คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คนขับ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7728-7729/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของเจ้าของรถที่ให้เช่ารถพร้อมคนขับแก่ตัวแทน และการละเมิดของคนขับ
ลูกหนี้ซึ่งได้รับอนุญาตให้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางให้บริษัทเขมจิราขนส่ง จำกัด เช่ารถบรรทุกน้ำมันคันเกิดเหตุโดยมีชื่อและเครื่องหมายของลูกหนี้อยู่ที่รถ แล้วนำไปบรรทุกน้ำมันส่งให้แก่ลูกค้าทั่วราชอาณาจักร ถือได้ว่าบริษัทดังกล่าวเป็นตัวแทนของลูกหนี้ในการขนส่งน้ำมัน เมื่อผู้ขับรถบรรทุกน้ำมันซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัทดังกล่าวได้กระทำละเมิดต่อเจ้าหนี้ทั้งสองในทางการที่จ้าง ลูกหนี้ย่อมต้องรับผิดในผลแห่งการละเมิดที่ลูกจ้างของตัวแทนได้กระทำไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 425, 427, 820

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 812/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันของเจ้าของรถแท็กซี่ต่อการกระทำละเมิดของคนขับที่ได้รับอนุญาตให้เช่ารถและวิ่งรับส่งผู้โดยสารเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
จำเลยที่ 2 เป็น เจ้าของรถแท็กซี่คันเกิดเหตุ ได้นำรถแท็กซี่ไปเข้าเป็นสมาชิกในสหกรณ์แท็กซี่ก่อนแล้วให้จำเลยที่ 1 นำออกไปวิ่งรับส่งคนโดยสารเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน จำเลยที่ 1 จึงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 2จำเลยที่ 2 ย่อมต้องร่วมรับผิดในการทำละเมิดของจำเลยที่ 1 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1071/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของเจ้าของรถและผู้ประกอบการเดินรถจากการกระทำของคนขับรถรับจ้าง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของรถยนต์เก๋งรับจ้างสาธารณะ คันหมายเลขทะเบียน 1 ท-3725 และนำไปวิ่งร่วมกับจำเลยที่ 3 โดยจำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้ว่าจ้างให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับขี่รถยนต์รับจ้างสาธารณะคันดังกล่าวเป็นประจำ หรือจำเลยที่ 3 ยอมให้จำเลยที่1 เชิดจำเลยที่ 3 ออกแสดงเป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1โดยการขับรถยนต์สาธารณะคันดังกล่าว ซึ่งมีตรา หรือเครื่องหมายอันเป็นสัญญลักษณ์ของจำเลยที่ 3 ติดอยู่ที่ประตูด้านหลังของรถยนต์คันดังกล่าวและยังบรรยายฟ้องต่อไปอีกว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 มีผลประโยชน์ร่วมกันในการใช้รถยนต์คันดังกล่าวรับจ้างขนส่งผู้โดยสาร จำเลยที่2 จึงต้อง ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 3 ด้วยแสดงให้เห็นว่านอกจากโจทก์ฟ้อง ขอให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 รับผิดฐานนายจ้างของจำเลยที่ 1 แล้ว โจทก์ยังฟ้องขอให้จำเลยที่ 3 รับผิดในฐานะจำเลยที่ 3 เชิดให้ จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 3 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2399/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าเสียหายจากเจ้าของรถ กรณีคนขับรถทำละเมิด จำเป็นต้องแสดงความสัมพันธ์ระหว่างคนขับกับเจ้าของรถ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า หญิงไม่ทราบชื่อขับรถยนต์ของจำเลยชนโจทก์โดยประมาทเลินเล่อ ทำให้โจทก์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขอให้จำเลยร่วมรับผิดกับหญิงไม่ทราบชื่อใช้ค่าเสียหายให้โจทก์โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าหญิงไม่ทราบชื่อนั้นมีฐานะความสัมพันธ์กับจำเลยอย่างไร เช่นมีฐานะเป็นลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยและกระทำไปในทางการที่จ้างหรือในกิจการแทนจำเลยดังนี้ เป็นฟ้องที่ไม่แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดเจ้าของรถยนต์: การพิสูจน์การครอบครองและการประมาทของคนขับ
จำเลยเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ชนกัน จำเลยไม่ใช่นายจ้างของคนขับรถ ไม่ได้ความว่าจำเลยครอบครองรถยนต์ จำเลยไม่ต้องรับผิดตาม มาตรา 437 ผู้รับประกันภัยค้ำจุนของจำเลยก็ไม่ต้องรับผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1943/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขฟ้องผิดพลาดเกี่ยวกับชื่อคนขับ และสิทธิค่าขาดไร้อุปการะของผู้เสียหาย
