คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คดีข่มขืน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำร้องทุกข์ในคดีข่มขืนที่ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง ทำให้คดีระงับ
จำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายโดยมิได้ใช้อาวุธ จึงเป็นคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัว หรือเป็นความผิดอันยอมความได้ตาม ป.อ.มาตรา 281 เมื่อคดียังไม่ถึงที่สุด ผู้เสียหายจะถอนคำร้องทุกข์เสียเมื่อใดก็ ได้ ปรากฏว่าระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ ดังนี้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามป.วิ.อ. มาตรา 39(2) ศาลฎีกาย่อมมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความน่าเชื่อถือพยานหลักฐานในคดีข่มขืน พยานเบิกความขัดแย้งกัน รูปคดีมีเหตุให้สงสัย
ผู้เสียหายและ ส. พยานโจทก์เบิกความขัดกันในสาระสำคัญหลายประการและขัดกับคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายเองด้วยทำให้น่าสงสัยและที่ผู้เสียหายเบิกความว่า จำเลยพาผู้เสียหายไปโดยการขู่เข็ญ บังคับโดยผู้เสียหายไม่เต็มใจไปกับจำเลย จำเลยได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย โดยจับมือทั้งสองของผู้เสียหายและเหวี่ยงบังคับกดลงกับพื้น จำเลยกดทับตัวผู้เสียหาย ผู้เสียหายรู้สึกเจ็บที่อวัยวะเพศและพบว่ามีเลือดไหลออกมามากจนเปรอะเปื้อนพื้นกระดาน จำเลยเอาน้ำจากห้องน้ำมาล้าง ส่วนผู้เสียหายลุก ไม่ไหวจนกระทั่งรุ่งเช้าผู้เสียหายลุกขึ้นยังเดินเซ จะเข้าห้องน้ำจนจำเลยต้องช่วยประคอง นั้น พยานโจทก์ซึ่งเป็นแพทย์ก็เบิกความว่าได้ตรวจร่างกายผู้เสียหายหลังจากถูกข่มขืนเพียง 5 วัน ไม่พบรอยฉีก ขาดหรือฟกช้ำ รูปคดีจึงมีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยได้กระทำผิดหรือไม่ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้แก่จำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3020/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม: โต้เถียงดุลพินิจพยานหลักฐานในคดีข่มขืน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 90 จำคุกห้าปี จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278, 83 จำคุกสองปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง ลงโทษจำคุกเท่ากับศาลชั้นต้น ดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
จำเลยทั้งสองฎีกาว่าโจทก์ไม่ได้ตัวผู้เสียหายมาเบิกความสนับสนุนคำฟ้องจึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดนั้นเป็นการโต้เถียงดุลพินิจเกี่ยวกับการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานของศาล เป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังคำให้การชั้นสอบสวนในคดีข่มขืน: จำเป็นต้องมีพยานเบิกความต่อศาลเพื่อยืนยันความผิด
ในคดีข่มขืนกระทำชำเรา โจทก์ไม่ได้ตัวผู้เสียหายมาเบิกความ คงมีแต่คำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหาย ซึ่งจะรับฟังประกอบได้ก็แต่เพียงว่าผู้เสียหายได้ให้การไว้ในชั้นสอบสวนเช่นนั้นจริง แต่ความจริงจะเป็นอย่างไรในชั้นศาลโจทก์จะต้องมีพยานมาเบิกความต่อศาลว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงเมื่อชั้นศาลโจทก์ไม่มีพยานมาเบิกความว่าจำเลยได้กระทำผิดโดยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เช่นนี้ เพียงแต่คำให้การชั้นสอบสวนจึงยังฟังลงโทษจำเลยไม่ได้ (อ้างฎีกา165/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การช่วยเหลือจำเลยหลบหนีคดีข่มขืน และทำลายหลักฐานเพื่อ妨礙การสอบสวน
นายชุ่มบุกรุกเข้าไปในโรงนาและพยายามข่มขืนนางส้มเจียน ๆ ใช้ปืนขู่ ปืนเกิดลั่นถูกนายชุ่ม มีรอยเลือดหยดที่ในโรงนาและที่ปากประตู จำเลยมีเจตนาช่วยเหลือนายชุ่มไม่ให้ต้องได้รับโทษ ได้เอาฟางที่เปื้อนเลือดไปเผาไฟเสีย จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 184

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานในคดีข่มขืน จำเป็นต้องมีพยานเบิกความต่อหน้าศาล ไม่สามารถใช้เพียงคำให้การชั้นสอบสวนลงโทษได้
ในคดีหาว่าข่มขืนกระทำชำเราโจทก์ไม่สามารถจะได้ตัวผู้เสียหายและมารดาผู้เสียหายมาเบิกความคงมีแต่คำให้การชั้นสอบสวนที่ให้การว่า จำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายและมีพนักงานสอบสวนมาเบิกความประกอบกับมีคำเบิกความของผู้ใหญ่บ้านผู้รับแจ้งความจากมารดาผู้เสียหายว่าจำเลยกับพวกได้ฉุดคร่าผู้เสียหายไปดังนี้ ศาลจะรับฟังพยานหลักฐานดังกล่าวมาลงโทษจำเลยไม่ได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 95(2)เพราะคำให้การชั้นสอบสวนจะรับฟังประกอบได้ ก็แต่เพียงว่าผู้เสียหายและมารดาให้การไว้ในชั้นสอบสวนเช่นนั้นจริงแต่ความจริงจะเป็นอย่างไรแน่ในชั้นศาล โจทก์จะต้องมีพยานมาเบิกความว่า จำเลยได้กระทำผิดจริง เมื่อชั้นศาลโจทก์ไม่มีพยานมาแสดงว่าจำเลยได้ข่มขืนชำเราผู้เสียหาย เช่นนี้ เพียงคำชั้นสอบสวนก็ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดดังฟ้อง