พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 448/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รวมพิจารณาคดีอาญาเด็กและวิธีการลงโทษแบบไม่ลงโทษ (ส่งสถานพินิจ) การรวมโทษและอำนาจศาล
จำเลยกระทำความผิด 2 กรรม โจทก์ฟ้องเป็น 2 สำนวนเมื่อจะเป็นการสะดวกหากพิจารณารวมกัน ศาลชั้นต้นย่อมสั่งให้พิจารณารวมกันได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 28การพิพากษาความผิดของจำเลยจะต้องพิพากษาทุกกรรม ส่วนวิธีการลงโทษต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 แต่จำเลยมีอายุไม่เกิน 17 ปี และศาลชั้นต้นเห็นว่าไม่สมควรพิพากษาลงโทษ จึงพิพากษาให้ส่งตัวไปรับการฝึกอบรมยังสถานพินิจฯ ดังนี้ ไม่อยู่ในบังคับแห่งมาตรา 91 เพราะไม่ใช่การลงโทษ จึงรวมกำหนดระยะเวลาการส่งตัวไปรับการฝึกอบรมทั้งสองสำนวนเข้าด้วยกันได้ ไม่จำต้องกำหนดว่าสำนวนละเท่าใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7066/2554
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสอบสวนคดีอาญาเด็ก การพิจารณาคดี และการยกฟ้องตามกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติม
การสอบสวนคดีนี้กระทำขึ้นก่อน พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้นำบทบัญญัติมาตรา 133 ทวิ มาใช้บังคับอนุโลมแก่การสอบสวนผู้ต้องหาอายุไม่เกินสิบแปดปี ทั้งข้อเท็จจริงได้ความตามคำเบิกความของร้อยตำรวจเอก ธ. พนักงานสอบสวนพยานโจทก์ว่า ในการสอบปากคำจำเลยมีพนักงานอัยการ นักจิตวิทยา และทนายความเข้าร่วมรับฟังด้วยแล้ว โดยจำเลยมิได้ถามค้านและนำพยานหลักฐานเข้าสืบให้รับฟังเป็นอย่างอื่น ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ตามที่พยานโจทก์เบิกความ การสอบสวนคดีนี้ชอบแล้ว พนักงานอัยการย่อมมีอำนาจฟ้อง
แม้มี พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 21) พ.ศ.2551 ให้ยกเลิกมาตรา 74 เดิม ซึ่งตามมาตรา 73 ที่แก้ไขใหม่ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า เด็กอายุยังไม่เกินสิบปีกระทำการอันกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด เด็กนั้นไม่ต้องรับโทษ และในวรรคสอง บัญญัติให้พนักงานสอบสวนส่งตัวเด็กตามวรรคหนึ่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก เพื่อดำเนินการคุ้มครองสวัสดิภาพตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นก็ตามแต่ พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มาตรา 206 ซึ่งเป็นบทเฉพาะกาล บัญญัติว่า พระราชบัญญัตินี้ไม่มีผลกระทบถึงการดำเนินคดีใด ๆ ที่ได้กระทำไปก่อนที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เมื่อมีการดำเนินคดีมาถึงศาลฎีกากรณีจึงล่วงพ้นกำหนดเวลาที่จะดำเนินการตามมาตรา 73 วรรคสอง ที่แก้ไขใหม่แล้ว ศาลฎีกาจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ได้
แม้มี พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 21) พ.ศ.2551 ให้ยกเลิกมาตรา 74 เดิม ซึ่งตามมาตรา 73 ที่แก้ไขใหม่ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า เด็กอายุยังไม่เกินสิบปีกระทำการอันกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด เด็กนั้นไม่ต้องรับโทษ และในวรรคสอง บัญญัติให้พนักงานสอบสวนส่งตัวเด็กตามวรรคหนึ่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก เพื่อดำเนินการคุ้มครองสวัสดิภาพตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นก็ตามแต่ พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มาตรา 206 ซึ่งเป็นบทเฉพาะกาล บัญญัติว่า พระราชบัญญัตินี้ไม่มีผลกระทบถึงการดำเนินคดีใด ๆ ที่ได้กระทำไปก่อนที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เมื่อมีการดำเนินคดีมาถึงศาลฎีกากรณีจึงล่วงพ้นกำหนดเวลาที่จะดำเนินการตามมาตรา 73 วรรคสอง ที่แก้ไขใหม่แล้ว ศาลฎีกาจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ได้