พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4730/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาล และการจำกัดสิทธิฎีกาในคดีแชร์ การใช้ทุนทรัพย์ในการจำกัดสิทธิ
โจทก์เป็นหัวหน้าวงแชร์ จำเลยที่ 1 และ ที่ 2 เป็นลูกวงแชร์ของโจทก์ จำเลยที่ 1 และที่ 2 ประมูลแชร์และรับเงินที่ประมูลได้ไปแล้วไม่ผ่อนชำระค่าหุ้นแก่โจทก์ โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นคดีเดียวกัน ศาลชั้นต้นรับฟ้องโดยไม่ได้สั่งให้แยกฟ้องจำเลยที่ 2 เป็นอีกคดี และได้พิจารณาพิพากษาคดีของโจทก์ตามที่โจทก์เสนอคำฟ้องต่อศาลจนถึงชั้นพิจารณาของศาลฎีกา เกี่ยวกับการเสนอคำฟ้องต่อศาลคดีนี้ เมื่อพิจารณาถึงสภาพแห่งคำฟ้องและชั้นของศาลตาม ป.วิ.พ.มาตรา 2 ปรากฏว่าศาลชั้นต้นมีอำนาจที่จะพิจารณาพิพากษาคดีได้ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยพระธรรมนูญศาลยุติธรรม และเมื่อพิจารณาถึงคำฟ้อง ปรากฏว่าคดีนี้อยู่ในเขตอำนาจศาลตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยศาลที่จะรับคำฟ้องและตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่กำหนดเขตของศาลทั้งคดีเกี่ยวเนื่องกันด้วย จึงไม่มีเหตุสมควรที่ศาลฎีกาจะยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เฉพาะจำเลยที่ 2 แล้วให้โจทก์แยกฟ้องจำเลยที่ 2 เป็นคดีใหม่
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันเล่นแชร์และค้างชำระเงินค่าหุ้นแชร์แก่โจทก์ตามฟ้อง แต่เมื่อโจทก์ฟ้องบังคับจำเลยที่ 1 ชำระเงิน139,710 บาท และบังคับให้จำเลยที่ 2 ชำระเงิน 31,063 บาท จำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท จึงห้ามจำเลยที่ 1 ฎีกาในข้อเท็จจริง ส่วนคดีระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 มีทุนทรัพย์จำนวน31,063 บาท ศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น ข้อเท็จจริงจึงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยที่ 2 จะฎีกาโต้เถียงให้รับฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นไม่ได้
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ต่างรับผิดใช้เงินจำนวนไม่เท่ากัน และไม่ได้ให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียม ค่าขึ้นศาลและค่าทนายความจึงต้องใช้ตามจำนวนทุนทรัพย์ของจำเลยแต่ละคน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันเล่นแชร์และค้างชำระเงินค่าหุ้นแชร์แก่โจทก์ตามฟ้อง แต่เมื่อโจทก์ฟ้องบังคับจำเลยที่ 1 ชำระเงิน139,710 บาท และบังคับให้จำเลยที่ 2 ชำระเงิน 31,063 บาท จำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท จึงห้ามจำเลยที่ 1 ฎีกาในข้อเท็จจริง ส่วนคดีระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 มีทุนทรัพย์จำนวน31,063 บาท ศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น ข้อเท็จจริงจึงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยที่ 2 จะฎีกาโต้เถียงให้รับฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นไม่ได้
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ต่างรับผิดใช้เงินจำนวนไม่เท่ากัน และไม่ได้ให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียม ค่าขึ้นศาลและค่าทนายความจึงต้องใช้ตามจำนวนทุนทรัพย์ของจำเลยแต่ละคน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4730/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีแชร์และการแบ่งแยกความรับผิดของจำเลยแต่ละคนตามจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาท
โจทก์เป็นหัวหน้าวงแชร์จำเลยที่1และที่2เป็นลูกวงแชร์ของโจทก์จำเลยที่1และที่2ประมูลแชร์และรับเงินที่ประมูลได้ไปแล้วไม่ผ่อนชำระค่าหุ้นแก่โจทก์โจทก์ฟ้องจำเลยที่1และที่2เป็นคดีเดียวกันศาลชั้นต้นรับฟ้องโดยไม่ได้สั่งให้แยกฟ้องจำเลยที่2เป็นอีกคดีและได้พิจารณาพิพากษาคดีของโจทก์ตามที่โจทก์เสนอคำฟ้องต่อศาลจนถึงชั้นพิจารณาของศาลฎีกาเกี่ยวกับการเสนอคำฟ้องต่อศาลคดีนี้เมื่อพิจารณาถึงสภาพแห่งคำฟ้องและชั้นของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา2ปรากฏว่าศาลชั้นต้นมีอำนาจที่จะพิจารณาพิพากษาคดีได้ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยพระธรรมนูญศาลยุติธรรมและเมื่อพิจารณาถึงคำฟ้องปรากฏว่าคดีนี้อยู่ในเขตอำนาจศาลตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยศาลที่จะรับคำฟ้องและตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่กำหนดเขตของศาลทั้งคดีเกี่ยวเนื่องกันด้วยจึงไม่มีเหตุสมควรที่ศาลฎีกาจะยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและคำศาลอุทธรณ์พิพากษาเฉพาะจำเลยที่2แล้วให้โจทก์แยกฟ้องจำเลยที่2เป็นคดีใหม่ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่1และที่2ร่วมกันเล่นแชร์และค้างชำระเงินค่าหุ้นแชร์แก่โจทก์ตามฟ้องแต่เมื่อโจทก์ฟ้องบังคับจำเลยที่1ชำระเงิน139,710บาทและบังคับให้จำเลยที่2ชำระเงิน31,063บาทจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันระหว่างโจทก์กับจำเลยที่1ในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทจึงห้ามจำเลยที่1ฎีกาในข้อเท็จจริงส่วนคดีระหว่างโจทก์กับจำเลยที่2มีทุนทรัพย์จำนวน31,063บาทศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงและศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นข้อเท็จจริงจึงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นจำเลยที่2จะฎีกาโต้เถียงให้รับฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่1และที่2ต่างรับผิดใช้เงินจำนวนไม่เท่ากันและไม่ได้ให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมค่าขึ้นศาลและค่าทนายความจึงต้องใช้ตามจำนวนทุนทรัพย์ของจำเลยแต่ละคน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2658/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องไม่เคลือบคลุม คดีแชร์: รายละเอียดการประมูลและจำนวนเงินเป็นเรื่องสืบพยานในชั้นพิจารณา
คำฟ้องบรรยายว่าโจทก์ได้ตกลงเข้าร่วมเล่นแชร์กับจำเลยจำนวน 2 วง หุ้นละ 300 บาท มีผู้ถือหุ้นวงละ 28 หุ้น เริ่มเล่นวันที่ 1 ตุลาคม 2528 กำหนดชำระค่าหุ้นทุก 15 วัน หลังจากนั้นโจทก์ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงโดยมีการประมูลแชร์กันตลอดมาจนถึงเดือนกันยายน 2529 แชร์ทั้ง 2 วง เลิกโดยที่โจทก์ยังไม่ได้ประมูลซึ่งโจทก์ได้ส่งเงินค่าหุ้นไปแล้วจำนวน 13,800 บาท และมี ดอกเบี้ยที่มีผู้ประมูลได้ 8,652 บาท จำเลยมีหน้าที่ต้องชำระคืนให้โจทก์ดังนี้ คำฟ้องได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งมีสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสองแล้วส่วนจำนวนเงินที่โจทก์ได้ส่งไปและดอกเบี้ยซึ่งมีสิทธิจะได้รับนั้นจะเป็นเงินค่าหุ้นและดอกเบี้ยแชร์วงไหน ผู้เข้าร่วมเล่นรายใดเป็นผู้ประมูลได้ จำนวนเท่าใดเป็นเพียงรายละเอียดที่จะนำสืบกันได้ในชั้นพิจารณา ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1278/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีแชร์: การพิสูจน์ข้อตกลงการคืนเงินและข้อเท็จจริงการเล่นแชร์
โจทก์ที่ 2 ฟ้องเรียกเงินจากจำเลย 27,738 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจึงต้องห้ามคู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ.มาตรา 248 เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าไม่มีการจับสลากกำหนดเวลาคืนเงินให้ผู้ร่วมเล่นแชร์ ฎีกาของจำเลยเกี่ยวกับโจทก์ที่ 2 ที่ว่า โจทก์ที่ 2 ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะโจทก์ที่ 2 จะได้รับเงินคืนในเดือน สิงหาคม 2530 ตาม ที่จับสลากได้ ขณะที่ฟ้องยังไม่ถึงกำหนดเวลาดังกล่าวนั้น จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายเรื่องอำนาจฟ้องต้องห้ามตาม บทกฎหมายดังกล่าว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษ์คดีแชร์ โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานที่ไม่น่าเชื่อถือของโจทก์ และการชำระหนี้ที่ครบถ้วนของจำเลย
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยผิดสัญญาเล่นแชร์ส่งค่าแชร์ให้โจทก์ไม่ครบ จำเลยให้การว่าได้ส่งค่าแชร์ให้โจทก์ครบถ้วนแล้วประเด็นแห่งคดีคือจำเลยชำระหนี้ตามฟ้องให้โจทก์แล้วหรือไม่การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ไม่ได้นำลูกวงแชร์มาเบิกความสนับสนุนคำเบิกความของโจทก์ในเรื่องที่โจทก์ออกเงินชำระหนี้ค่าแชร์แทนจำเลย ทำให้น้ำหนักพยานของโจทก์น้อยนั้นเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยถึงข้อพิรุธของพยานหลักฐานโจทก์เพื่อชั่งน้ำหนักพยานและเป็นการวินิจฉัยในประเด็นที่ว่าจำเลยชำระหนี้ตามฟ้องให้โจทก์แล้วหรือไม่ คำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2833/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทุนทรัพย์คดีแชร์และการห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงเมื่อทุนทรัพย์ไม่เกิน 50,000 บาท
