พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1244/2542 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรวมกรรมความผิด - ลดโทษจำเลยตามมาตรา 78 เหตุจากความยากลำบากและสถานการณ์
ปัญหาว่า การที่จำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครอง นำเข้าซึ่งเฮโรอีน และนำเข้าซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 เป็นการกระทำความผิดเพียงกรรมเดียวหรือหลายกรรมต่างกัน เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ ตามป.วิ.อ.มาตรา 195 วรรคสอง
เฮโรอีนของกลางแต่ละก้อนถูกผสมด้วยฟีโนบาร์บิตาลและไดอาซีแพมจึงเป็นวัตถุอันเดียว การที่จำเลยมีและนำเข้าซึ่งเฮโรอีนและวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ดังกล่าว เป็นการกระทำคราวเดียวกัน จึงเป็นการกระทำผิดเพียงกรรมเดียว
ศาลอุทธรณ์ได้ลดโทษให้แก่จำเลยหนึ่งในสามโดยอาศัยเหตุที่คำให้การรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีของศาล โดยศาลอุทธรณ์มิได้หยิบยกเอาปัญหาที่จำเลยเป็นผู้โฉดเขลาเบาปัญญาเพราะไม่รู้หนังสือไทยและกฎหมายไทย หรือตกอยู่ในความทุกข์อย่างแสนสาหัสมาพิจารณาวินิจฉัยแต่การที่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้ยกปัญหาดังกล่าวมาลดโทษให้จำเลยเพราะเห็นว่าไม่จำเป็นหรือเห็นว่าไม่ใช่เหตุที่จะลดโทษให้ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ดังนี้การที่ศาลไม่ได้ลดโทษให้จำเลยโดยเหตุดังกล่าว จึงไม่ใช่เรื่องที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีโดยคลาดเคลื่อนต่อ ป.อ.มาตรา 78
พฤติการณ์แห่งคดีที่จำเลยซึ่งเป็นชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ไม่สามารถสื่อสารกับเจ้าพนักงานของรัฐเมื่อถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดเพราะจำเลยไม่รู้หนังสือและกฎหมายไทย ไม่มีญาติพี่น้องที่จะติดต่อขอความช่วยเหลือได้ และจำเลยเป็นผู้ตกอยู่ในความทุกข์อย่างแสนสาหัส ประกอบกับจำเลยได้รับความช่วยเหลือทางด้านคดีเมื่อได้ถูกฟ้องคดีต่อศาลแล้ว โดยศาลขอแรงทนายความให้แก้ต่างให้ กรณีจึงมีเหตุอันควรปรานีแก่จำเลย ศาลฎีกาเห็นควรลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งตาม ป.อ.มาตรา 78
เฮโรอีนของกลางแต่ละก้อนถูกผสมด้วยฟีโนบาร์บิตาลและไดอาซีแพมจึงเป็นวัตถุอันเดียว การที่จำเลยมีและนำเข้าซึ่งเฮโรอีนและวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ดังกล่าว เป็นการกระทำคราวเดียวกัน จึงเป็นการกระทำผิดเพียงกรรมเดียว
ศาลอุทธรณ์ได้ลดโทษให้แก่จำเลยหนึ่งในสามโดยอาศัยเหตุที่คำให้การรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีของศาล โดยศาลอุทธรณ์มิได้หยิบยกเอาปัญหาที่จำเลยเป็นผู้โฉดเขลาเบาปัญญาเพราะไม่รู้หนังสือไทยและกฎหมายไทย หรือตกอยู่ในความทุกข์อย่างแสนสาหัสมาพิจารณาวินิจฉัยแต่การที่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้ยกปัญหาดังกล่าวมาลดโทษให้จำเลยเพราะเห็นว่าไม่จำเป็นหรือเห็นว่าไม่ใช่เหตุที่จะลดโทษให้ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ดังนี้การที่ศาลไม่ได้ลดโทษให้จำเลยโดยเหตุดังกล่าว จึงไม่ใช่เรื่องที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีโดยคลาดเคลื่อนต่อ ป.อ.มาตรา 78
