พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2626/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เพิกถอนการจำนองในคดีล้มละลาย: พิจารณาความมุ่งหมายของลูกหนี้ในการให้เจ้าหนี้ได้เปรียบ
จำเลยจดทะเบียนจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นประกันหนี้เงินกู้แก่ผู้คัดค้านต่อมาโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลาย การจดทะเบียนจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวของจำเลย จึงเป็นการโอนทรัพย์สินหรือการกระทำใด ๆซึ่งจำเลย (ลูกหนี้) ได้กระทำหรือยินยอมให้กระทำในระหว่างระยะเวลาสามเดือนก่อนมีการขอให้ล้มละลายตามมาตรา 115แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 แต่การที่ผู้คัดค้านเป็นผู้รับจดทะเบียนจำนองจากจำเลยจึงเป็นคู่สัญญากับจำเลยโดยตรง มิได้เป็นบุคคลภายนอกตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 116ผู้คัดค้านจึงไม่ได้รับความคุ้มครองสิทธิอันจะอ้างได้ว่าเป็นผู้ได้รับโอนหรือได้สิทธิมาโดยสุจริตและมีค่าตอบแทนก่อนมีการขอให้ล้มละลาย ทั้งการจดทะเบียนจำนองที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างเป็นประกันการกู้เงินนั้น หากจำเลยไม่ชำระหนี้หรือชำระไม่ครบ เมื่อขายทรัพย์จำนองผู้คัดค้านมีสิทธิได้รับชำระหนี้จนครบก่อนเจ้าหนี้อื่นโดยไม่ต้องนำเงินที่ได้จากการขายไปเฉลี่ยตามอัตราส่วนกับเจ้าหนี้อื่นผู้คัดค้านจึงอยู่ในฐานะเป็นเจ้าหนี้ที่จะได้เปรียบเจ้าหนี้อื่นตามความหมายของพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 115 แล้วซึ่งการเพิกถอนการโอนตามพระราชบัญญัติล้มละลายมาตรานี้มิได้บัญญัติให้คำนึงถึงความสุจริตและการเสียค่าตอบแทนของผู้รับโอน แต่ให้พิจารณาถึงความมุ่งหมายของลูกหนี้ว่าจะให้เจ้าหนี้คนใดคนหนึ่งได้เปรียบเจ้าหนี้อื่นหรือไม่เท่านั้น เมื่อปรากฏว่าขณะที่จำเลยจดทะเบียนจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ผู้คัดค้านเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยอยู่แล้วโดยมีเจ้าหนี้อื่นอีกหลายรายและจำเลยเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวการจดทะเบียนจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวของลูกหนี้(จำเลย) จึงเป็นการกระทำโดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้าน ได้เปรียบเจ้าหนี้อื่นศาลมีอำนาจสั่งเพิกถอนการโอนดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8298/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการโอนทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย ต้องพิจารณาความมุ่งหมายของลูกหนี้ในการให้เจ้าหนี้ได้เปรียบ
ขณะลูกหนี้นำเงินเข้าฝากประจำไว้กับผู้คัดค้านและทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีกับผู้คัดค้านนั้นลูกหนี้ยังไม่ได้เป็นหนี้ผู้คัดค้านลูกหนี้จะเป็นหนี้ผู้คัดค้านหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าลูกหนี้เบิกเงินเกินบัญชีไปจากผู้คัดค้านหรือไม่ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในอนาคตที่ยังไม่แน่นอนหากลูกหนี้ยังไม่เบิกเงินไปลูกหนี้ก็ยังไม่ได้เป็นหนี้ผู้คัดค้านลูกหนี้จะเป็นหนี้ผู้คัดค้านก็ต่อเมื่อได้เบิกเงินไปจากบัญชีเท่านั้นดังนั้นขณะที่ลูกหนี้นำเงินเข้าฝากประจำและให้สิทธิที่จะถอนเงินฝากประจำของลูกหนี้ดังกล่าวแก่ผู้คัดค้านแม้จะกระทำในระหว่างที่ลูกหนี้ถูกโจทก์ฟ้องขอให้ล้มละลายแต่ในขณะนั้นผู้คัดค้านก็ยังไม่อยู่ในฐานะเป็นเจ้าหนี้ของลูกหนี้ในอันที่จะเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้การกระทำของลูกหนี้ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านซึ่งเป็นเจ้าหนี้ได้เปรียบเจ้าหนี้อื่นซึ่งผู้ร้องจะร้องขอให้เพิกถอนการกระทำของลูกหนี้ตามมาตรา115แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483ได้ เมื่อการให้สิทธิที่จะถอนเงินฝากประจำจากบัญชีของลูกหนี้ซึ่งลูกหนี้มอบอำนาจให้ผู้คัดค้านสามารถถอนเงินจากบัญชีดังกล่าวหักกลบลบหนี้ที่มีอยู่แก่ผู้คัดค้านเมื่อใดก็ได้ผู้ร้องไม่อาจร้องขอเพิกถอนได้และลูกหนี้เป็นหนี้เบิกเงินเกินบัญชีแก่ผู้คัดค้านในเวลาที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ผู้คัดค้านจึงมีสิทธิถอนเงินฝากประจำของลูกหนี้หักกลบลบหนี้กับหนี้ที่ลูกหนี้เบิกเงินเกินบัญชีจากผู้คัดค้านได้ตามมาตรา102แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483ทั้งนี้โดยไม่จำต้องอาศัยความยินยอมของลูกหนี้อีกผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอให้เพิกถอนการหักกลบลบหนี้ตามมาตรา115แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483ได้เช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2115/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความต่อเนื่องแห่งการกระทำทางเพศ: การพิจารณาเป็นกรรมเดียว แม้มีระยะทาง
จำเลยกระทำอนาจารโดยอุ้มผู้เสียหายเข้าไปในป่าแล้วกอดจูบผู้เสียหาย หลังจากนั้นได้อุ้มผู้เสียหายต่อเข้าไปอีกแล้วพยายามกระทำชำเราผู้เสียหาย แม้จะมีระยะทางห่างกันถึง 20 เส้น แต่ก็เป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกันโดย ความมุ่งหมายที่จะกระทำชำเราผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2651/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการโอนทรัพย์สินหลังล้มละลาย: พิจารณาความมุ่งหมายลูกหนี้ ไม่สุจริต/ค่าตอบแทน
การที่ลูกหนี้โอนที่พิพาทให้แก่ผู้คัดค้านภายหลังที่ลูกหนี้ถูกฟ้องขอให้ล้มละลายแล้ว 15 วัน และให้ผู้คัดค้านรับโอนที่ดินทั้งสองแปลงไปแต่ผู้เดียว โดยที่ยังมีเจ้าหนี้อีกประมาณ 190 ราย ทั้งจำนวนหนี้สินก็มีมากกว่าทรัพย์สินเป็นอันมาก ย่อมเป็นที่เห็นได้โดยชัดแจ้งว่าลูกหนี้กระทำโดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านซึ่งเป็นเจ้าหนี้คนหนึ่งได้เปรียบเจ้าหนี้อื่นตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 115การเพิกถอนการโอนตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา115 มิได้บัญญัติให้คำนึงถึงความสุจริตและค่าตอบแทนของผู้รับโอน แต่ให้พิจารณาถึงความมุ่งหมายของลูกหนี้ว่าจะให้เจ้าหนี้คนใดคนหนึ่งได้เปรียบเจ้าหนี้อื่นหรือไม่เท่านั้น
