พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6963/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานการครอบครองที่ดินจากยึดถือแทนเป็นการครอบครองเพื่อตนเอง มีผลต่อสิทธิการครอบครอง
เมื่อปรากฏตามคำฟ้องของโจทก์ว่า โจทก์อ้างสิทธิในการขอเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งจำเลยที่ 2ได้ซื้อมาจากจำเลยที่ 1 ก่อนขายให้แก่จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 103 ทับที่ดินที่โจทก์ครอบครองบางส่วนต่อมาจำเลยที่ 1 ขายที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าวให้แก่จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ก็ได้ขอทำการแบ่งแยกที่ดินดังกล่าวออกเป็น 2 แปลง โดยแบ่งออกมาตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 636/103 อีก 1 ฉบับซึ่งก็ยังคงทับที่ดินพิพาทบางส่วนที่โจทก์ครอบครองอันเป็นการมิชอบด้วยกฎหมายโดยคำฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวอ้างตอนหนึ่งตอนใดให้เห็นว่า ที่ดินบางส่วนตามคำฟ้องของโจทก์นั้น โจทก์ได้สิทธิครอบครองเนื่องจากโจทก์ได้เปลี่ยนลักษณะการยึดถือครอบครองจากการยึดถือครอบครองที่ดินที่พิพาทบางส่วนแทนจำเลยที่ 2 มาเป็นแย่งการครอบครองจากจำเลยที่ 2 ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ที่ดินพิพาทส่วนหนึ่งจำเลยที่ 2 ให้โจทก์ยึดถือแทน การที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 เป็นคดีนี้เท่ากับโจทก์ได้แสดงเจตนาเปลี่ยนการยึดถือครอบครองที่ดินแทนจำเลยที่ 2 มาเป็นการยึดถือเพื่อตนอันเป็นการแย่งการครอบครอง จำเลยที่ 2 มิได้ฟ้องเรียกคืนภายใน 1 ปีนับแต่วันที่ถูกแย่งการครอบครอง โจทก์จึงเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท จึงเป็นการวินิจฉัยนอกเหนือไปจากประเด็นที่โจทก์กล่าวอ้างไว้ในคำฟ้อง ทั้งมิใช่ปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงเป็นการมิชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองทรัพย์มรดก: การครอบครองเพื่อตนและการสิ้นสิทธิเรียกร้องมรดกเมื่อล่าช้า
โจทก์ที่2เป็นผู้ครอบครองทรัพย์มรดกและไม่ปรากฏว่ามีทายาทคนใดแสดงตนเข้าครอบครองโดยให้โจทก์ที่2ครอบครองแทนจึงถือได้ว่าโจทก์ที่2ครอบครองเพื่อตนช่วงที่โจทก์ที่2ครอบครองไม่มีทายาทมาแสดงสิทธิขอรับมรดกตามสิทธิเลยจำเลยทั้งห้าเพิ่งยื่นคำร้องขอรับมรดกหลังจากเจ้ามรดกถึงแก่กรรมไปแล้วเป็นเวลาเกินกว่า10ปีจำเลยทั้งห้าย่อมสิ้นสิทธิเรียกร้องเอามรดกจากโจทก์ที่2ซึ่งเป็นทายาทด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1754วรรคสี่โจทก์ที่2จึงได้สิทธิครอบครองที่พิพาทแต่เพียงผู้เดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์: การสละการครอบครองเดิมและการครอบครองเพื่อตนเองทำให้เกิดสิทธิในที่ดิน
ข้อที่ว่า ห. ได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์หรือไม่จำเลยให้การว่าพินัยกรรมที่โจทก์นำมาฟ้องนั้นจะเป็นเอกสารที่มีอยู่จริงหรือไม่ สมบูรณ์ถูกต้องแท้จริงและมีผลบังคับได้หรือไม่จำเลย ไม่ทราบและไม่รับรอง คำให้การของจำเลยดังกล่าว ถือไม่ได้ว่าจำเลย ให้การปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์โดยชัดแจ้งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 177 วรรคสอง ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ตามฟ้องว่า ห. ได้ทำพินัยกรรมยกบ้านและที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ เมื่อปี 2513 ห. ทำพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองยกที่ดินพิพาทให้โจทก์บุตรผู้เยาว์ของ ส.โดยให้ส.เป็นผู้จัดการมรดกห.ผู้ทำพินัยกรรมถึงแก่ความตายเมื่อปี 2514 หลังจากนั้นประมาณ 1 ปี ส.ไปขอรับพินัยกรรมจากอำเภอ ปรากฎว่ามีผู้แอบอ้างชื่อ ส. รับพินัยกรรมไปก่อนแล้ว แต่ ส. ก็มิได้ไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อติดตามพินัยกรรมที่หายไป ส.และโจทก์คง ปล่อยให้ ป. และผ.อยู่ในบ้านและที่ดินพิพาทตลอดมา โดยมิได้ทักท้วงจนผ. ถึงแก่ความตายเมื่อปี 2525 หลังจากนั้นโจทก์ก็ปล่อยให้ ป. อยู่ในบ้านและที่ดินพิพาทต่อมาจนกระทั่งเกิดเหตุพิพาทคดีนี้ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าโจทก์สละการครอบครองบ้านและ ที่ดินพิพาทแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2374/2564
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองทรัพย์สินโดยการยกให้และครอบครองเพื่อตน มิใช่การครอบครองทรัพย์มรดกที่ยังไม่ได้แบ่งปัน คดีไม่ขาดอายุความ
ก่อนผู้ตายถึงแก่ความตายได้แบ่งที่ดินให้แก่โจทก์ที่ 2 และที่ 3 บางส่วน และยกที่ดินพิพาทให้แก่นาย ส. หลังจากนั้นนาย ส. ได้เข้าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อมาอย่างเป็นเจ้าของโดยที่ทายาทอื่นของผู้ตายไม่เคยเข้ามาเกี่ยวข้อง การครอบครองที่ดินพิพาทของนาย ส. และจำเลยทั้งแปดซึ่งเป็นทายาทของนาย ส. จึงเป็นการครอบครองเพื่อตน มิใช่เป็นการครอบครองแทนทายาทอื่น กรณีมิใช่การครอบครองทรัพย์มรดกที่ยังไม่ได้แบ่งปันกัน สำหรับปัญหาตามฎีกาที่ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่นั้น เมื่อนาย ส. กับจำเลยทั้งแปดครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทอย่างเป็นเจ้าของโดยการยกให้จากผู้ตายมิได้เป็นการครอบครองแทนทายาทอื่นแล้ว จึงมิใช่เป็นกรณีที่ทายาทครอบครองทรัพย์มรดกที่ยังไม่ได้แบ่งปัน กรณีจึงไม่มีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่า คดีโจทก์ขาดอายุความมรดกหรือไม่