คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความปลอดภัยทางถนน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2289/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่รัฐในการดูแลรักษาความปลอดภัยทางถนน และการประเมินความประมาทของผู้ขับขี่
น.ขับรถบรรทุกของโจทก์ผู้เป็นนายจ้างบรรทุกลังคอนเทนเนอร์ของบริษัท ช.ซึ่งรวมกับความสูงของรถบรรทุกแล้ว สูง 4.90 เมตรมาตามถนนราชปรารถมุ่งหน้าไปรังสิต เมื่อจะลอดใต้สะพานลอยสำหรับให้คนข้ามถนนที่จำเลยสร้างขึ้นและติดป้ายแสดงความสูงว่า5 เมตร แต่ความจริงส่วนที่ใกล้เกาะกลางถนนมีความสูงจากพื้นถนน 4.90 เมตร น. ให้ ท. คนท้ายรถลงจากรถไปคอยดูว่ารถจะแล่นลอดใต้สะพานไปได้หรือไม่แล้ว น.ขับรถไปช้า ๆ ตามคำสั่งของ ท.เมื่อ ท.บอกให้หยุด น.ได้เหยียบห้ามล้อหยุดรถทันที แต่แรงเฉื่อยของสินค้าที่บรรทุกหนักทำให้รถแล่นไปอีกและส่วนสูงสุดของสินค้าเฉี่ยวชนคานสะพานลอยสินค้าที่โจทก์รับจ้างบรรทุกมาเสียหาย การกระทำดังกล่าวเป็นการใช้ความระมัดระวังแล้ว การที่จำเลยได้ทำการเสริมถนนให้เป็นหลังเต่าสูงขึ้นกว่าเดิมเพื่อป้องกันน้ำท่วมทำให้ความสูงของสะพานลอยน้อยกว่า 5 เมตร และจำเลยไม่ได้เปลี่ยนป้ายบอกความสูงของสะพานที่เกิดเหตุให้ตรงกับความเป็นจริง ทำให้ น.เชื่อว่าสะพานนั้นมีความสูง 5 เมตร ตามที่ปิดป้ายบอกไว้ เช่น สะพานลอย 6 สะพานที่ น.ขับลอดผ่านมาแล้ว การกระทำของจำเลยเป็นการประมาทเลินเล่อจำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ผู้รับช่วงสิทธิจากบริษัท ข.
การที่ น.มิได้ขับรถในช่องทางเดินรถด้านซ้ายซึ่งติดกับขอบทางเท้าแต่ขับคร่อมเส้นแบ่งครึ่งช่องทางเดินรถช่องซ้ายและช่องขวาและบรรทุกสินค้าสูงกว่า 3 เมตร จากพื้นถนนโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจร อันเป็นการฝ่าฝืนกฎกระทรวงมหาดไทยฉบับที่ 4(พ.ศ. 2522) ข้อ 1(3) ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 จนเป็นเหตุให้เกิดชนคานใต้สะพานลอยนั้นเป็นเพียงความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกซึ่งมิได้เป็นผลโดยตรงที่ก่อให้เกิดการละเมิดดังกล่าว และรถบรรทุกสิ่งของอาจจะบรรทุกสิ่งของสูงเกินกว่า 3 เมตร ได้หากได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ การที่โจทก์ใช้รถบรรทุกคอนเทนเนอร์สูงเกินกว่า 3 เมตร จึงมิได้เป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามของกฎหมายที่บัญญัติห้ามโดยเด็ดขาด โจทก์จึงมิได้ประมาทเลินเล่อแต่อย่างใด.(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2530 ทั้งสองวรรค)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2377/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจอดรถเสียบนทางเดินรถและความรับผิดต่อการชน การแสดงเครื่องหมายเพื่อความปลอดภัยทางถนน
จำเลยขับรถยนต์บรรทุกสินค้าล้อบรรทุกหินมาเต็มคันรถ คลัตช์รถเสียจะต้องจอดรถแม้ถนนบริเวณนั้นมีไหล่ทางแต่ปรากฏว่าไหล่ทางกว้างเพียง 1.40 เมตร หากจอดรถบนไหล่ทางไหล่ทางอาจทรุดได้ จึงเป็นกรณีจำเป็นที่จำเลยต้องจอดรถในทางเดินรถ จำเลยจอดรถไว้บนถนนด้านซ้าย ล้อรถด้านซ้ายอยู่บนขอบผิวจราจรพอดีผิวจราจรถนนกว้าง 6 เมตรตัวรถกว้าง 2.40 เมตร ทางด้านขวาของรถยังมีผิวจราจรเหลืออีก 3.60 เมตร เห็นว่าจำเลยได้จอดรถในลักษณะที่ไม่กีดขวางการจราจร ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา56 แล้ว แต่การที่จำเลยได้นำก้อนหินและกิ่งไม้มาวางไว้ด้านหลังรถและเมื่อถึงเวลากลางคืนจำเลยได้เปิดไฟหรี่หน้ารถและไฟท้ายรถไว้ มิใช่เป็นการแสดงเครื่องหมายหรือสัญญาณตามลักษณะที่ระบุในข้อ 1(1) และเงื่อนไขในข้อ 2 ข้อ 5แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 5(พ.ศ.2522) ออกตามความในพระราชบัญญัติ จราจรทางบก พ.ศ.2522 จำเลยต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติ จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 56 อันมีบทลงโทษตามมาตรา 152 ขณะเกิดเหตุจำเลยเปิดไฟไว้ท้ายรถ 3 ดวง สว่างมากมองเห็นได้ในระยะ 100 เมตร ย่อมทำให้ผู้ขับรถมาทางด้านหลังสามารถมองเห็นรถยนต์บรรทุกที่จำเลยจอดไว้ในระยะห่างเพียงพอที่ผู้นั้นจะหยุดรถหรือหลบหลีกไปได้แล้ว เป็นการ ป้องกันมิให้เกิดอันตรายขึ้นแก่บุคคลอื่นได้ไม่น้อยกว่าการแสดงเครื่องหมายตามลักษณะและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 ทั้งไม่ปรากฏว่าปกติในกรณีนี้ผู้ขับรถจะแสดงกันแต่เครื่องหมายตามลักษณะและเงื่อนไขในกฎกระทรวงเท่านั้น ถือว่าจำเลยได้ใช้ความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์แล้ว การที่มีคนขับรถจักรยานยนต์พุ่งเข้าชนรถยนต์บรรทุกที่จำเลยจอดไว้ เป็นเหตุให้คนขับและคนซ้อนท้ายถึงแก่ความตายไม่ได้เกิดจากการละเว้นการกระทำของจำเลย จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291