คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความยึดถือ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2852/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย แม้ไม่ใช่เจ้าของก็ผิดได้ หากอยู่ในความยึดถือและรู้ว่าเป็นยาเสพติด
คำว่า "มีไว้ในครอบครอง" พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 4มิได้บัญญัติให้มีความหมายพิเศษ จึงต้องถือว่ามีความหมายทั่วไปซึ่งตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 คำว่าครอบครองหมายถึง ยึดถือไว้ มีสิทธิถือเอาเป็นเจ้าของ มีสิทธิปกครองดังนี้ การมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษ จึงมีความหมายเพียงว่ายาเสพติดให้โทษนั้นอยู่ในความยึดถือหรือปกครองดูแล ของจำเลยโดยจำเลยรู้ว่าเป็นยาเสพติดให้โทษ เมื่อจำเลยรับจ้างปลิดใบกัญชาของกลาง กัญชาของกลางอยู่ในความยึดถือของจำเลยโดยจำเลยรู้ว่าเป็นกัญชา แม้กัญชาของกลางจะไม่ใช่ของจำเลย ก็ถือได้แล้วว่าจำเลยมีกัญชาของกลางไว้ในครอบครอง กัญชาของกลางมีปริมาณหนักเกินกว่า 10 กิโลกรัม ต้องถือว่าจำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นความผิดตามมาตรา 26,76 วรรคสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 207/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปากกาตกหล่นในความยึดถือของผู้เสียหาย แม้ผู้อื่นเก็บได้ การเอาไปโดยรู้ว่าเป็นของเขา ถือเป็นลักทรัพย์
ผู้เสียหายทำปากกาของตนตกอยู่ในบริเวณร้านขายกาแฟที่ผู้เสียหายขายของอยู่ ผู้เสียหายได้ออกไปขายขนมที่อื่นห่างเพียงประมาณ 1 เส้น เป็นเวลาไม่เกิน 5 นาที ก็รู้ว่าปากกาหายจึงรีบกลับไปค้นและสอบถาม ได้ความจาก ป. ว่าเป็นผู้เก็บปากกานั้นได้และถามหาเจ้าของ จำเลยอ้างว่าเป็นเจ้าของ ป. จึงมอบปากกาให้จำเลยไปผู้เสียหายไปถามจำเลย จำเลยปฏิเสธ ดังนี้ ถือว่าทรัพย์ยังอยู่ในความยึดถือของผู้เสียหาย ไม่ใช่ทรัพย์ตกหายการที่มีผู้อื่นเก็บได้มิใช่จะทำให้ความยึดถือของผู้เสียหายขาดตอนไป จำเลยเอาไปจากผู้อื่น โดยรู้อยู่ว่าไม่ใช่ของตน จึงเป็นการเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปโดยทุจริต ต้องด้วยความผิดฐานลักทรัพย์
(อ้างฎีกาที่ 519/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 207/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลักทรัพย์: ทรัพย์ยังอยู่ในความยึดถือของผู้เสียหาย แม้ผู้อื่นเก็บได้ การเอาไปจากผู้อื่นโดยรู้ว่าเป็นของเขา ถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
ผู้เสียหายทำปากกาของตนตกอยู่ในบริเวณร้านขายกาแฟที่ผู้เสียหายขายของอยู่ผู้เสียหายได้ออกไปขายขนมที่อื่นห่างเพียงประมาณ 1 เส้น เป็นเวลาไม่เกิน 5นาที ก็รู้ว่าปากกาหายจึงรีบกลับไปค้นและสอบถาม ได้ความจาก ป. ว่าเป็นผู้เก็บปากกานั้นได้และถามหาเจ้าของ จำเลยอ้างว่าเป็นเจ้าของ ป. จึงมอบปากกาให้จำเลยไปผู้เสียหายไปถามจำเลย จำเลยปฏิเสธดังนี้ ถือว่าทรัพย์ยังอยู่ในความยึดถือของผู้เสียหาย ไม่ใช่ทรัพย์ตกหายการที่มีผู้อื่นเก็บได้มิใช่จะทำให้ความยึดถือของผู้เสียหายขาดตอนไป จำเลยเอาไปจากผู้อื่น โดยรู้อยู่ว่าไม่ใช่ของตนจึงเป็นการเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปโดยทุจริต ต้องด้วยความผิดฐานลักทรัพย์
(อ้างฎีกาที่ 519/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 207/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัพย์สินยังอยู่ในความยึดถือของผู้เสียหาย แม้ผู้อื่นเก็บได้ การนำไปโดยรู้อยู่ว่าไม่ใช่ของตน เป็นความผิดฐานลักทรัพย์
ผู้เสียหายทำปากกาของตนตกอยู่ในบริเวณร้านขายกาแฟที่ผู้เสียหายขายของอยู่. ผู้เสียหายได้ออกไปขายขนมที่อื่นห่างเพียงประมาณ 1 เส้น เป็นเวลาไม่เกิน 5นาที ก็รู้ว่าปากกาหายจึงรีบกลับไปค้นและสอบถาม. ได้ความจาก ป. ว่าเป็นผู้เก็บปากกานั้นได้และถามหาเจ้าของ. จำเลยอ้างว่าเป็นเจ้าของ ป. จึงมอบปากกาให้จำเลยไป.ผู้เสียหายไปถามจำเลย จำเลยปฏิเสธ. ดังนี้ ถือว่าทรัพย์ยังอยู่ในความยึดถือของผู้เสียหาย ไม่ใช่ทรัพย์ตกหาย.การที่มีผู้อื่นเก็บได้มิใช่จะทำให้ความยึดถือของผู้เสียหายขาดตอนไป. จำเลยเอาไปจากผู้อื่น โดยรู้อยู่ว่าไม่ใช่ของตน. จึงเป็นการเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปโดยทุจริต ต้องด้วยความผิดฐานลักทรัพย์. (อ้างฎีกาที่ 519/2502).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้ที่ลอยมากับน้ำ ไม่ถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ หากไม่พิสูจน์ได้ว่ายังอยู่ในความยึดถือของเจ้าของ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักไม้ของกรมป่าไม้ จำเลยรับว่าได้เก็บไม้ซึ่งไหลลอยมาและขนเอาไปเลื่อยจริง โดยไม่ได้รับอนุญาตทั้งรู้ว่าเป็นไม้ที่ใช้ในราชการกรมป่าไม้ เพราะมีดวงตราก็ดี จำเลยไม่มีผิดฐานลักทรัพย์ เพราะจำเลยไม่ได้รับว่าไม้ยังอยู่ในความยึดถือของเจ้าทรัพย์ และได้เก็บเอาไปโดยเจตนาทุจริต คงผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ม.43,47 เท่านั้น