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเล่นแชร์กับโจทก์รวม 3 วงแล้วผิดสัญญาไม่ชำระค่าแชร์ ทุนทรัพย์ในคดีต้องแยกตามสัญญาเล่นแชร์แต่ละวง สำหรับแชร์วงที่ 2 และวงที่ 3 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์มิได้อุทธรณ์ จึงเป็นอันยุติไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนแชร์วงแรกทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกิน 50,000 บาท จึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3112/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีแชร์: พนักงานอัยการไม่มีสิทธิเรียกเงินคืนแทนผู้เสียหายในคดีที่ศาลเห็นว่าเป็นเรื่องผิดสัญญาแพ่ง ไม่ใช่ความผิดอาญา
พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงกับขอให้คืนเงินที่จำเลยได้ไป จากการฉ้อโกงแก่ผู้เสียหาย เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่ามิใช่เป็นเรื่องฉ้อโกงแต่เป็นเรื่องผู้เสียหายและจำเลยสมัครใจเล่นแชร์ต่อกัน ซึ่งเป็นเรื่องความรับผิดทางแพ่งล้วนๆ หาใช่เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาไม่ ดังนี้ เงินที่ผู้เสียหายชำระค่าแชร์ให้แก่จำเลยไปจึงมิใช่ทรัพย์สินที่ผู้เสียหายสูญเสียไปเนื่องจากการกระทำผิด พนักงานอัยการไม่มีสิทธิที่จะเรียกเงินเช่นนี้แทนผู้เสียหายได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอายา มาตรา 43
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3702/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำกัดวงเงินอุทธรณ์คดีแชร์, ความเป็นอื่นของโจทก์, และการแก้ไขจำนวนหนี้ที่พิพากษา
จำเลยเป็นหัวหน้าวงแชร์ โจทก์ทั้งหกเป็นผู้ร่วมเล่นแชร์วงเดียวกันซึ่งมีจำเลยเป็นหัวหน้าวง แต่โจทก์ทั้งหกต่างมิได้มีผลประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกัน ถือไม่ได้ว่าโจทก์ทั้งหกมีผลประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกัน ถือไม่ได้ว่าโจทก์ทั้งหกมีผลประโยชน์ร่วมกันในมูลความแห่งคดี ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 59 การคำนวณทุนทรัพย์ในการใช้สิทธิอุทธรณ์ย่อมต้องแยกตามจำนวนเงินที่โจทก์แต่ละคนเรียกร้องให้จำเลยรับผิด หาใช่พิจารณาจากหนี้ที่โจทก์ทั้งหกเรียกร้องรวมกันไม่ เมื่อจำนวนเงินที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระแก่โจทก์ที่ 1 ที่ 5 และที่ 6 ไม่เกินห้าหมื่นบาท คดีระหว่างโจทก์ที่ 1 ที่ 5 และที่ 6 กับจำเลยจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 224 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8639/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคำนวณทุนทรัพย์ที่พิพาทในคดีแชร์ และข้อจำกัดการฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าแชร์ 2 วง การคำนวณทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกานั้น ต้องแยกคำนวณตามจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันตามข้อหาของการผิดสัญญา เมื่อแชร์แต่ละวงมีรายละเอียดข้อสัญญาต่างกัน การผิดสัญญาวงหนึ่งวงใดไม่เป็นเหตุให้ผิดสัญญาอีกวงหนึ่งด้วย โจทก์จึงสามารถแยกฟ้องจำเลยได้ตามข้อหาของการผิดสัญญาเป็นสองคดี เมื่อจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันสำหรับการเล่นแชร์แต่ละวงมีจำนวนไม่เกิน 200,000 บาท จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3026/2565
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีแชร์: รัฐเท่านั้นเป็นผู้เสียหาย ผู้เสียหายรายบุคคลไม่มีอำนาจฟ้อง
การประกอบธุรกิจเป็นนายทุนวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ นอกจากจะมีผลกระทบต่อการออมของประชาชนแล้วยังกระทบต่อการระดมเงินออมของสถาบันการเงินที่ทางราชการสนับสนุนและรับผิดชอบ ทำให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของรัฐให้เสียหาย ความผิดตาม พ.ร.บ.การเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 จึงเป็นความผิดที่รัฐเท่านั้นเป็นผู้เสียหาย ดังนั้น เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือพนักงานอัยการเท่านั้นที่มีสิทธิฟ้อง โจทก์เป็นราษฎรจึงไม่มีอำนาจฟ้อง