พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6666/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำให้เสียทรัพย์จากการเผารั้วไม้ไผ่: ความผิดฐานเดียวตาม ม.358 ไม่ใช่ความผิดหลายกระทง
จำเลยมีเจตนาจะทำลายรั้วไม้ไผ่ที่ปักติดเป็นแผงของผู้เสียหายโดยนำไปเผาให้ใช้การไม่ได้เท่านั้น การที่จำเลยดึงรั้วไม้ไผ่ของผู้เสียหายจำนวน 2 แผง แล้วนำไปเผาทำลายใกล้บริเวณรั้วนั้น จำเลยจึงมีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 358 เพียงบทเดียว มิใช่กระทำผิดหลายบท การเผาแผงไม้ไผ่เป็นการทำลายทรัพย์ของผู้เสียหายให้เสียหาย มิใช่จำเลยวางเพลิงเผารั้วบ้านของผู้เสียหายในขณะที่มีสภาพเป็นรั้วบ้านกั้นขอบเขตเป็นที่อยู่อาศัย จึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 217 อีกกระทงหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2729/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์: การกระทำความผิดฐานละเว้นหน้าที่โดยเจตนาทุจริต ไม่ถือเป็นความผิดหลายกรรม
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจประจำกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ตำแหน่งหัวหน้าเสมียนคดี มีหน้าที่เก็บรักษาของกลาง จำเลยตรวจรับกัญชาของกลางและลงลายมือชื่อในสำเนาบัญชีของกลางกับสำเนาหนังสือนำส่งของกลางของสถานีตำรวจภูธรอำเภอ ทับสะแก แต่ไม่ลงบัญชีของกลางในคดีอาญาของกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเป็นหลักฐานว่ามีการรับกัญชาของกลางรายนี้แล้ว ต่อมาจำเลยเบียดบังเอากัญชานั้นเป็นของตนหรือผู้อื่นโดยทุจริต การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 การที่จำเลยตรวจรับกัญชาของกลางไว้แล้วไม่นำลงบัญชีของกลางในคดีอาญา ก็โดยเจตนาที่จะเบียดบังเอากัญชานั้นเป็นของตนหรือผู้อื่นโดยทุจริต อันเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 ซึ่งเป็นบทเฉพาะแล้ว จึงไม่เป็นความผิดตามมาตรา 157 อีก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 229/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปล้นทรัพย์และฆ่าเพื่อหวังทรัพย์ ศาลฎีกาวินิจฉัยความผิดฐานเดียวและแก้ไขคำพิพากษาเรื่องการริบของกลาง
จำเลยกับพวกร่วมกันมีปืนพกเป็นอาวุธเข้าปล้นทรัพย์ของผู้เสียหายและเพื่อความสะดวกในการปล้นได้ใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงผู้เสียหายกับพวกถึงแก่ความตายโดยเจตนาฆ่าดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289, 340 วรรคท้าย ต้องลงโทษตามมาตรา 289 อันเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดและเมื่อเป็นความผิดตามมาตรา 289 แล้ว ก็ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 288 อีกบทหนึ่ง
อาวุธปืนของผู้ตายที่ถูกจำเลยกับพวกปล้นเอาไปและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเป็นของกลางนั้น เมื่อข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ความชัดว่าเป็นอาวุธปืนที่ไม่มีหมายเลขทะเบียนของเจ้าพนักงานเนื่องจากเลขทะเบียน ลบเลือนเช่นนี้ไม่ชอบที่ศาลจะสั่งริบ
อาวุธปืนของผู้ตายที่ถูกจำเลยกับพวกปล้นเอาไปและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเป็นของกลางนั้น เมื่อข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ความชัดว่าเป็นอาวุธปืนที่ไม่มีหมายเลขทะเบียนของเจ้าพนักงานเนื่องจากเลขทะเบียน ลบเลือนเช่นนี้ไม่ชอบที่ศาลจะสั่งริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2597/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพนักงานเบียดบังทรัพย์กับความผิดสนับสนุน: การลงโทษฐานเดียวตาม พ.ร.บ.พนักงานในองค์การ
คำฟ้องในตอนแรกกล่าวว่า ส. ซึ่งเป็นพนักงานขับรถยนต์ขององค์การ ร.ส.พ. ร่วมกับจำเลยและพวกลักเอาผ้าปูพื้นเต็นท์สนามของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาซึ่งอยู่ในความดูแลรับผิดชอบขององค์การ ร.ส.พ. และบรรทุกมาในรถที่ ส. ขับ ในตอนต่อไปกล่าวว่า การกระทำของ ส.ดังกล่าวเป็นการเบียดบังทรัพย์ที่อยู่ในความครอบครองขององค์การ ร.ส.พ.ในขณะที่ ส. มีหน้าที่จัดการและรักษาทรัพย์นี้ตามหน้าที่ไปเป็นประโยชน์ของตนและผู้อื่นโดยทุจริต จำเลยกับพวกเป็นผู้สนับสนุนการกระทำของ ส. เบียดบังเอาทรัพย์นั้นไป กรณีเป็นเรื่องที่โจทก์บรรยายฟ้องประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502มาตรา 4 ซึ่งมีอัตราโทษหนักนั่นเอง และในกรณีเช่นนี้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานสนับสนุนผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502เท่านั้น หาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ด้วยไม่