พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2257/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิโจทก์ขอถอนฟ้องคดีอาญาแผ่นดินที่ศาลอุทธรณ์แก้ไขเป็นความผิดต่อส่วนตัว และการยอมความระงับคดี
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา83,362,365ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่2มีความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา365(3)อันเป็นความผิดอาญาแผ่นดินหากตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาศาลสูงเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาศาลชั้นต้นก็ต้องถือว่าคดีนี้เป็นคดีความผิดอาญาแผ่นดินมิใช่เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัวโจทก์หามีสิทธิขอถอนฟ้องจำเลยที่2ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค3ได้ไม่แต่ต่อมาภายหลังเมื่อศาลอุทธรณ์ภาค3พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยที่2มีความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา362อันเป็นความผิดต่อส่วนตัวและยังไม่มีคำพิพากษาศาลสูงเปลี่ยนแปลงแก้ไขก็ต้องถือว่าคดีนี้เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัวเมื่อคดียังไม่ถึงที่สุดและตามคำร้องขอถอนฟ้องของโจทก์อ้างว่าโจทก์และจำเลยที่2ตกลงกันได้โจทก์จึงไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับจำเลยที่2ต่อไปจำเลยที่2ไม่คัดค้านและท้ายคำร้องดังกล่าวได้ลงลายมือชื่อไว้ด้วยคำร้องขอถอนฟ้องของโจทก์จึงเป็นการยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้วสิทธินำคดีอาญามาฟ้องจำเลยที่2ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา39(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 981/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฉุดคร่า-ข่มขืนฯ ต้องระบุการร้องทุกข์ในฟ้องคดีอาญาต่อส่วนตัว
ข่มขืนกระทำชำเราในห้องปิดประตู ไม่เป็นการต่อหน้าธาระกำนัล
พฤตติการณ์ที่ถือว่าการฉุดคร่าและการข่มขืนกระทำชำเราเป็นความผิดคนละกะทง
คดีอาญาซึ่งเป็นความผิดต่อส่วนตัวนั้น เมื่ออัยยการเป็นผู้ฟ้อง ในฟ้องนั้นต้องบรรยายมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ขอให้นำคดีนั้นว่ากล่าวแล้ว มิฉะนั้นศาลจะรับพิจารณาในความใดต่อส่วนตัวนี้มิได้
อ้างฎีกาที่ 1212/2480
พฤตติการณ์ที่ถือว่าการฉุดคร่าและการข่มขืนกระทำชำเราเป็นความผิดคนละกะทง
คดีอาญาซึ่งเป็นความผิดต่อส่วนตัวนั้น เมื่ออัยยการเป็นผู้ฟ้อง ในฟ้องนั้นต้องบรรยายมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ขอให้นำคดีนั้นว่ากล่าวแล้ว มิฉะนั้นศาลจะรับพิจารณาในความใดต่อส่วนตัวนี้มิได้
อ้างฎีกาที่ 1212/2480