พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องคดีอาญาเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งหมายเรียกจำเลย แม้จะอ้างความพลั้งเผลอ ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีได้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ประทับฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยไว้พิจารณาและมีคำสั่งให้โจทก์นำส่งหมายเรียกจำเลยมาให้การ ในวันเดียวกันกับวันนัดสืบพยานโจทก์โดยกำหนดให้โจทก์ นำส่งหมายภายใน 7 วัน หากไม่มีผู้รับหมายเรียกโดยชอบให้ปิดหมาย โจทก์ลงลายมือชื่อรับทราบคำสั่งศาลแล้ว เมื่อนับตั้งแต่วัน ฟังคำสั่งศาลชั้นต้น จนถึงวันที่ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดี โจทก์จากสารบบความ เป็นเวลานานถึง 48 วัน แสดงว่าโจทก์ เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ เพื่อการนั้นโดยชอบ จึงเป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) โจทก์ปล่อยปละละเลยไม่สนใจที่จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลจนศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี โจทก์จึงมายื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเพื่อขอให้ศาลชั้นต้นทบทวนคำสั่งจำหน่ายคดีแต่คำร้อง ของ โจทก์ดังกล่าวก็หาได้แสดงเหตุอันสมควรให้เห็นว่า กรณีมีพฤติการณ์พิเศษหรือเป็นกรณีที่มีเหตุ สุดวิสัยอย่างใดที่ทำให้โจทก์ไม่สามารถดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลชั้นต้นกำหนด กลับอ้างแต่เพียงความพลั้งเผลอหรือ หลงลืมของโจทก์เท่านั้น ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีโจทก์จากสารบบความจึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำขอรับชำระหนี้จากเจ้าหนี้ไม่มีประกันเป็นมีประกัน: ศาลอนุญาตได้หากเกิดจากความพลั้งเผลอ
ผู้ร้องโดย ธ.ผู้รับมอบอำนาจและส. ซึ่งผู้ร้องมอบหมายให้ไปให้ถ้อยคำต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โดยไม่ได้ปิดบังเรื่องการจำนองเป็นประกันหนี้ที่ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามคำพิพากษา หากผู้ร้องมีเจตนาที่จะปิดบังเพื่อเอาเปรียบเจ้าหนี้อื่น ผู้ร้องคงไม่ระบุหมายเลขคดีของคำพิพากษาในช่องหลักฐานประกอบหนี้ของคำขอรับชำระหนี้ เพราะจะปรากฏรายการจำนองทรัพย์ในคำพิพากษาและ ส. ก็คงจะไม่ให้ถ้อยคำชั้นสอบสวนคำขอรับชำระหนี้ว่าเป็นหนี้มีที่ดินจำนองเป็นประกันและคงจะไม่อ้างส่งต้นฉบับน.ส.3 ก. และสัญญาจำนองต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้ทำการสอบสวนถือว่าผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้อย่างเจ้าหนี้ไม่มีประกันเนื่องจากความพลั้งเผลอ สมควรอนุญาตให้ผู้ร้องแก้ไขข้อความในรายการแห่งคำขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 97
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำขอรับชำระหนี้จากเจ้าหนี้ไม่มีประกันเป็นเจ้าหนี้มีประกัน: ศาลอนุญาตได้หากเกิดจากความพลั้งเผลอ ไม่ได้มีเจตนาปกปิด
ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้อย่างเจ้าหนี้ไม่มีประกันด้วยความพลั้งเผลอ ไม่ได้มีเจตนาปกปิดเรื่องการจำนองเพื่อเอาเปรียบเจ้าหนี้อื่นเนื่องจากผู้ร้องได้ระบุหมายเลขคดีที่ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำนองมาในช่องหลักฐานประกอบหนี้ของคำขอรับชำระหนี้ซึ่งปรากฏรายการจำนองทรัพย์ในคำพิพากษาดังกล่าว และผู้ที่ผู้ร้องมอบหมายก็ได้ให้ถ้อยคำต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในชั้นสอบสวนว่า หนี้ของผู้ร้องเป็นหนี้มีประกัน และอ้างส่งต้นฉบับหนังสือรับรองการทำประโยชน์และสัญญาจำนองต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ สมควรอนุญาตให้ผู้ร้องแก้ไขข้อความในรายการแห่งคำขอรับชำระหนี้เป็นขอรับชำระหนี้อย่างเจ้าหนี้มีประกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1097/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำขอรับชำระหนี้หลังแบ่งทรัพย์สิน: ศาลอนุญาตได้หากมีเหตุผลสมควร และความพลั้งเผลอเป็นไปได้ในนิติบุคคล
