คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความสำคัญ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2753/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จในคดีเช็ค: กฎหมายใหม่ทำให้คำเบิกความไม่เป็นความสำคัญ
โจทก์ทั้งสองฟ้องว่าจำเลยรู้อยู่แล้วว่าโจทก์ทั้งสองออกเช็คพิพาทให้ ส. ยึดถือไว้แทนสัญญากู้ยืมเงินที่โจทก์ที่1กู้ยืมเงินไปจาก ส. แต่จำเลยเบิกความเป็นพยานโจทก์ในคดีอาญาที่ ส. ฟ้องโจทก์ทั้งสองเป็นจำเลยในข้อหาความผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 ว่าโจทก์ทั้งสองออกเช็คพิพาทแลกเงินสดไปจากจำเลยอันเป็นการออกเช็คพิพาทให้จำเลยเพื่อชำระหนี้ซึ่งหากข้อเท็จจริงเป็นดังที่โจทก์ทั้งสองฟ้อง คำเบิกความของจำเลยย่อมเป็นความเท็จอันเป็นข้อสำคัญในคดีดังกล่าว จำเลยย่อมมีความผิดฐานเบิกความเท็จ แต่เนื่องจากในขณะคดีนี้อยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 ซึ่งเป็นกฎหมายในคดีเดิมที่โจทก์ทั้งสองนำมาเป็นมูลในการฟ้องคดีนี้ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว มี พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดการใช้เช็ค พ.ศ.2534ออกมาใช้บังคับแทน ปรากฏว่ากฎหมายฉบับใหม่ที่ออกภายหลังการออกเช็คที่จะเป็นความผิดนั้นต้องเป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย แต่กรณีการออกเช็คพิพาทแล้วแลกเงินสดมิใช่เป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4 ดังนี้คำเบิกความของจำเลยในคดีนั้นจึงไม่เป็นข้อสำคัญในคดีนี้อันจะเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จการกระทำของจำเลยไม่เป็นของผิดตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4807/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาเบิกความเท็จต้องระบุความสำคัญของคำเบิกความในคดี
ตามคำฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีอาญาทั้งสามคดีว่าโจทก์เป็นผู้ทำคำแถลงถอนการยึดทรัพย์ อันเป็นการปกปิดข้อความจริง ทั้งที่จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อในคำแถลงขอถอนการยึดทรัพย์ยื่นต่อเจ้าหน้าที่ศาลและเสียค่าธรรมเนียมยึดทรัพย์เอง คำฟ้องโจทก์พอเข้าใจได้ว่าข้อความที่จำเลยเบิกความเป็นเท็จอย่างไร ความจริงเป็นอย่างไร แต่คำฟ้องโจทก์มิได้บรรยายว่าคำเบิกความของจำเลยในคดีก่อนเป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไร ฉะนั้นฟ้องโจทก์จึงมิได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา 158 (5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 364/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเบิกความเท็จต้องระบุรายละเอียดคดีเดิม ข้อหา และความสำคัญของคำเบิกความ
คำฟ้องของโจทก์ฐานเบิกความเท็จได้บรรยายแต่เพียงรายละเอียดข้อความที่จำเลยเบิกความกับความจริงเป็นอย่างไรและว่าคำเบิกความของจำเลยเป็นข้อสำคัญในคดีแต่มิได้บรรยายว่าคดีที่จำเลยเบิกความอันเป็นเท็จนั้นมีข้อหาหรือฐานความผิดอะไร ประเด็นสำคัญของคดีมีว่าอย่างไรและคำเบิกความของจำเลยเป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไร เป็นฟ้องที่ไม่ได้บรรยายถึงการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีจึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158(5).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3820/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปกปิดโรคก่อนทำสัญญาประกันชีวิตทำให้สัญญาเป็นโมฆียะ
ผู้เอาประกันชีวิตรู้อยู่ก่อนแล้วว่าตนป่วยเป็นโรคตับโตและดีซ่านกับทั้งยังเคยเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล แต่แถลงถ้อยคำในคำขอเอาประกันชีวิตและต่อนายแพทย์ผู้ตรวจสุขภาพก่อนทำสัญญาประกันชีวิตว่าไม่เคยเป็น หรือเคยถูกรักษาโรคตับ ลำไส้ ไตหรือกระเพาะปัสสาวะ และไม่เคยเจ็บไข้หรือบาดเจ็บนอกเหนือจากข้อซักถามเกี่ยวกับโรคในข้ออื่น ๆ เช่นนี้ เป็นการละเว้นไม่เปิดเผยข้อความจริงแห่งโรคที่ตนรู้ว่าเคยเป็นและเคยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมาแล้วอันเป็นสาระสำคัญในการรับประกันชีวิต สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะเมื่อจำเลยบอกล้างแล้วสัญญาประกันชีวิตตกเป็นโมฆะ จำเลยไม่ต้องรับผิดใช้เงินแก่โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขาย vs. รับจ้างทำของ: การพิจารณาจากความสำคัญของวัตถุดิบและผลงานสำเร็จ
