พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5788/2549
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษอาญาซ้ำ หากกระทำผิดใหม่ภายใน 5 ปีหลังพ้นโทษ แม้ความผิดไม่เหมือนเดิม
ตาม ป.อ. มาตรา 92 ไม่ได้บัญญัติว่า ความผิดครั้งหลังจะต้องเป็นความผิดอย่างเดียวกันกับความผิดครั้งแรก เมื่อจำเลยกระทำความผิดฐานมีอาวุธปืนและฐานพาอาวุธปืนเป็นคดีนี้ภายใน 5 ปีนับแต่วันพ้นโทษในคดีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย แม้ความผิดคดีนี้จะมิใช่ความผิดเดียวกันกับความผิดดังกล่าว ก็อยู่ในหลักเกณฑ์ตามกฎหมายที่ศาลจะเพิ่มโทษจำเลยหนึ่งในสามของโทษที่ศาลกำหนดสำหรับความผิดในคดีนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8299/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดหลายกรรม แม้ยึดของกลางพร้อมกัน ศาลต้องลงโทษปรับตามแต่ละความผิด
การมีไว้เพื่อขาย ซึ่งยาสูบที่ผลิตในต่างประเทศโดยมิได้ปิดแสตมป์ยาสูบ สุราต่างประเทศที่มิได้ปิดแสตมป์สุรา และสินค้าที่ยังมิได้เสียภาษีสรรพสามิต กับมีไพ่ไว้ในครอบครอง แม้จะยึดของกลางทั้งหมดได้ในคราวเดียวกัน แต่การกระทำผิดแต่ละข้อหาเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายต่างพระราชบัญญัติโดยมีเจตนาประสงค์ต่อผลแตกต่างกัน สามารถแยกการกระทำแต่ละความผิดได้จึงเป็นการกระทำความผิดหลายกรรม รวม 4 กระทง ไม่ใช่เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
พ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ.2509 มาตรา 50 พ.ร.บ.สุราพ.ศ.2493 มาตรา 33 พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 มาตรา 162และ พ.ร.บ.ไพ่ พ.ศ.2486 มาตรา 14 ทวิ กำหนดโทษปรับผู้กระทำผิดโดยมิได้มีข้อจำกัดว่าถ้ามีผู้ร่วมกันกระทำผิดหลายคนให้ปรับรวมกัน ศาลจึงต้องลงโทษปรับจำเลยทั้งห้าเรียงตามรายตัวบุคคลตาม ป.อ.มาตรา 31
พ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ.2509 มาตรา 50 พ.ร.บ.สุราพ.ศ.2493 มาตรา 33 พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 มาตรา 162และ พ.ร.บ.ไพ่ พ.ศ.2486 มาตรา 14 ทวิ กำหนดโทษปรับผู้กระทำผิดโดยมิได้มีข้อจำกัดว่าถ้ามีผู้ร่วมกันกระทำผิดหลายคนให้ปรับรวมกัน ศาลจึงต้องลงโทษปรับจำเลยทั้งห้าเรียงตามรายตัวบุคคลตาม ป.อ.มาตรา 31
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1346/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแยกฟ้องฐานครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายยาเสพติดเป็นกระทงความผิดต่างกัน
โจทก์บรรยายฟ้องเป็น2ตอนข้อก.บรรยายว่าจำเลยมีกัญชาจำนวน2ถุงกับอีก1กล่องน้ำหนัก67.8กรัมไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนกฎหมายและข้อข.บรรยายว่าตามวันเวลาดังกล่าวจำเลยได้จำหน่ายกัญชาให้แก่สายลับที่เข้าล่อซื้อจำนวน1ถุงน้ำหนัก21.8กรัมราคา400บาทอันเป็นยาเสพติดให้โทษส่วนหนึ่งที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายในข้อก.ความผิดฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและความผิดฐานจำหน่ายกัญชาเป็นความผิดต่างฐานกันการที่โจทก์แยกฟ้องเป็นข้อก.และข.จึงเห็นเจตนาของโจทก์ว่าขอให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องย่อมหมายความว่าได้กระทำผิดทั้ง2กรรมซึ่งเป็นความผิดต่างกันตามฟ้องจึงต้องลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3931/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน: การยิงต่อเนื่องโดยมีเจตนาฆ่าแต่ละบุคคล
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายทั้งสองและผู้ตายรวม 4 นัด นัดแรกยิงผู้เสียหายที่ 1 เพราะผู้เสียหายที่ 1 ต่อว่าจำเลยที่นำเอาอาวุธปืนออกมาขู่ ครั้นผู้เสียหายที่ 2 ส่งเสียงร้องหวีดเพราะตกใจที่เห็นจำเลยยิงผู้เสียหายที่ 1 จำเลยก็ยิงผู้เสียหายที่ 2 เป็นนัดที่ 2 เมื่อผู้ตายยกมือไหว้และขอร้องอย่ายิงจำเลยก็ยิงผู้ตายเป็นนัดที่ 3 ก่อนไปจำเลยเห็นผู้เสียหายที่ 2 ที่ถูกยิงยังไม่ตายจึงได้ยิงซ้ำอีก 1 นัดแสดงว่าการยิงปืนแต่ละนัดตามประสงค์และจุดมุ่งหมายของจำเลยได้แยกออกจากกันว่าการยิงนัดใดจำเลยยิงผู้เสียหายทั้งสองและผู้ตายคนใด เจตนาฆ่าจึงแยกออกจากกันได้เป็นการกระทำหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2092/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกัน: ครอบครองอาวุธปืนและพาอาวุธปืนในทางสาธารณะ
ความผิดข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและข้อหาพาอาวุธปืนไปตามถนนอันเป็นสาธารณะ มีการกระทำที่แยกจากกันเป็นแต่ละฐานความผิดได้โดยชัดเจน ไม่เกี่ยวเนื่องกันและเจตนาในการกระทำความผิดก็เป็นคนละอย่างแตกต่างกัน ความผิดทั้งสองข้อหาจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2028/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดหลายกรรมต่างกันจากการทำร้ายร่างกายผู้เสียหายหลายราย
