องใหม่อีกตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 148.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2477
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานและการทำผิดวิธีพิจารณา: ศาลมีอำนาจงดสืบพยานได้หากไม่กระทบข้อวินิจฉัย
ฎีกาอุทธรณ์ ปัญหากฎหมาย การที่ศาลสั่งงดสืบพะยานนั้นอาจเป็นปัญหาข้อกฎหมายในการกระทำผิดวิธีพิจารณาได้ การที่ศาลสั่งงดสืบพะยานโดยแม้จะฟังต่อไปก็จะไม่ทำให้ข้อวินิจฉัยของศาลผิดไปเป็นประการอื่นไม่เรียกว่าเป็นการทำผิดวิธีพิจารณา+บังคับอังกฤษเป็นจำเลยคู่ความฎีกาได้แต่ปัญหาข้อกฎหมาย