ข้อแตกต่างระหว่างการซื้อขายและการรับจ้างทำของนั้นหาได้อยู่ที่เจตนาและกริยาของคู่กรณีที่ประพฤติต่อกันแต่ประการเดียวไม่ แต่ความสำคัญอยู่ที่ว่า สัมภาระกับการงานที่รับทำจนสำเร็จนั้นสิ่งไหนสำคัญกว่ากัน ถ้าการงานที่รับทำจนสำเร็จสำคัญกว่าสัมภาระก็เป็นรับจ้างทำของ แต่ถ้าไม่สำคัญกว่าก็เป็นการซื้อขาย
การผลิตอิฐทนไฟไม่ว่าจะเป็นการผลิตแบบมาตรฐานหรือผลิตตามคำสั่งเป็นการเฉพาะราย วัตถุดิบหรือสัมภาระที่ใช้ได้แก่บล๊อกไซด์ชามอสอลูมิน่า ดินทนไฟ นำมาผสมกัน เติมด้วยสารเคมีแล้วนาไปอัดเป็นรูปแบบต่าง ๆ จากนั้นจึงนำไปเผาไฟ จึงเห็นได้ว่าอิฐทนไฟที่ผลิตหาได้มีความสำคัญไปกว่าสัมภาระหรือวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตไม่ การผลิตอิฐทนไฟตามคำสั่งเฉพาะรายของลูกค้าจึงมิใช่เป็นการรับจ้างทำของ แต่เป็นการผลิตและจำหน่ายอิฐทนไฟเช่นเดียวกับอิฐทนไฟแบบมาตรฐานนั่นเองดังนั้นรายรับที่ได้จากการผลิตและจำหน่ายอิฐทนไฟตามคำสั่งของลูกค้าเป็นการเฉพาะราย จึงต้องเสียภาษีการค้าในประเภทการค้า 1.การขายของ ชนิด 1(ก) ตามบัญชีอัตราภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 7 เช่นเดียวกับรายรับที่ได้จากการผลิตและจำหน่ายอิฐทนไฟแบบมาตรฐาน มิใช่เสียภาษีการค้าในประเภทการค้า 4.การรับจ้างทำของ ชนิด 1(ฉ) ในอัตราร้อยละ 2.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2234/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งตั้งข้าราชการเป็นการเลื่อนตำแหน่ง ไม่ใช่โยกย้ายหน้าที่ หากตำแหน่งใหม่มีความสำคัญสูงกว่า
โจทก์เป็นลูกจ้างจำเลยตำแหน่งนิติกร 4 แผนกการตลาดเมื่อปรากฏว่าหัวหน้าแผนกการตลาดเป็นพนักงานระดับ 5 ส่วนหัวหน้าคณะที่ปรึกษาเป็นพนักงานระดับ 6 คณะที่ปรึกษาเป็น ผู้ให้คำปรึกษาแก่จำเลยในเมื่อมีปัญหาจากทุกแผนก รวมทั้ง แผนกการตลาดนิติกร 4 ของคณะที่ปรึกษาจึงมีความสำคัญยิ่งกว่านิติกร 4 แผนกการตลาดการที่จำเลยออกคำสั่งแต่งตั้งโจทก์เป็นนิติกร4คณะที่ปรึกษาจึงเป็นการเลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงานของโจทก์ให้สูงขึ้นถือไม่ได้ว่าเป็นการ โยกย้ายหน้าที่ตามความหมายของมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติ แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1977/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันชีวิตโมฆียะ: การปกปิดอาการเจ็บป่วยและการพิจารณาความสำคัญของข้อมูล
โจทก์ฟ้องให้จำเลยใช้เงินตามสัญญาประกันชีวิต สภาพแห่งข้อหาคือสัญญาประกันชีวิต คำขอบังคับคือจำนวนเงินที่โจทก์เรียกร้อง ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาคือการที่จำเลยรับประกันชีวิต ร.ผู้ตายโดยโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์และ ร.ตายโดยอุบัติเหตุ โจทก์ได้บรรยายฟ้องในข้อที่กล่าวนี้ชัดแจ้งถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์ ส่วนข้อที่ว่าสัญญาเป็นโมฆียะและจำเลยบอกล้างแล้ว เป็นเรื่องที่จำเลยจะยกขึ้นปฏิเสธฟ้องโจทก์ ซึ่งถ้าหากจำเลยยกขึ้นก็เป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องกล่าวโดยแจ้งชัดถึงข้อเท็จจริงที่ทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ หาใช่หน้าที่ของโจทก์จะต้องบรรยายฟ้องแก้คำให้การของจำเลยไว้ล่วงหน้าไม่ ฉะนั้น การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าผู้ตายมิได้ป่วยด้วยโรคหืด หลอดลมหรือคออักเสบมาก่อน หรือหากเคยป่วยโดยโรคดังกล่าวมาก่อนก็มีเหตุหลายประการดังที่โจทก์บรรยายในฟ้องที่ทำให้สัญญาไม่เป็นโมฆียะ จึงเป็นการบรรยายเกินเลยจากที่กฎหมายบังคับ แม้ข้อที่ว่า ร.