คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความต่อเนื่อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 27 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5302/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ตัวผู้กระทำผิดจากพยานหลักฐาน การยืนยันตัวผู้เสียหาย และความต่อเนื่องของการกระทำผิด
ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายรู้จักจำเลย เคยพูดกับจำเลย จำเลยเคยมาขอน้ำดื่มที่บ้านพักผู้เสียหาย และนับแต่จำเลยเข้ามารัดคอผู้เสียหายจนกระทั่งลากคอไปบริเวณลานข้าวเปลือกแล้วเดินหนีใช้เวลาประมาณ 20 นาที อันเป็นระยะเวลานานพอที่ผู้เสียหายจะจำหน้าจำเลยได้เพราะจำเลยได้กระทำผิดในลักษณะประชิดตัวผู้เสียหายโดยตลอดแม้ผู้เสียหายเป็นคนสายตาสั้นต้องสวมแว่นตาก็หาเป็นเหตุให้ผู้เสียหายจำจำเลยผิดคนไปได้ไม่ ทั้งขณะเกิดเหตุจำเลยได้พูดขู่มิให้ผู้เสียหายส่งเสียงดังมิฉะนั้นจะใช้มีดแทง ย่อมทำให้ผู้เสียหายจำเสียงพูดของจำเลยได้ และตอนผู้เสียหายไปแจ้งความก็ระบุว่ารู้จักตัวจำเลยโดยเป็นคนงานเก็บขยะของสุขาภิบาลอำเภอโพธิ์ทอง กับได้บอกลักษณะรูปร่างของจำเลยว่ารูปร่างเตี้ย นอกจากนี้เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจนำตัวจำเลยกับพวกรวม5 คน ซึ่งเป็นคนงานเก็บขยะไปให้ผู้เสียหายชี้ตัว ผู้เสียหายก็ชี้ว่าจำเลยเป็นคนที่ทำร้ายผู้เสียหายโดยไม่ลังเลใจ เมื่อผู้เสียหายไม่มีสาเหตุกับจำเลยจึงไม่มีเหตุจะระแวงว่าผู้เสียหายกลั่นแกล้งปรักปรำจำเลยให้ได้รับโทษแต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่ผู้เสียหายอ้างว่าจำเลยยอมรับผิดและจะให้ค่าเสียหายจำนวน 20,000 บาท นั้น แม้พยานโจทก์จะเบิกความไม่ตรงกับผู้เสียหายก็ไม่เป็นข้อสาระสำคัญ เพราะการเจรจาจะชดใช้ค่าเสียหายให้นั้นเป็นเรื่องที่คู่กรณีพยายามจะออมชอมให้ยุติโดยความพอใจของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น พยานหลักฐานของโจทก์จึงมีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่กระทำความผิดตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1191/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้ายต่อเนื่องในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย และการไม่มีสิทธิของบุคคลที่สามในการเข้าร่วมเป็นโจทก์
พวกโจทก์ร่วมและพวกจำเลยต่างสมัครใจเข้าทำร้ายซึ่งกันและกันในทันทีทันใด โดยมิได้นัดหมายว่าผู้ใดจะกระทำการใด ทั้งไม่ปรากฏว่าพวกจำเลยเตรียมอาวุธมาแต่แรกเพื่อจะก่อเหตุ การที่จำเลยที่ 2ใช้มีดแทงฆ่าผู้ตายและจำเลยที่ 4 ใช้มีดแทงพยายามฆ่าโจทก์ร่วมที่ 2จำเลยที่ 2 จึงมีความผิดฐานฆ่าผู้ตาย และจำเลยที่ 4 มีความผิดฐานพยายามฆ่าโจทก์ร่วมที่ 2 ส่วนจำเลยที่ 1 ที่ 3 มีเจตนาร่วมกับจำเลยที่ 2 ที่ 4 ทำร้ายพวกโจทก์ร่วมมาแต่ต้น จำเลยที่ 1 ที่ 3ย่อมมีความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 วรรคแรก การกระทำของจำเลยทั้งสี่ที่ได้ทำร้ายพวกโจทก์ร่วมนั้นก็โดยมีเจตนาที่จะทำร้ายบุคคลดังกล่าวทุกคนไม่ได้แบ่งแยกว่าเป็นใคร ลักษณะของเจตนากระทำความผิดจึงเป็นอันเดียว เกิดขึ้นในวาระเดียวกันและต่อเนื่องกันตลอดแม้กระทำหลายครั้งต่อหลายบุคคลก็อยู่ภายในเจตนาเดียวกันนั้นมิใช่หลายเจตนาการกระทำของจำเลยทั้งสี่จึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท จำเลยทั้งสี่ ผู้ตายและโจทก์ร่วมที่ 2 ที่ 3 สมัครใจวิวาททำร้ายซึ่งกันและกัน ผู้ตายจึงมิใช่ผู้เสียหาย โจทก์ร่วมที่ 1ซึ่งเป็นภริยาผู้ตาย และโจทก์ร่วมที่ 2 ที่ 3 จึงมิใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย ไม่มีสิทธิขอเข้าร่วมเป็นโจทก์จึงต้องยกคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ของโจทก์ร่วมทั้งสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2867/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมเอกสารราชการ: การพิจารณาความผิดหลายกรรมต่อเนื่อง
จำเลยปลอมบัตรนำนักทัศนาจรชาวต่างประเทศเข้าชมพระราชฐานขอสำนักพระราชวังจำนวน 4 ฉบับ ให้แก่ผู้มีชื่อในบัตร แม้บัตรแต่ละฉบับที่จำเลยทำปลอมขึ้นเป็นการออกให้ต่างบุคคลกัน และวันออกบัตรกับวันบัตรหมดอายุแตกต่างทั้ง 4 ฉบับ แต่เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยและยึดเอกสารต่าง ๆ ได้ในคราวเดียวกัน โดยโจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่าจำเลยได้ปลอมบัตรทั้ง 4 ฉบับต่างวันต่างเวลาและโดยมีเจตนาที่จะให้เกิดผลต่างกรรมกัน จึงต้องฟังว่าจำเลยกระทำเพียงกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2115/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความต่อเนื่องแห่งการกระทำทางเพศ: การพิจารณาเป็นกรรมเดียว แม้มีระยะทาง
จำเลยกระทำอนาจารโดยอุ้มผู้เสียหายเข้าไปในป่าแล้วกอดจูบผู้เสียหาย หลังจากนั้นได้อุ้มผู้เสียหายต่อเข้าไปอีกแล้วพยายามกระทำชำเราผู้เสียหาย แม้จะมีระยะทางห่างกันถึง 20 เส้น แต่ก็เป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกันโดย ความมุ่งหมายที่จะกระทำชำเราผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2115/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำอนาจารต่อเนื่องโดยเจตนาข่มขืน เป็นกรรมเดียวผิดหลายบท
การที่จำเลยกระทำอนาจารโดยอุ้มผู้เสียหายเข้าไปในป่าแล้วกอดจูบ ผู้เสียหาย หลังจากนั้นอุ้มผู้เสียหายต่อเข้าไปอีก แล้วพยายามกระทำชำเราผู้เสียหายแม้จะมีระยะทางห่างกันถึง 20 เส้นแต่ก็เป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกันโดยความมุ่งหมายที่จะกระทำชำเราผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2115/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความต่อเนื่องแห่งการกระทำทางเพศ: อนาจารและพยายามข่มขืนเป็นกรรมเดียว
จำเลยกระทำอนาจารโดยอุ้มผู้เสียหายเข้าไปในป่าแล้วกอดจูบ ผู้เสียหาย หลังจากนั้นได้อุ้มผู้เสียหายต่อ เข้าไปอีกแล้วพยายามกระทำชำเรา ผู้เสียหาย แม้จะมีระยะทางห่างกันถึง 20 เส้นแต่ก็เป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกันโดย ความมุ่งหมายที่จะกระทำชำเราผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อ กฎหมายหลายบท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2739/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำของลูกจ้าง และความต่อเนื่องของการกระทำละเมิด
ขณะเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 ลูกจ้างและผู้ขับรถของจำเลยที่ 3ไม่ได้เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ของจำเลยที่ 3 ด้วยตนเองแต่ได้มอบหมายให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้ขับขี่รถเพื่อนำไปเก็บ แม้จำเลยที่ 2 จะขับขี่ออกนอกเส้นทางหลังจากชนท้ายรถ ท. ต้องถือว่าจำเลยที่ 1 ให้จำเลยที่ 2 ขับรถแทนตนและอยู่ในความรับผิดชอบของจำเลยที่ 1 และถือว่าขณะเกิดเหตุเป็นการกระทำของลูกจ้างของจำเลยที่ 3 ในทางการที่จ้างจำเลยที่ 1 และที่ 3 ต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ในผลแห่งละเมิดที่จำเลยที่ 2 ได้ก่อให้เกิดขึ้นด้วย
เมื่อจำเลยที่ 2 ขับรถเฉี่ยวชนท้ายรถของ ท. โดยประมาทเลินเล่อแล้วหลบหนีไป ท. ได้ขับรถติดตามจำเลยที่ 2 ไปในทันทีทันใดเพื่อเจรจาทำความตกลงในเรื่องค่าเสียหายที่จำเลยที่ 2 ได้ก่อให้เกิดขึ้น แต่จำเลยที่ 2 ซึ่งขับรถหนีไปติดสัญญาณไฟแดงไม่ยอมลงจากรถมาเจรจาด้วย และขับรถจะหลบหนีต่อไป ท. จึงกระโดดขึ้นไปเกาะรถที่จำเลยที่ 2 ขับทางด้านขวาของคนขับ จำเลยที่ 2 จึงขับรถโดยกระชากอย่างแรงเป็นเหตุให้ ท. ตกลงมาสู่พื้นถนนแล้วถูกรถที่จำเลยที่ 2 ขับทับถึงแก่ความตายนั้น เป็น เหตุการณ์ที่ต่อเนื่องจากเหตุรถเฉี่ยวชนในตอนแรก ไม่อาจที่จะแยกการกระทำของจำเลยที่ 2 ออกจากกันได้ กรณีถือได้ว่าเป็นการกระทำอันเกี่ยวเนื่องมาจากการที่จำเลยที่ 1 ใช้ให้จำเลยที่ 2 ขับรถไปเก็บและอยู่ในทางการจ้าง ของจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 1 และที่ 3 ต้องร่วมรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต: พิจารณาความต่อเนื่องของการกระทำเป็นสำคัญ มิใช่จำนวนผู้เสียหาย
