พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3084/2545 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดิน: คำพิพากษาถึงที่สุดในคดีขัดทรัพย์มีผลผูกพันคู่ความ และใช้เป็นหลักฐานยืนยันสิทธิได้
โจทก์ได้กล่าวอ้างถึงสำนวนคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 591/2536 ของศาลชั้นต้นไว้ในคำฟ้อง ทั้งได้ระบุอ้างสำนวนคดีดังกล่าวเป็นพยาน การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 นำข้อเท็จจริงตามสำนวนคดีดังกล่าวมาวินิจฉัยจึงตรงตามคำฟ้องและประเด็นในข้อพิพาทแล้ว หาเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็นดังที่จำเลยที่ 1 อ้างไม่ และตามสำนวนคดีดังกล่าวได้ความว่าจำเลยที่ 1 เคยยื่นคำร้องขัดทรัพย์อ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยที่ 1 มาก่อน และศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ยกคำร้อง คดีถึงที่สุดแล้ว คำพิพากษาดังกล่าวย่อมผูกพันจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นคู่ความในคดีนั้นตาม ป.วิ.พ. มาตรา 145 จึงต้องฟังว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3527/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำพิพากษาคดีขัดทรัพย์: ห้ามฟ้องขอส่วนแบ่งทรัพย์ซ้ำหลังศาลยกคำร้อง
โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินและอาคารพิพาทซึ่งปลูกสร้างอยู่บนที่ดินดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นของจำเลยเพื่อบังคับชำระหนี้ตามกฎหมาย การที่ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องขัดทรัพย์ว่าที่ดินและอาคารดังกล่าวเป็นของผู้ร้องแต่ศาลได้พิพากษายกคำร้องขัดทรัพย์ คดีถึงที่สุดไปแล้วเช่นนี้จึงมีผลว่าข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าที่ดินและอาคารพิพาทเป็นของผู้ร้อง คำพิพากษาดังกล่าวย่อมผูกพันผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145ผู้ร้องจะมาร้องขอกันส่วนในคดีนี้อีกโดยอ้างว่ามี กรรมสิทธิ์รวมในอาคารพิพาทหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1762/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งระหว่างพิจารณาคดีขัดทรัพย์: การอุทธรณ์และฎีกาที่มิชอบ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 288 วรรคสอง บัญญัติให้ศาลพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีร้องขัดทรัพย์เหมือนอย่างคดีธรรมดาศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องขัดทรัพย์วางเงินประกันการชำระค่าสินไหมทดแทนแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตามมาตรา 288(1) จึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นยังไม่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี ผู้ร้องขัดทรัพย์จะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวไม่ได้ต้องห้ามตาม มาตรา 226(1) แม้ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ร้องขัดทรัพย์มาแล้วก็เป็นการไม่ชอบผู้ร้องขัดทรัพย์จะฎีกาต่อมาอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 125/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
องค์คณะผู้พิพากษาคดีขัดทรัพย์: การพิจารณาคำร้องขอต้องมีองค์คณะตามกฎหมาย
คดีร้องขัดทรัพย์ซึ่งมีทุนทรัพย์เกินกว่าห้าหมื่นบาท ผู้พิพากษานายเดียวตรวจคำร้องขอแล้วมีคำสั่งยกคำร้องขอ เป็นการไม่ชอบด้วยพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 21(2) เพราะเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทแห่งคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 131(2) และเป็นกรณีที่ต้องมีผู้พิพากษาเป็นองค์คณะพิจารณาพิพากษาอย่างน้อยสองนาย ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 22, 23 เมื่อศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย ศาลอุทธรณ์ยังไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา ศาลฎีกาพิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยให้ศาลชั้นต้นดำเนินการให้ถูกต้องโดยให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งใหม่ให้มีผู้พิพากษาครบองค์คณะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในคดีขัดทรัพย์: พิจารณาตามทุนทรัพย์เดิมของคดี
การพิจารณาชั้นร้องขัดทรัพย์ถือเป็นการพิจารณาในเรื่องเดิมที่โจทก์ฟ้องจำเลยฉะนั้น แม้คดีร้องขัดทรัพย์ ผู้ร้องได้ตั้งจำนวนทุนทรัพย์มา 5,000 บาท ก็หาเกินอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในคดีขัดทรัพย์: พิจารณาตามทุนทรัพย์เดิมที่ฟ้อง
การพิจารณาชั้นร้องขัดทรัพย์ถือเป็นการพิจารณาในเรื่องเดิมที่โจทก์ฟ้องจำเลย. ฉะนั้น แม้คดีร้องขัดทรัพย์ ผู้ร้องได้ตั้งจำนวนทุนทรัพย์มา 5,000 บาท ก็หาเกินอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งระหว่างพิจารณาคดีขัดทรัพย์: การสั่งให้ฟ้องคดีใหม่เป็นคำสั่งที่ไม่อุทธรณ์ได้
ในกรณีร้องขัดทรัพย์ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์ไปจัดการฟ้องคดีเพื่อดำเนินคดีกับผู้ร้องเสียใหม่ และให้รอคดีร้องขัดทรัพย์ไว้รอฟังผลคดีใหม่ คำสั่งเช่นนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งระหว่างพิจารณาคดีขัดทรัพย์: ศาลสั่งให้ฟ้องดำเนินคดีกับคู่กรณีอื่นก่อน ไม่สามารถอุทธรณ์ได้
ในกรณีร้องขัดทรัพย์ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์ไปจัดการฟ้องคดีเพื่อดำเนินคดีกับผู้ร้องเสียใหม่ และให้รอคดีร้องขัดทรัพย์ไว้รอฟังผลคดีใหม่ คำสั่งเช่นนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานเพิ่มเติมในคดีขัดทรัพย์: เอกสารเป็นพยานหลักฐานประเภทหนึ่ง
ในคดีร้องขัดทรัพย์ ศาลกำหนดให้โจทก์นำสืบก่อนเมื่อโจทก์สืบพยานบุคคลแล้ว โจทก์แถลงว่าหมดพยานบุคคลแล้ว คงติดใจอ้างพยานเอกสารซึ่งได้ขอให้ศาลเรียกมาแล้วแต่ยังไม่ได้มาดังนี้ ถือว่าการสืบพยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่เสร็จ เพราะเอกสารก็เป็นพยานหลักฐานอย่างหนึ่งเหมือนกันฉะนั้น ผู้ร้องจึงมีสิทธิยื่นระบุพยานเพิ่มเติมได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความบังคับคดีนับจากวันพิพากษาท้ายยอม ไม่ใช่คดีขัดทรัพย์ การวางเงินชำระหนี้ไม่ทำให้หยุดอายุความ
ลูกหนี้ต้องคำพิพากษาให้ชำระหนี้โจทก์ ลูกหนี้จึง+เงินไปวางต่อศาล เพื่อปฏิบัติตามคำพิพากษาดังนี้ ไม่ทำให้อายุความการบังคับคดีสดุดหยุดลง
ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.271
การนับอายุความการบังคับ+จะต้องนับจากวันที่ศาลได้พิพากษาท้ายยอม ไม่ใช่นับจากวันที่คดีเรื่องขัดทรัพย์ถึงที่สุด
ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.271
การนับอายุความการบังคับ+จะต้องนับจากวันที่ศาลได้พิพากษาท้ายยอม ไม่ใช่นับจากวันที่คดีเรื่องขัดทรัพย์ถึงที่สุด