ป่วยจริงหรือไม่ โจทก์ยกขึ้นอ้างขัดกันก็ไม่ทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ผู้ตายมิได้เป็นโรคหืด แต่มีอาการหอบหืดซึ่งเป็นอาการของการแพ้อากาศ และอาการดังกล่าวได้หายไปก่อนที่ผู้ตายยื่นคำขอเอาประกันชีวิตแล้ว ผู้ตายไปตรวจและรับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นครั้งคราวด้วยเรื่องหวัดและแพ้อากาศ ซึ่งมิใช่โรคที่ระบุในแบบสอบถามให้ผู้ขอเอาประกันชีวิตตอบ เห็นได้ว่าหากจำเลยทราบถึงการที่ผู้ตายเคยไปตรวจและรับการรักษาที่โรงพยาบาลและประวัติการเจ็บป่วยของผู้ตายดังกล่าวแล้ว ก็ไม่เป็นเหตุจูงใจให้จำเลยบอกปัดไม่ยอมรับประกันชีวิตผู้ตายหรือเรียกเบี้ยประกันภัยให้สูงขึ้น การที่ผู้ตายได้แจ้งในแบบสอบถามขณะเอาประกันชีวิตว่า ไม่เคยรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเคยปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับโรคหรืออาการของโรคหืด จึงไม่ทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1076/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันชีวิตโมฆียะจากปกปิดโรคประจำตัว ถุงลมพองเป็นเหตุสำคัญในการพิจารณา
โรคถุงลมพองเป็นโรคเรื้อรังรักษาไม่หายขาด และอาจทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ความตายได้ โรคถุงลมพองจึงเป็นโรคที่มีความสำคัญอันอาจถือเป็นเหตุให้จำเลยบอกปัดไม่ยอมทำสัญญาประกันชีวิตผู้ขอเอาประกันได้ ถ้าจำเลยผู้รับประกันได้ทราบข้อความจริงนี้มาก่อน การที่ผู้เอาประกันรู้ตัวดีว่าป่วยเป็นโรคถุงลมพองเรื้อรังมานานปี เคยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหลายแห่ง และเคยรับการฉายเอ๊กซเรย์มาแล้ว แต่ตอบคำถามแพทย์ผู้ตรวจ สุขภาพว่าไม่เคยเจ็บป่วยเป็นโรคใดๆ ไม่เคยรับการรักษาในโรงพยาบาลจึงเป็นการละเว้นไม่เปิดเผยข้อความจริง ซึ่งเรื่องเหล่านี้มีความสำคัญที่จำเลยต้องการทราบเพื่อจะนำไปประกอบการวินิจฉัยว่าจะรับประกันชีวิตผู้ขอเอาประกันหรือไม่ สัญญาประกันชีวิตที่ผู้เอาประกันทำไว้กับจำเลยจึงตกเป็นโมฆียะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865 วรรคแรก
การตรวจโรคถุงลมพองโดยวิธีธรรมดาจะพบได้ยาก นอกจากฉายเอ๊กซเรย์หรือใช้สีฉีดเข้าไปในปอดแล้วฉายเอ๊กซเรย์ แต่เมื่อผู้ขอ-เอาประกันปกปิดมิได้แจ้งเรื่องที่เจ็บป่วยให้แพทย์ผู้ตรวจสุขภาพทราบ ก็ไม่มีเหตุที่แพทย์จะต้องฉายเอ๊กซเรย์ตรวจดูถุงลมของผู้เอาประกัน เพราะไม่อาจรู้ได้ว่าผู้เอาประกันเป็นโรคถุงลมพอง นายแพทย์ได้ตรวจร่างกายผู้เอาประกันแล้วเห็นว่าสุขภาพปกติจึงรายงานเสนอความเห็นควรรับประกัน และการรับประกันชีวิตของจำเลยก็พิจารณาจากรายงานของแพทย์ประกอบกับคำขอเอาประกัน เช่นนี้จะฟังว่าจำเลยผู้รับประกันประมาทเลินเล่อมิได้ กรณีไม่ต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 866

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2432/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเบิกความเท็จไม่สมบูรณ์ เหตุไม่ระบุความสำคัญต่อคดี
ฟ้องว่าเบิกความเท็จ บรรยายคำเบิกความที่ว่าเป็นเท็จและว่าความจริงเป็นอย่างไร กับว่า เป็นข้อสำคัญในคดีแต่มิได้บรรยายว่าสำคัญแก่คดีอย่างไร เป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตาม มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1428/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบความผิดฐานเบิกความเท็จต้องปรากฏในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง การพิจารณาความสำคัญของข้อเท็จจริงต้องเกิดขึ้นในชั้นไต่สวน
คดีอาญาในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ต้องนำสืบให้ปรากฏข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิดที่ได้ฟ้อง จึงจะทำให้คดีโจทก์มีมูลอันศาลจะพึงประทับฟ้องไว้พิจารณาต่อไปได้
คดีที่ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานเบิกความเท็จ โจทก์จะอ้างว่าข้อความที่จำเลยเบิกความนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีหรือไม่จะต้องพิจารณาในชั้นพิจารณาไม่ใช่ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ดังนี้หาได้ไม่
of 2