เดิมโจทก์บรรยายฟ้องว่า รถประจำทางของบริษัทจำเลยคันที่ชนบุตรโจทก์มี ด.เป็นคนขับ ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งหลังจากวันชี้สองสถานแล้ว โจทก์ขอแก้ฟ้องว่า คนขับรถของบริษัทจำเลยชื่อ จ. อ้างเหตุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกชื่อสับกันไป เพราะมีรถชนกันสองสายในเวลาใกล้เคียงกันดังนี้ เมื่อตามคำให้การจำเลยมิได้ปฏิเสธว่า ด.มิใช่ลูกจ้างจำเลย คงอ้างแต่เพียงว่าคนขับรถของจำเลยมิได้เป็นฝ่ายประมาท การที่โจทก์ระบุชื่อคนขับรถของจำเลยผิดพลาดไปด้วยเหตุดังกล่าว แล้วมาแก้ไขให้ถูกต้องภายหลังเป็นเรื่องแก้ไขความผิดพลาดเล็กน้อย แม้จะเป็นภายหลังกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180ศาลก็มีอำนาจอนุญาตให้โจทก์แก้ไขให้ถูกต้องได้
บุตรโจทก์ถึงแก่ความตายเพราะการกระทำละเมิด โจทก์ชอบที่จะได้รับค่าขาดไร้อุปการะทั้งในปัจจุบันและในอนาคตโดยผลแห่งกฎหมาย ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 443 วรรค 3 ประกอบด้วยมาตรา 1535 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ไม่ต้องพิจารณาว่าขณะเกิดเหตุผู้ตายได้อุปการะโจทก์จริงหรือไม่ และในอนาคตผู้ตาย จะอุปการะโจทก์หรือไม่(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1648/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 332/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 608 และ 634 แม้คนขับไม่ใช่ลูกจ้าง
จำเลยที่ 3 เป็นห้างหุ้นส่วนประกอบการเดินรถยนต์ขนส่งคนโดยสาร จำเลยที่ 2 ได้นำรถคันเกิดเหตุเข้าวิ่งรับส่งคนโดยสารในเครือของจำเลยที่ 3 โดยจำเลยที่ 3 หักรายได้จากค่าโดยสารที่จำเลยที่ 2 ได้รับไป 10 เปอร์เซ็นต์ 15 วัน คิดกันครั้งหนึ่ง ในวันเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 มาขับรถดังกล่าวแทนคนขับประจำรถซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากจำเลยที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 2 - 3 เป็นผู้ขนส่งคนโดยสาร เพื่อบำเหน็จเป็นทางค้าปกติของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 608 และเหตุที่โจทก์ได้รับความเสียหายนั้นไม่ได้เกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือความผิดของโจทก์แต่ประการใด จำเลยที่ 2 - 3 จึงต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 634 แม้จำเลยที่ 1 จะไม่ใช่ลูกจ้างของจำเลยที่ 2 - 3 ก็ตาม จำเลยที่ 2 - 3 จะอ้างเหตุไม่ต้องรับผิดหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 332/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งต่อความเสียหายของผูโดยสาร แม้คนขับไม่ใช่ลูกจ้าง
จำเลยที่ 3 เป็นห้างหุ้นส่วนประกอบการเดินรถยนต์ขนส่งคนโดยสารจำเลยที่ 2 ได้นำรถคันเกิดเหตุเข้าวิ่งรับส่งคนโดยสารในเครือของจำเลยที่ 3 โดยจำเลยที่ 3 หักรายได้จากค่าโดยสารที่จำเลยที่ 2 ได้รับไป 10 เปอร์เซ็นต์ 15 วันคิดกันครั้งหนึ่งในวันเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 มาขับรถดังกล่าวแทนคนขับประจำรถซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากจำเลยที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 2-3 เป็นผู้ขนส่งคนโดยสารเพื่อบำเหน็จเป็นทางค้าปกติของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 608 และเหตุที่โจทก์ได้รับความเสียหายนั้นไม่ได้เกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือความผิดของโจทก์แต่ประการใดจำเลยที่ 2-3 จึงต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 634 แม้จำเลยที่ 1 จะไม่ใช่ลูกจ้างของจำเลยที่ 2-3 ก็ตามจำเลยที่ 2-3 จะอ้างเหตุไม่ต้องรับผิดหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5896/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันของเจ้าของรถแท็กซี่และสหกรณ์จากการกระทำละเมิดของคนขับ
สัญญาเช่าข้อ 7 ระบุว่า สมาชิกต้องไม่นำรถยนต์ไปให้ผู้อื่นขับขี่เป็นอันขาด แสดงว่าจำเลยที่ 2 ทราบแต่แรกว่าไม่สามารถนำรถของตนให้ผู้อื่นหรือจำเลยที่ 1 เช่า สัญญาดังกล่าวนี้จึงเป็นการทำขึ้นเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการนำรถออกรับจ้างเท่านั้น เมื่อจำเลยร่วมที่ 2 กับจำเลยที่ 2 ทำสัญญายอมผูกพันให้จำเลยร่วมที่ 2 ใช้รอยตราหรือเครื่องหมายและคำว่า "สหกรณ์แท็กซี่รวมมิตร จก" ไว้ที่ด้านข้างของรถแท็กซี่เพื่อออกแล่นรับผู้โดยสารในนามของจำเลยที่ 2 โดยเปิดเผย จำเลยร่วมที่ 2 เป็นสมาชิกของจำเลยที่ 2 การนำรถแท็กซี่เข้าร่วมเป็นกิจการและตรงตามวัตถุประสงค์ของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 จึงได้ผลประโยชน์จากการที่จำเลยที่ 1 ขับรถแท็กซี่ที่มีตราของจำเลยที่ 2 ออกแล่นรับจ้าง จำเลยร่วมที่ 2 เจ้าของรถย่อมต้องได้รับผลประโยชน์ร่วมกับจำเลยที่ 2 ได้เชิดให้จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทน จำเลยร่วมที่ 2 และจำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดในผลแห่งการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 ด้วยเช่นกัน