การขอแก้ไขคำขอรับชำระหนี้มีบัญญัติไว้ในมาตรา 97 แห่งพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พ.ศ. 2483 ซึ่งบทบัญญัติในมาตราดังกล่าวมิได้กำหนดเวลาในการขอแก้ไขไว้เจ้าหนี้จึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอแก้ไขได้ไม่ว่าระยะเวลาใด ๆ แม้จะได้มีการแบ่งทรัพย์สินครั้งที่สุดแล้วก็ตาม ส่วนการที่ศาลจะอนุญาตให้แก้ไขได้หรือไม่นั้นย่อมขึ้นอยู่กับพฤติการณ์แห่งคดีเป็นราย ๆ ไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5975/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมอุทธรณ์และการวินิจฉัยคดีของผู้ไม่ระบุชื่อในคำฟ้องอุทธรณ์ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการไม่ระบุชื่อเป็นเพียงความพลั้งเผลอ
คำฟ้องอุทธรณ์ของผู้คัดค้านนอกจากจะมีเนื้อหาและเหตุผลคัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นของผู้คัดค้านที่ 2 แล้ว ในคำขอท้ายอุทธรณ์ก็มีข้อความที่ผู้คัดค้านทั้งสองขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นร่วมกันมา แสดงว่าผู้คัดค้านทั้งสองร่วมอุทธรณ์มาในฉบับเดียวกันแม้ผู้คัดค้านที่ 2 ไม่ได้ระบุชื่อในหัวข้อรายการแห่งคดีเพราะพลั้งเผลอ ก็ถือได้ว่าผู้คัดค้านที่ 2อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1868/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำขอรับชำระหนี้ล้มละลาย: เจตนาปกปิดหลักประกัน vs. ความพลั้งเผลอ
ผู้ร้องมอบอำนาจให้ ธ. เป็นผู้ดำเนินการแทนนับแต่การมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแพ่ง และการนำทรัพย์สินที่จำนองออกขายทอดตลาดตลอดจนการนำหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวมายื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ธ. จึงอยู่ในฐานะเป็นผู้รู้ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่าหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้สามัญหรือมีหลักประกันและในวันที่ธ. ไปให้ปากคำในชั้นสอบสวนเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็เป็นเวลาหลังจากที่ได้มีการขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองอันเป็นหลักประกันของหนี้รายนี้พฤติการณ์ดังกล่าวจึงต้องด้วยมาตรา 97 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายฯ โดยตรงผู้ร้องไม่อาจอ้างความพลั้งเผลอมาเป็นข้อแก้ตัวเพื่อหวังเอาประโยชน์จากหลักประกันต่อไปอีกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1868/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้ทราบดีว่ามีหลักประกัน แต่ยื่นขอรับชำระหนี้เป็นหนี้สามัญ ไม่อาจอ้างความพลั้งเผลอเพื่อเอาประโยชน์จากหลักประกันได้
ผู้ร้องมอบอำนาจให้ ธ. เป็นผู้ดำเนินการแทนนับแต่การมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแพ่ง และการนำทรัพย์สินที่จำนองออกขายทอดตลาดตลอดจนการนำหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวมายื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ธ. จึงอยู่ในฐานะเป็นผู้รู้ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่าหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้สามัญหรือมีหลักประกันและในวันที่ ธ.ไปให้ปากคำในชั้นสอบสวนเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็เป็นเวลาหลังจากที่ได้มีการขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองอันเป็นหลักประกันของหนี้รายนี้ พฤติการณ์ดังกล่าวจึงต้องด้วยมาตรา 97 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายฯ โดยตรง ผู้ร้องไม่อาจอ้างความพลั้งเผลอมาเป็นข้อแก้ตัวเพื่อหวังเอาประโยชน์จากหลักประกันต่อไปอีกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1868/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้ทราบดีว่ามีหลักประกันแต่ยื่นคำขอรับชำระหนี้เป็นเจ้าหนี้สามัญ ไม่อาจอ้างความพลั้งเผลอเพื่อหวังประโยชน์จากหลักประกันได้