พฤติการณ์แห่งคดีที่จำเลยซึ่งเป็นชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ไม่สามารถสื่อสารกับเจ้าพนักงานของรัฐเมื่อถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดเพราะจำเลยไม่รู้หนังสือและกฎหมายไทย ไม่มีญาติพี่น้องที่จะติดต่อขอความช่วยเหลือได้ และจำเลยเป็นผู้ตกอยู่ในความทุกข์อย่างแสนสาหัส ประกอบกับจำเลยได้รับความช่วยเหลือทางด้านคดีเมื่อได้ถูกฟ้องคดีต่อศาลแล้ว โดยศาลขอแรงทนายความให้แก้ต่างให้ กรณีจึงมีเหตุอันควรปรานีแก่จำเลย ศาลฎีกาเห็นควรลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งตาม ป.อ.มาตรา 78
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1173/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเฉลี่ยทรัพย์ต้องแสดงความยากลำบากในการชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่น และการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาผู้ยื่นคำขอต่อศาลเพื่อขออนุญาตเข้าเฉลี่ยในทรัพย์สินหรือเงินที่ขายหรือจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ถูกยึดในคดีอื่น มีหน้าที่ต้องนำสืบให้ศาลเห็นว่า ตนไม่สามารถเอาชำระหนี้ได้จากทรัพย์สินอื่น ๆ ของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้น
พฤติการณ์ที่ถือได้ว่าผู้ยื่นคำขอเฉลี่ยไม่สุจริต
พฤติการณ์ที่ถือได้ว่าผู้ยื่นคำขอเฉลี่ยไม่สุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 783/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนการพิจารณาคดีอาญาเนื่องจากความยากลำบากในการส่งหมายเรียกพยาน
คดีอาญา ในวันสืบพยานโจทก์นัดแรก โจทก์ได้ขอหมายศาลเพื่อส่งให้แก่พยานแล้วแต่พยานอยู่ไกล จึงส่งหมายให้ไม่ทัน เป็นเหตุให้ไม่มีพยานมาศาลนั้นนับว่ามีเหตุสมควรให้เลื่อนการพิจารณาไปสักครั้งหนึ่งได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 476/2562
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเฉลี่ยทรัพย์: ผู้ขอต้องพิสูจน์ความยากลำบากในการบังคับคดีจากทรัพย์สินอื่น หากเคยยื่นคำขอไปแล้ว การยื่นซ้ำต้องมีเหตุผล
ในการขอเฉลี่ยทรัพย์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 290 (เดิม) มีประเด็นคือผู้ขอเฉลี่ยทรัพย์ไม่สามารถเอาชำระได้จากทรัพย์สินอื่นของลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งผู้ขอเฉลี่ยทรัพย์ต้องพิสูจน์ให้ได้ในขณะยื่นคำขอ เมื่อผู้ร้องเคยยื่นคำร้องเพื่อขอเฉลี่ยทรัพย์ของจำเลยที่ 1 ที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้ และศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องเนื่องจากผู้ร้องไม่ขวนขวายหาทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 จึงฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องไม่สามารถเอาชำระหนี้จากทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ได้ การที่ผู้ร้องมายื่นคำร้องในครั้งนี้อีกเพื่อขอเฉลี่ยทรัพย์เดิม โดยอ้างพยานหลักฐานการตรวจสอบกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือตรวจสอบบัญชีเงินฝากของจำเลยที่ 1 ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ผู้ร้องสามารถกระทำได้ในการยื่นคำขอครั้งแรก อีกทั้งทรัพย์สินที่ผู้ร้องอ้างว่าถูกเจ้าหนี้อื่นยึดไว้ก็ล้วนเป็นทรัพย์สินที่จำเลยที่ 1 มีมาตั้งแต่ก่อนผู้ร้องยื่นคำร้องครั้งแรก การตรวจสอบทรัพย์สินดังกล่าวจึงเป็นสิ่งที่ผู้ร้องสามารถกระทำได้แต่ต้นแต่ไม่ดำเนินการเอง การที่ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ในครั้งนี้อีก จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำตาม ป.วิ.พ. มาตรา 144