การได้รับอนุญาตให้จัดหางานนั้น เมื่อได้รับอนุญาตแล้วก็สามารถดำเนินการในการจัดหางานได้ตามเวลาที่กำหนด มิใช่ว่าเมื่อได้รับอนุญาตแล้วจะจัดหางานให้บุคคลเพียงคนเดียวหรือครั้งเดียวเท่านั้น การพิจารณาว่าจะมีการกระทำผิดฐานจัดหางานโดยมิได้รับอนุญาตหลายกรรมต่างกันหรือไม่นั้น จึงต้องพิจารณาว่าการจัดหางานนั้น ได้กระทำต่อเนื่องเป็นคราวเดียวกันหรือไม่ มิใช่พิจารณาว่าเป็นการจัดหางานให้แต่ละคนเป็นสำคัญ จำเลยจัดหางานให้ผู้เสียหายหลายคนในเวลาที่ต่างกัน แต่ก็เป็นเวลาที่ต่อเนื่องติดต่อเป็นคราวเดียวกัน มีเจตนาที่จะดำเนินการในการจัดหางานคราวเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียว แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้องที่ขอให้ลงโทษหลายกรรมก็เป็นเรื่องรับข้อเท็จจริงว่าได้เกิดมีหรือเป็นขึ้นตามฟ้องเท่านั้น หาใช่ว่าเมื่อจำเลยรับสารภาพแล้วจะต้องมีความผิดตามฟ้องเสมอไปไม่ การที่จำเลยจะมีความผิดตามฟ้องหรือไม่ และเป็นความผิดกรรมเดียวกันหรือไม่นั้นเป็นเรื่องของศาลที่จะปรับข้อเท็จจริงว่าจะเป็นความผิดกฎหมายใด อย่างไร ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 มิใช่จะต้องลงโทษตามที่โจทก์ขอมาเสมอไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1861/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีชั่วคราวหลังจำเลยรับสารภาพและขอเลื่อนอ่านคำพิพากษา ศาลมีอำนาจจำหน่ายคดีได้เพื่อความต่อเนื่อง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 14 บัญญัติให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวได้เฉพาะกรณีที่ศาลงดการไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณาเพราะจำเลยเป็นผู้วิกลจริตและไม่สามารถต่อสู้คดีได้
ในคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องและศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปนั้น ถือได้ว่าคดีเสร็จการพิจารณาแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นเห็นสมควรให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาไป ย่อมเป็นอำนาจทั่วไปของศาลที่จะสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวได้เพื่อให้คดีที่เสร็จการพิจารณาแล้วต้องเป็นคดีต่างพิจารณา เมื่อถึงวันเวลาที่นัดไว้ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจที่จะอ่านคำพิพากษาให้ดูความฟังได้โดยไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งในรายงานกระบวนพิจารณาให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 255/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปล้นทรัพย์และการตายของเหยื่อ การพิสูจน์ความต่อเนื่องของการกระทำผิดเพื่อลงโทษตามมาตรา 340 วรรคท้าย
คนร้าย ตี ถีบ เตะ เจ้าทรัพย์และยิงปืนขณะทำการปล้นทรัพย์ แล้วคุมตัวเจ้าทรัพย์ให้ไปส่งเมื่อถึงไร่ห่างบ้านเจ้าทรัพย์ประมาณ 40 เส้น คนร้ายยิงเจ้าทรัพย์ถึงแก่ความตายเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าเจ้าทรัพย์ มิได้ถูกจำเลยซึ่งเป็นคนร้ายกับพวกยิงตายในขณะปล้นแต่เพิ่งจะไป ถูกยิงตายต่างตำบลต่างอำเภอกับที่เกิดเหตุ ห่างไกลถึง 40 เส้น เช่นนี้ การที่เจ้าทรัพย์ถูกยิงตายนั้นมิใช่เป็นการต่อเนื่องกับการปล้น หรือเป็นผลซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมดาจากการปล้นทรัพย์การปล้นทรัพย์ ได้ขาดตอนไปแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่ ไม่ใช่วรรคท้าย
of 3