พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2722/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จ: ศาลมีดุลพินิจไม่ไต่สวนมูลฟ้องได้หากข้อเท็จจริงฟังได้ชัดเจนจากคำบอกเล่าที่ไม่ได้รับการยืนยัน
ในคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นจะพิพากษายกฟ้องโดยไม่นัดไต่สวนมูลฟ้อง หรือนัดไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องโดยไม่ไต่สวนมูลฟ้อง หรือไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องก็ได้ทั้งสิ้น เพราะเป็นดุลพินิจในการดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีเสร็จสิ้นไปโดยเร็วและชอบด้วยกฎหมายเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้โดยชัดแจ้งว่า จำเลยทราบสิ่งที่เบิกความในคดีเดิมจากคำบอกเล่าของ จ. ข้อความที่ จ.เล่าให้จำเลยฟังนั้นจะเป็นความจริงหรือไม่ จำเลยไม่ได้ยืนยันดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดฐานเบิกความเท็จคดีโจทก์ไม่มีมูลความผิดดังฟ้อง ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยมิได้ไต่สวนมูลฟ้องก่อนจึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4696/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพราง: การกู้ยืมเงินที่แสดงเป็นสัญญาซื้อขาย ศาลยกฟ้องเรื่องผิดสัญญาซื้อขาย
การที่จำเลยกู้เงินโจทก์โดยมอบรถยนต์ให้โจทก์ยึดไว้เป็นประกันนิติกรรมการซื้อขายรถยนต์ซึ่งมีหนังสือหลักฐานการรับเงินขายรถยนต์จึงเป็นนิติกรรมอำพรางนิติกรรมการกู้เงิน นิติกรรมการซื้อขายจึงเป็นโมฆะตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118วรรคแรก เดิม (มาตรา 155 วรรคแรกใหม่) และต้องบังคับตามนิติกรรมการกู้ยืมซึ่งเป็นนิติกรรมที่ถูกอำพรางไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118 วรรคสอง เดิม (มาตรา 155วรรคสองใหม่) และแม้ในกรณีเช่นนี้จะมิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อจำเลยเป็นสำคัญต่างหากจากสัญญาซื้อขายก็ตาม ย่อมถือได้ว่าหนังสือหลักฐานการรับเงินขายรถยนต์เป็นหลักฐานการกู้ยืมเงินที่ทำกันไว้เป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างจำเลยกับโจทก์จึงมีผลบังคับกันได้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาซื้อขายขอเรียกเงินคืน จำเลยให้การต่อสู้ว่า ความจริงเป็นเรื่องการกู้ยืมเงินกัน เมื่อข้อเท็จจริงในทางพิจารณาฟังได้ตามที่จำเลยต่อสู้ ย่อมไม่อาจพิพากษาให้จำเลยชำระเงินให้แก่โจทก์ได้ เพราะเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2768/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภูมิลำเนาจำเลยต่างประเทศ: ศาลรับฟ้องเมื่อจำเลยระบุภูมิลำเนาในเขตศาลแพ่ง ทั้งในคำฟ้องและคดีอื่น
เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องถึงภูมิลำเนาของจำเลยไว้ชัดแจ้งแล้วว่าอยู่ในเขตศาลแพ่ง ทั้งตามฟ้องที่จำเลยได้ยื่นฟ้องโจทก์เป็นจำเลยต่อศาลแพ่งเป็นอีกคดีหนึ่งนั้น จำเลยก็ระบุว่าตนมีภูมิลำเนาอยู่ ณ ที่เดียวกัน ในชั้นนี้จึงฟังข้อเท็จจริงไว้ก่อนว่าจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลแพ่งตามที่โจทก์บรรยายฟ้องชอบที่จะต้องรับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4(2).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานขับรถประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แม้ข้อเท็จจริงในการพิจารณาแตกต่างจากฟ้อง ก็ไม่ถือว่ายกฟ้อง
ฟ้องกล่าวบรรยายข้อเท็จจริงแห่งการกระทำของจำเลยหลายประการและโจทก์สืบได้สมบ้างไม่สมบ้างเมื่อการกระทำที่ฟังได้สมฟ้องนั้นเป็นการกระทำซึ่งเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้องแล้วศาลย่อมลงโทษจำเลยได้ตามฟ้อง จะถือว่าเป็นกรณีข้อเท็จจริงที่ฟังได้ในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องหาได้ไม่