ผู้ร้องมอบอำนาจให้ ธ. เป็นผู้ดำเนินการแทนนับแต่การมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแพ่ง และการนำทรัพย์สินที่จำนองออกขายทอดตลาดตลอดจนการนำหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวมายื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ธ. จึงอยู่ในฐานะเป็นผู้รู้ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่าหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้สามัญหรือมีหลักประกันและในวันที่ธ. ไปให้ปากคำในชั้นสอบสวนเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็เป็นเวลาหลังจากที่ได้มีการขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองอันเป็นหลักประกันของหนี้รายนี้พฤติการณ์ดังกล่าวจึงต้องด้วยมาตรา 97 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายฯ โดยตรงผู้ร้องไม่อาจอ้างความพลั้งเผลอมาเป็นข้อแก้ตัวเพื่อหวังเอาประโยชน์จากหลักประกันต่อไปอีกได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3491/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แก้ไขคำขอรับชำระหนี้เจ้าหนี้มีประกัน แม้คำสั่งถึงที่สุดได้ หากเกิดจากความพลั้งเผลอ ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย มาตรา 97
พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 97 บัญญัติว่า แม้เจ้าหนี้มีประกันขอรับชำระหนี้โดยไม่แจ้งว่าเป็น เจ้าหนี้มีประกัน ศาลก็อาจอนุญาตให้แก้ไขข้อความในรายการขอรับชำระหนี้ได้ หากเจ้าหนี้แสดงต่อศาลได้ว่าการละเว้นนั้นเกิดขึ้นโดยพลั้งเผลอ และตามมาตรา108 นั้นถ้าปรากฏว่าศาลมีคำสั่งอนุญาตคำขอรับชำระหนี้ โดยผิดหลงว่าลูกหนี้เป็นหนี้ตามจำนวนที่อนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ ความจริงลูกหนี้มิได้เป็นหนี้ หรือเป็นหนี้ไม่ถึงจำนวนที่อนุญาตให้รับชำระหนี้ ศาลอาจมีคำสั่งใหม่ให้ ยกคำขอ หรือลดจำนวนหนี้ที่อนุญาตไปแล้วได้ ทั้งตามมาตรา108 นี้ ศาลย่อมมีอำนาจที่จะสั่งใหม่ได้เสมอ แม้คำสั่งเรื่องคำขอรับชำระหนี้จะถึงที่สุดแล้วก็ตาม ทั้งนี้เพราะกฎหมายล้มละลายเป็นกฎหมายพิเศษมีวัตถุประสงค์ที่จะคุ้มครองบรรดาเจ้าหนี้ให้ได้รับชำระหนี้หรือได้รับส่วนแบ่งอย่างเป็นธรรม ฉะนั้นโดยนัยเดียวกันศาลย่อมมีอำนาจที่จะสั่งให้แก้ไขข้อความในรายการขอรับชำระหนี้ได้แม้คำสั่งศาลเรื่องคำขอรับชำระหนี้จะถึงที่สุดแล้วก็ตาม หากผู้ขอรับชำระหนี้แสดงได้ว่า การละเว้นไม่แจ้งว่าเป็นเจ้าหนี้มีประกันเกิดขึ้นโดยความพลั้งเผลอ
ความในตอนท้ายของมาตรา 97 ที่ว่า "โดยกำหนดให้คืนส่วนแบ่ง หรือกำหนดอย่างอื่นตามที่เห็นสมควร" นั้นแสดงว่าแม้จะมีการขายและแบ่งทรัพย์สินไปบ้างแล้วแต่ตราบใดที่ยังมิได้มีการแบ่งครั้งที่สุดตาม มาตรา 131 ศาลย่อมมีอำนาจที่จะอนุญาตให้แก้ไขข้อความในรายการขอรับชำระหนี้ตามมาตรา 97ได้เพราะฉะนั้นแม้คำสั่งศาลเรื่องขอรับชำระหนี้จะถึงที่สุดแล้ว ผู้ร้องก็อาจจะร้องขอแก้ไขข้อความในคำขอรับชำระหนี้ตามมาตรา 97 ได้
ความในตอนท้ายของมาตรา 97 ที่ว่า "โดยกำหนดให้คืนส่วนแบ่ง หรือกำหนดอย่างอื่นตามที่เห็นสมควร" นั้นแสดงว่าแม้จะมีการขายและแบ่งทรัพย์สินไปบ้างแล้วแต่ตราบใดที่ยังมิได้มีการแบ่งครั้งที่สุดตาม มาตรา 131 ศาลย่อมมีอำนาจที่จะอนุญาตให้แก้ไขข้อความในรายการขอรับชำระหนี้ตามมาตรา 97ได้เพราะฉะนั้นแม้คำสั่งศาลเรื่องขอรับชำระหนี้จะถึงที่สุดแล้ว ผู้ร้องก็อาจจะร้องขอแก้ไขข้อความในคำขอรับชำระหนี้ตามมาตรา 97 ได้