กฎหมายล้มละลายเป็นกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนมุ่งคุ้มครองทั้งเจ้าหนี้ ลูกหนี้ตลอดจนประชาชนเป็นส่วนรวม มาตรา 115 เป็นกรณีหนึ่งที่มุ่งถึงวัตถุประสงค์ดังกล่าว จึงได้บัญญัติให้ศาลมีอำนาจเพิกถอนการโอนทรัพย์สินหรือการกระทำใด ๆซึ่งลูกหนี้ได้กระทำหรือยินยอมให้กระทำในระหว่างระยะเวลาสามเดือนก่อนมีการขอให้ล้มละลาย และภายหลังนั้นโดยมุ่งหมายให้เจ้าหนี้คนหนึ่งคนใดได้เปรียบแก่เจ้าหนี้อื่น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายดังนั้น การเพิกถอนการโอนในกรณีเช่นนี้จึงไม่ขัดต่อ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแต่อย่างใด
กฎหมายล้มละลายเป็นกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนมุ่งคุ้มครองทั้งเจ้าหนี้ ลูกหนี้ตลอดจนประชาชนเป็นส่วนรวม มาตรา 115 เป็นกรณีหนึ่งที่มุ่งถึงวัตถุประสงค์ดังกล่าว จึงได้บัญญัติให้ศาลมีอำนาจเพิกถอนการโอนทรัพย์สินหรือการกระทำใด ๆซึ่งลูกหนี้ได้กระทำหรือยินยอมให้กระทำในระหว่างระยะเวลาสามเดือนก่อนมีการขอให้ล้มละลาย และภายหลังนั้นโดยมุ่งหมายให้เจ้าหนี้คนหนึ่งคนใดได้เปรียบแก่เจ้าหนี้อื่น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายดังนั้น การเพิกถอนการโอนในกรณีเช่นนี้จึงไม่ขัดต่อ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 201/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนิยามคำว่า 'ยา' ตาม พ.ร.บ.ขายยา พิจารณาจากความมุ่งหมายในการใช้ ไม่ใช่ผลลัพธ์การรักษา
คำว่า 'ยา' ตามพระราชบัญญัติการขายยา พ.ศ.2493มาตรา4 นั้น หาได้อยู่ที่ว่าวัตถุนั้นจะบำบัดรักษาหรือป้องกันโรคได้จริงหรือไม่ แต่อยู่ที่ความมุ่งหมายในการใช้ฉะนั้น กำไลแหวน และสร้อย ซึ่งมุ่งหมายจะใช้เพื่อบำบัดรักษาและป้องกันโรคจึงเป็นยาตามความหมายแห่งกฎหมายดังกล่าวและเมื่อผู้ใดโฆษณาหรือขายวัตถุเหล่านี้โดยมิได้รับอนุญาตก็ย่อมมีความผิด(ประชุมใหญ่ ครั้งที่42/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1091/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหาย vs. เบี้ยปรับ: ศาลฎีกาชี้ขาดตามความมุ่งหมายของคู่สัญญา และมีอำนาจลดเบี้ยปรับที่สูงเกินไป
ศาลอุทธรณ์จะไม่ฟังคำแถลงตามที่คู่ความร้องขอก็ได้
ค่าเสียหายกับเบี้ยปรับมีนัยเป็นคนละอย่างต่างกัน เรื่องเรียกค่าเสียหายเป็นสิทธิโดยบังคับของกฎหมายเกิดขึ้นเอง เรื่องเบี้ยปรับเกิดขึ้นได้แก่โดยตกลงกำหนดกันไว้ เรื่องเบี้ยปรับตามสัญญานั้นถ้อยคำในสัญญาจะเรียกชื่อว่าเป็นค่าอะไรไม่สำคัญข้อสำคัญอยู่ที่ความมุ่งหมายอันแท้จริงของคู่สัญญาซึ่งปรากฎในสัญญานั้น ข้อสัญญาที่ว่าจะใช้ค่าเสียหายให้วันละ 5 บาทนั้นพอถือได้ว่าเป็นข้อสัญญาให้เบี้ยปรับวันละ 5 บาท
เมื่อศาลล่างให้เบี้ยปรับมาแรงเกินไป ศาลฎีกามีอำนาจลดเบี้ยปรับลงอีกได้
ค่าเสียหายกับเบี้ยปรับมีนัยเป็นคนละอย่างต่างกัน เรื่องเรียกค่าเสียหายเป็นสิทธิโดยบังคับของกฎหมายเกิดขึ้นเอง เรื่องเบี้ยปรับเกิดขึ้นได้แก่โดยตกลงกำหนดกันไว้ เรื่องเบี้ยปรับตามสัญญานั้นถ้อยคำในสัญญาจะเรียกชื่อว่าเป็นค่าอะไรไม่สำคัญข้อสำคัญอยู่ที่ความมุ่งหมายอันแท้จริงของคู่สัญญาซึ่งปรากฎในสัญญานั้น ข้อสัญญาที่ว่าจะใช้ค่าเสียหายให้วันละ 5 บาทนั้นพอถือได้ว่าเป็นข้อสัญญาให้เบี้ยปรับวันละ 5 บาท
เมื่อศาลล่างให้เบี้ยปรับมาแรงเกินไป ศาลฎีกามีอำนาจลดเบี้ยปรับลงอีกได้