พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4906/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีข่มขืนที่ขาดความชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่มีคำร้องทุกข์ที่ถูกต้อง และความผิดเป็นเรื่องยอมความได้
โจทก์ฟ้องจำเลยฐานข่มขืนกระทำชำเราโดยมีหรือใช้อาวุธปืนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานข่มขืนกระทำชำเราตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคแรก ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเสียด้วย จึงเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคสอง โจทก์จะฎีกาในข้อหานี้หาได้ไม่ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคแรกเป็นความผิดอันยอมความได้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 281 พนักงานสอบสวนจะทำการสอบสวนได้ต่อเมื่อมีคำร้องทุกข์ตามระเบียบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 121 วรรคสอง แต่ปรากฏจากรายงานประจำวันรับแจ้งเป็นหลักฐานและคำเบิกความของพนักงานสอบสวนว่าผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ไว้ก่อนเพื่อเป็นหลักฐานเท่านั้น มิได้มอบคดีแต่อย่างใดการรับแจ้งความแม้จะมีคำว่าร้องทุกข์อยู่ด้วย ก็ไม่ถือว่าเป็นคำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(7) เพราะยังมิได้กระทำโดยเจตนาจะให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษ การสอบสวนความผิดฐานนี้จึงไม่ชอบ พนักงานอัยการไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดฐานนี้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคแรกเป็นความผิดอันยอมความได้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 281 พนักงานสอบสวนจะทำการสอบสวนได้ต่อเมื่อมีคำร้องทุกข์ตามระเบียบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 121 วรรคสอง แต่ปรากฏจากรายงานประจำวันรับแจ้งเป็นหลักฐานและคำเบิกความของพนักงานสอบสวนว่าผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ไว้ก่อนเพื่อเป็นหลักฐานเท่านั้น มิได้มอบคดีแต่อย่างใดการรับแจ้งความแม้จะมีคำว่าร้องทุกข์อยู่ด้วย ก็ไม่ถือว่าเป็นคำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(7) เพราะยังมิได้กระทำโดยเจตนาจะให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษ การสอบสวนความผิดฐานนี้จึงไม่ชอบ พนักงานอัยการไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดฐานนี้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3575/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนคำร้องทุกข์ของผู้เสียหายทำให้สิทธิในการฟ้องอาญาของโจทก์ระงับได้ หากเป็นความผิดที่ยอมความกันได้
ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์ แม้ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ถอนคำร้องทุกข์ แต่เมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคแรก และโจทก์มิได้ฎีกา ทั้งคดีมิได้เกิดต่อหน้าธารกำนัล ไม่เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตาย หรือมิได้เป็นการกระทำแก่บุคคลดังระบุไว้ในมาตรา 285 ย่อมเป็นความผิดอันยอมความกันได้ ตามมาตรา 281 คำร้องขอถอนคำร้องทุกข์จึงมีผลทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ระงับไป ศาลฎีกาพิพากษากลับให้จำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306-307/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานเอกสารต่างประเทศ, ความผิดยอมความได้, การพิสูจน์ความรู้ของจำเลยในคดีเครื่องหมายการค้า
อ้างต้นฉบับเอกสารภาษาต่างประเทศที่บุคคลภายนอกทำขึ้นทั้งฉบับ แต่แปลเป็นไทยเฉพาะส่วนที่ผู้อ้างต้องการก็รับฟังเป็นหลักฐาน ได้ ไม่จำต้องแปลทั้งฉบับ เพราะหากอีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่า มีข้อความอื่นในเอกสารเป็นประโยชน์แต่ตน ย่อมแสดงข้อความนั้นต่อศาลได้
ความผิดอันยอมความได้นั้น โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้ว เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 มิได้บัญญัติให้ต้องบรรยายมาด้วย เมื่อศาลพอใจฟ้องสั่งรับฟ้อง และโจทก์นำสืบว่ามีการร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็ลงโทษจำเลยได้
ความผิดอันยอมความได้นั้น โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้ว เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 มิได้บัญญัติให้ต้องบรรยายมาด้วย เมื่อศาลพอใจฟ้องสั่งรับฟ้อง และโจทก์นำสืบว่ามีการร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็ลงโทษจำเลยได้