จำเลยใช้ไขควงแทงผู้เสียหาย เมื่อ ป. เข้าช่วยเหลือขัดขวางจำเลยก็แทง ป. เป็นการกระทำคนละครั้ง เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3759/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลูกกัญชาและครอบครองกัญชาเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน หากไม่ปรากฏว่ากัญชาที่ครอบครองเป็นผลผลิตจากการปลูก
จำเลยปลูกกัญชาจำนวน 10 ต้น กับมีกัญชาไว้ในความครอบครองจำนวน 1 ถุง น้ำหนัก 1,100 กิโลกรัม โดยไม่ปรากฏว่ากัญชาที่จำเลยมีไว้ในครอบครองคือส่วนหนึ่งของผลผลิตซึ่งเกิดจากต้นกัญชาที่จำเลยปลูก จึงถือไม่ได้ว่าเป็นความผิดกรรมเดียวการกระทำของจำเลยเป็นความผิดสองกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2903/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องฐานกระทำผิดต่างจากที่ศาลพิจารณา การลงโทษฐานอื่นที่ไม่ตรงกับฟ้องเป็นโมฆะ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยบังอาจทำแบบพิมพ์อันเป็นเครื่องมือสำหรับปลอมเหรียญกระษาปณ์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 246 ทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยทำแบบพิมพ์อันเป็นเครื่องมือสำหรับปลอมเหรียญกระษาปณ์ได้ความเพียงว่าจำเลยมีเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมเงินตราไว้ในครอบครอง ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาจึงต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และข้อแตกต่างมิใช่เป็นเพียงรายละเอียดของการกระทำผิด แต่เป็นกรณีที่โจทก์บรรยายฟ้องถึงการกระทำคนละฐานความผิดกับที่ศาลพิจารณาได้ความ แม้ว่าการมีเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมเงินตราไว้ในครอบครองจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 246 ด้วย แต่ก็เป็นความผิดคนละฐานกับที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำ จึงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 246 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกัน: พรากผู้เยาว์และการพาไปเพื่อการอนาจาร แม้เกิดจากการกระทำครั้งเดียว
การกระทำครั้งเดียวคราวเดียว แม้จะมีเจตนาอย่างเดียวกันแต่ประสงค์ให้เกิดผลเป็นความผิดหลายฐาน ย่อมเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
การที่จำเลยพานางสาว บ. ไปเพื่อการอนาจาร ถือได้ว่า จำเลยมีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้แล้ว และการที่จำเลยพรากนางสาว บ. ผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดา จำเลยก็มีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้อีกฐานหนึ่งต่างหาก การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน หาใช่กรรมเดียวไม่
การที่จำเลยพานางสาว บ. ไปเพื่อการอนาจาร ถือได้ว่า จำเลยมีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้แล้ว และการที่จำเลยพรากนางสาว บ. ผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดา จำเลยก็มีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้อีกฐานหนึ่งต่างหาก การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน หาใช่กรรมเดียวไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1715/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษทางอาญาสำหรับความผิดหลายกรรมต่างกัน: การยิงผู้อื่นและขัดขวางการจับกุม
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138,140,288,289,80,90,91 ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้ใช้ปืนยิง อ.และพ. ซึ่งนั่งอยู่ด้วยกันก่อน อ.ถึงแก่ความตายส่วนพ. ได้รับอันตรายสาหัสครั้นเมื่อเจ้าพนักงานตำรวจผู้เห็นเหตุการณ์เข้าจับกุมจำเลยตามหน้าที่ จำเลยได้ยิงเจ้าพนักงานตำรวจผู้นั้นเพื่อขัดขวางการจับกุม จนเจ้าพนักงานตำรวจผู้นั้นได้รับอันตรายแก่กายการกระทำของจำเลยดังกล่าวจึงเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน กล่าวคือที่ยิง อ.และพ. นั้นเป็นกรรมหนึ่ง ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, และ 288 ประกอบด้วยมาตรา 80 และที่ยิงต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงานตำรวจนั้นเป็นอีกกรรมหนึ่ง เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138,140 และ 289ประกอบด้วยมาตรา 80 เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษ เฉพาะบทหนักอันเป็นการไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้เสียได้ โดยไม่ต้องมีคู่ความฝ่ายใดยกประเด็นข้อนี้ขึ้น ฎีกาด้วย