พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 127/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขออุทธรณ์ค่าธรรมเนียมศาลในฐานะคนยากจน จำเป็นต้องมีพยานหลักฐานใหม่ที่ต่างจากเดิม
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยแล้วเห็นว่า จำเลยมีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งแม้หลักทรัพย์ดังกล่าวจะติดจำนองอยู่แก่ธนาคารและจำเลยยังไม่มีเงินไถ่ถอน ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนยากจนที่ไม่อาจเสียค่าธรรมเนียมศาลได้ จำเลยมิได้อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว กลับยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเพื่อขอให้ศาลอนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าเป็นคนยากจน แต่ตามคำร้องที่ขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนพยานหลักฐานใหม่ไม่ปรากฏว่าเหตุที่จำเลยอ้างตามคำร้องเป็นเหตุอื่นนอกเหนือไปจากที่เคยอ้างไว้เดิม ตามพฤติการณ์ย่อมเป็นที่เห็นได้อยู่ในตัวว่าจำเลยไม่มีพยานหลักฐานใหม่เพิ่มเติมไปจากที่ศาลชั้นต้นเคยวินิจฉัยแล้ว ดังนั้น ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องขอให้พิจารณาคำขอใหม่ของจำเลยนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4713/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายเวลาวางค่าฤชาธรรมเนียม: ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากผู้ร้องไม่ยากจน และเป็นการประวิงคดี
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 กำหนดเวลาให้ผู้ร้องวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมถึง 7 วัน ทั้งศาลอุทธรณ์ภาค 1 ฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติว่าผู้ร้องไม่ใช่คนยากจนโดยไม่อนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์แล้ว การที่ผู้ร้องกลับมาขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมต่อศาลชั้นต้นว่า ผู้ร้องเป็นคนยากจน ระยะเวลาที่กำหนดให้ไม่เพียงพอ จึงมีลักษณะเป็นการประวิงคดีถือไม่ได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษที่จะขอให้ขยายระยะเวลาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไต่สวนคำร้องขอความช่วยเหลือทางกฎหมายและการไม่รับอุทธรณ์จากฐานะยากจน
ในการไต่สวนคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยที่ 1 ที่ยื่นครั้งแรก ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยที่ 1 มิใช่เป็นคนยากจน พอมีเงินเสียค่าธรรมเนียมศาลได้ จำเลยที่ 1 มิได้อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น คงยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยที่ 1 นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าเป็นคนยากจน แต่ข้ออ้างที่ขอให้ไต่สวนใหม่ว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนยากจนนั้น ปรากฏในคำร้องว่าเป็นเหตุอันเดียวกับที่ได้อ้างและศาลชั้นต้นไต่สวนไว้เดิมแล้ว ไม่มีเหตุที่พอจะหักล้างคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นได้ ถึงแม้จำเลยที่ 1 จะมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมอื่นใดก็ไม่พอที่จะแสดงให้เห็นฐานะของจำเลยที่ 1 นอกเหนือไปจากเดิมที่ศาลชั้นต้นได้มีคำวินิจฉัยไว้แล้ว จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ 1 แล้วมีคำสั่งใหม่
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ที่ขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีคำสั่งว่าที่ศาลชั้นต้นยกคำร้องและไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ชอบแล้ว เป็นเรื่องต่อเนื่องกันกับคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 2 ซึ่งยกอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ที่ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของจำเลยที่ 1 ในชั้นอุทธรณ์ใหม่ และเป็นเรื่องที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 สั่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 ในฐานะเป็นเรื่องที่อยู่ในกระบวนพิจารณาในชั้นศาลอุทธรณ์ภาค 2 โดยเฉพาะ ศาลฎีกาไม่พึงก้าวล่วงเข้าไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ภาค 2 ดังกล่าว
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ที่ขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีคำสั่งว่าที่ศาลชั้นต้นยกคำร้องและไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ชอบแล้ว เป็นเรื่องต่อเนื่องกันกับคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 2 ซึ่งยกอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ที่ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของจำเลยที่ 1 ในชั้นอุทธรณ์ใหม่ และเป็นเรื่องที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 สั่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 ในฐานะเป็นเรื่องที่อยู่ในกระบวนพิจารณาในชั้นศาลอุทธรณ์ภาค 2 โดยเฉพาะ ศาลฎีกาไม่พึงก้าวล่วงเข้าไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ภาค 2 ดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้ดำเนินคดีโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในฐานะคนยากจน และการพิจารณาคำร้องขอพิจารณาคำขอใหม่
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ผู้ขออาจอุทธรณ์คำสั่งนั้นไปยังศาลอุทธรณ์ได้ภายในกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันมีคำสั่ง โดยยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น
แม้ผู้ขอจะไม่อุทธรณ์คำสั่งนั้น. ก็ยังอาจยื่นคำร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่ เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจนได้ (อ้างฎีกาที่ 1416/2506)
หากศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องดังกล่าวโดยไม่อนุญาตให้นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมย่อมอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติว่า คำสั่งศาลชั้นต้นเช่นว่านี้ให้เป็นที่สุด
การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นในกรณีนี้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการที่ผู้ขอร้องว่าเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมจึงไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
แม้ผู้ขอจะไม่อุทธรณ์คำสั่งนั้น. ก็ยังอาจยื่นคำร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่ เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจนได้ (อ้างฎีกาที่ 1416/2506)
หากศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องดังกล่าวโดยไม่อนุญาตให้นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมย่อมอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติว่า คำสั่งศาลชั้นต้นเช่นว่านี้ให้เป็นที่สุด
การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นในกรณีนี้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการที่ผู้ขอร้องว่าเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมจึงไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้ดำเนินคดีโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในฐานะคนยากจน และสิทธิในการขอพิจารณาคำขอใหม่
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา. ผู้ขออาจอุทธรณ์คำสั่งนั้นไปยังศาลอุทธรณ์ได้ภายในกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันมีคำสั่ง โดยยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น.
แม้ผู้ขอจะไม่อุทธรณ์คำสั่งนั้น. ก็ยังอาจยื่นคำร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่ เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจนได้ (อ้างฎีกาที่ 1416/2506).
หากศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องดังกล่าวโดยไม่อนุญาตให้นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติม. ย่อมอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติว่า คำสั่งศาลชั้นต้นเช่นว่านี้ให้เป็นที่สุด.
การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นในกรณีนี้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการที่ผู้ขอร้องว่าเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียม. จึงไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม.
แม้ผู้ขอจะไม่อุทธรณ์คำสั่งนั้น. ก็ยังอาจยื่นคำร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่ เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจนได้ (อ้างฎีกาที่ 1416/2506).
หากศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องดังกล่าวโดยไม่อนุญาตให้นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติม. ย่อมอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติว่า คำสั่งศาลชั้นต้นเช่นว่านี้ให้เป็นที่สุด.
การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นในกรณีนี้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการที่ผู้ขอร้องว่าเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียม. จึงไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม.