พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6273/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดต่อความสูญเสียความสามารถในการทำงาน แม้เป็นลูกจ้างชั่วคราว
จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2เฉียวชนโจทก์ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกตัดเท้าขวาทิ้ง แม้โจทก์เป็นลูกจ้างชั่วคราวตามระเบียบราชการไม่จำเป็นต้องจ้างจนอายุครบ 60 ปี แต่ค่าเสียหายดังกล่าวเป็นค่าเสียหายที่โจทก์เสียความสามารถในการประกอบการงานในเวลาอนาคตโจทก์จึงมีสิทธิเรียกจากจำเลยทั้งสองได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 444 วรรคหนึ่งแม้จะไม่เป็นการแน่นอนว่าโจทก์สามารถทำงานได้จนอายุ 60 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 781/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากอุบัติเหตุทางน้ำ: การชดใช้ค่าเสียหายเมื่อเกิดการบาดเจ็บและการสูญเสียความสามารถในการทำงาน
จำเลยขับเรือยนต์โดยประมาทชนเรือที่โจทก์โดยสารมาล่มลง โจทก์ถูกเรือจำเลยชนกระดูกซี่โครงซี่ต้นหัก และกระดูกยังไม่งอกติดกัน แขนซ้ายก็ยังยกสิ่งของและทำงานไม่ได้ตามปกติที่เคยทำ เพราะเวลายกสิ่งของก็มีอาการเสียวและเจ็บปวดที่หน้าอกและทำงานหนักไม่ได้ แพทย์ผู้รักษาว่าไม่แน่ว่าจะหาย ถือได้ว่าโจทก์เสียความสามารถประกอบการงานตามปกติไป โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยผู้กระทำละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 444 และ 446 ได้
การพิจารณาให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเท่าใด เพียงไรนั้น เป็นดุลพินิจของศาลที่จะกำหนดให้ เมื่อศาลเห็นว่าโจทก์ชนะคดีเกือบเต็มฟ้อง จึงพิจารณาให้จำเลยใช้ค่าขึ้นศาลแทนโจทก์เต็มตามฟ้องย่อมเป็นการสมควร
การพิจารณาให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเท่าใด เพียงไรนั้น เป็นดุลพินิจของศาลที่จะกำหนดให้ เมื่อศาลเห็นว่าโจทก์ชนะคดีเกือบเต็มฟ้อง จึงพิจารณาให้จำเลยใช้ค่าขึ้นศาลแทนโจทก์เต็มตามฟ้องย่อมเป็นการสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 781/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดจากการขับเรือประมาท ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียความสามารถในการทำงาน
จำเลยขับเรือยนต์โดยประมาทชนเรือที่โจทก์โดยสารมาล่มลง
โจทก์ถูกเรือจำเลยชนกระดูกซี่โครงซีกต้นหัก และกระดูกยังไม่งอกติดกันแขนซ้ายก็ยังยกสิ่งของและทำงานไม่ได้ตามปกติที่เคยทำเพราะเวลายกสิ่งของก็มีอาการเสียวและเจ็บปวดที่หน้าอกและทำงานหนักไม่ได้แพทย์ผู้รักษาว่าไม่แน่ว่าจะหาย ถือได้ว่าโจทก์เสียความสามารถประกอบการงานตามปกติไปโจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยผู้กระทำละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา444 และ 446 ได้
การพิจารณาให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเท่าใด เพียงไร นั้น เป็นดุลพินิจของศาลที่จะกำหนดให้เมื่อศาลเห็นว่าโจทก์ชนะคดีเกือบเต็มฟ้องจึงพิจารณาให้จำเลยใช้ค่าขึ้นศาลแทนโจทก์เต็มตามฟ้องย่อมเป็นการสมควร
โจทก์ถูกเรือจำเลยชนกระดูกซี่โครงซีกต้นหัก และกระดูกยังไม่งอกติดกันแขนซ้ายก็ยังยกสิ่งของและทำงานไม่ได้ตามปกติที่เคยทำเพราะเวลายกสิ่งของก็มีอาการเสียวและเจ็บปวดที่หน้าอกและทำงานหนักไม่ได้แพทย์ผู้รักษาว่าไม่แน่ว่าจะหาย ถือได้ว่าโจทก์เสียความสามารถประกอบการงานตามปกติไปโจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยผู้กระทำละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา444 และ 446 ได้
การพิจารณาให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเท่าใด เพียงไร นั้น เป็นดุลพินิจของศาลที่จะกำหนดให้เมื่อศาลเห็นว่าโจทก์ชนะคดีเกือบเต็มฟ้องจึงพิจารณาให้จำเลยใช้ค่าขึ้นศาลแทนโจทก์เต็มตามฟ้องย่อมเป็นการสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2475
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำแนกบาดแผลสาหัสเพื่อลงโทษทางอาญา: ข้อโต้แย้งเรื่องความสามารถในการทำงานของผู้ถูกทำร้าย
ศาลเดิมลงโทษจำเลยตาม ม. 254 ให้จำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษ จำเลยตาม ม. 256 ให้จำคุกจำเลย 3 ปี ดังนี้แก้น้อย ฎีกาไม่ได้สาหัส หรือไม่สาหัสเป็นข้อเท็จจริง