พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6044/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าแทนที่คู่ความมรณะในคดีร้องขัดทรัพย์เมื่อเจ้าหนี้ถอนการยึดทรัพย์แล้ว คดีไม่มีประโยชน์อีกต่อไป
โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ของจำเลยได้ถอนการยึดที่ดินที่ร้องขัดทรัพย์แล้ว การพิจารณาคดีร้องขอเข้าแทนที่ผู้มรณะชั้นร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้องไม่เป็นประโยชน์อีกต่อไป จึงให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5662/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงจากการแสดงข้อความเท็จในการกู้เงิน: อายุความเริ่มนับเมื่อคดีร้องขัดทรัพย์ถึงที่สุด
จำเลยเบิกความในคดีที่บิดาจำเลยร้องขัดทรัพย์ว่า จำเลยทราบอยู่แล้วว่า บ้านที่โจทก์นำยืดเป็นของบิดาจำเลย แสดงว่าจำเลยรู้มาแต่แรกแล้วว่า บ้านไม่ใช่ของจำเลย การที่จำเลยนำบ้านดังกล่าวประกันเงินกู้โจทก์โดยระบุในสัญญากู้ว่าเป็นบ้านของจำเลย จึงเป็นการหลอกลวงโจทก์ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ ทั้งนี้เพื่อต้องการให้โจทก์ยอมให้จำเลยกู้เงินและส่งมอบเงินที่กู้ให้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
ปัญหาอายุความความผิดฐานฉ้อโกงในคดีนี้ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ การที่จะวินิจฉัยว่าโจทก์รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด จำต้องอาศัยข้อเท็จจริงในคดีที่บิดาจำเลยร้องขัดทรัพย์ว่าบ้านที่จำเลยนำไปประกันเงินกู้โจทก์นั้นเป็นบ้านของ จำเลยหรือของบิดาจำเลย จึงต้องถือว่าโจทก์รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดเมื่อคดีร้องขัดทรัพย์ถึงที่สุดแล้ว
ปัญหาอายุความความผิดฐานฉ้อโกงในคดีนี้ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ การที่จะวินิจฉัยว่าโจทก์รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด จำต้องอาศัยข้อเท็จจริงในคดีที่บิดาจำเลยร้องขัดทรัพย์ว่าบ้านที่จำเลยนำไปประกันเงินกู้โจทก์นั้นเป็นบ้านของ จำเลยหรือของบิดาจำเลย จึงต้องถือว่าโจทก์รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดเมื่อคดีร้องขัดทรัพย์ถึงที่สุดแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 789/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำสั่งในคดีร้องขัดทรัพย์: ทุนทรัพย์, ข้อเท็จจริง, และการคืนค่าธรรมเนียมศาล
คดีร้องขัดทรัพย์ มีข้อพิพาทคำนวณตามราคาทรัพย์ที่ขอให้ถอนการยึด ไม่ถือตามทุนทรัพย์ในคดีเดิม
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกอุทธรณ์ โดยไม่วินิจฉัยประเด็นแห่งอุทธรณ์ต้องคืนค่าธรรมเนียมทั้งหมดตาม พระราชบัญญัติแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ฉบับที่ 7 ซึ่งออกใช้บังคับระหว่างฎีกาศาลฎีกาพิพากษาบังคับแก่คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามาก่อนได้
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกอุทธรณ์ โดยไม่วินิจฉัยประเด็นแห่งอุทธรณ์ต้องคืนค่าธรรมเนียมทั้งหมดตาม พระราชบัญญัติแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ฉบับที่ 7 ซึ่งออกใช้บังคับระหว่างฎีกาศาลฎีกาพิพากษาบังคับแก่คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามาก่อนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 292/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชัดแจ้ง-ข้อเท็จจริงเกินทุนทรัพย์-การยกข้อกฎหมาย ศาลฎีกายกคำร้องเนื่องจากฎีกาไม่ชัดเจน ข้อเท็จจริงเกินทุนทรัพย์ และการยกข้อกฎหมายที่โจทก์เคยต่อสู้ไว้
ฎีกาผู้ร้องมิได้บรรยายว่า ถ้าโจทก์ชนะคดีจำเลยในคดีดำที่ 255/2509 แล้วจะมีผลลบล้างคดีร้องขัดทรัพย์นี้ได้อย่างไร หรือด้วยเหตุผลอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งศาลฎีการับวินิจฉัยให้ไม่ได้ ส่วนฎีกาที่อ้างว่าเรือนพิพาทเป็นโรงเรือนชั่วคราว เจ้าพนักงานไม่ยอมจดทะเบียนให้ เพราะไม่ถือว่าเป็นอาคารนั้น เป็นข้อเท็จจริงที่ผู้ร้องจะฎีกาไม่ได้ เพราะคดีร้องขัดทรัพย์นี้มีทุนทรัพย์เพียง 4,000 บาท
โจทก์ให้การต่อสู้แล้วว่า การมอบเรือนพิพาทไม่มีผลตามกฎหมาย เพราะมิได้จดทะเบียนหรือทำนิติกรรมต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นโมฆะ ดังนี้ หาได้ต่อสู้แต่เพียงว่าผู้ร้องกับจำเลยสมยอมกันเท่านั้นไม่ ศาลอุทธรณ์จึงมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัย
โจทก์ให้การต่อสู้แล้วว่า การมอบเรือนพิพาทไม่มีผลตามกฎหมาย เพราะมิได้จดทะเบียนหรือทำนิติกรรมต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นโมฆะ ดังนี้ หาได้ต่อสู้แต่เพียงว่าผู้ร้องกับจำเลยสมยอมกันเท่านั้นไม่ ศาลอุทธรณ์จึงมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัย